กระบี่, อบจ.กระบี่ เรียก 100 ล้าน จากผู้สร้าง ?เดอะบีช? ฟื้นฟูอ่าวมาหยา ( ข่าวกระบี่ )

ศาลฎีกาสั่งให้บริษัท ซานต้า อินเตอร์เนชั่นแนลฟิล์ม โปรดักชั่น จำกัด และบริษัท ทเวนตี้ เซนจูรี่ ฟอกซ์ จำกัด ผู้สร้างหนัง ?เดอะบีช? ฟื้นฟูเกาะพีพี ตามที่ อบต.อ่าวนาง และ อบจ.กระบี่ เรียกร้องค่าเสียหาย โดยให้ประเมินค่าเสียหายการฟื้นฟูให้กลับสู่สภาพที่สวยงามเหมือนเดิม เบื้องต้นนายก อบจ.เรียกค่าฟื้นฟู 100 ล้านบาท

จากกรณีที่บริษัท ทเวนตี้ เซนจูรี่ ฟอกซ์ จำกัด ได้เข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง ?เดอะบีช? ที่หาดอ่าวมาหยา ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ หาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ เมื่อช่วงปลายปี 2541 ที่ผ่านมา โดยการประสานงานของ นายสันต์ เปสตันยี เจ้าของบริษัท ซานต้า อินเตอร์เนชั่นแนลฟิล์ม โปรดักชั่น จำกัด ซึ่งบริษัทหนังดังกล่าวได้นำเครื่องจักรเข้ามาปรับพื้นที่บนชายหาดอ่าวมาหยา เพื่อสร้างโลเกชั่นในการถ่ายทำภาพยนตร์ ส่งผลให้พื้นที่สันทรายบนอ่าวมาหยา และทรัพยากรธรรมชาติที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวได้รับความเสียหาย

ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ และองค์การบริหารส่วนตำบลอ่าวนาง พร้อมด้วยประชาชนชาวเกาะพีพี จึงได้ออกมาคัดค้านการกระทำดังกล่าว จนทางบริษัททำหนังดังกล่าวรับปากว่าจะฟื้นหาดอ่าวมาหยาให้กลับคืนสู่สภาพเดิม และได้ดำเนินการถ่ายทำหนัง ?เดอะบีช? ไปจนปิดกล้องเรียบร้อย ในขณะที่ทางกลุ่มผู้คัดค้านยังคงยืนยันที่จะคัดค้านต่อไป โดยเริ่มมีการฟ้องร้องมาตั้งแต่ปี 2542 เป็นคดีความยืดเยื้อมาเป็นเวลากว่า 7 ปี

ล่าสุด นายสมศักดิ์ กิตติธรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2549 ที่ผ่านมา ทางศาลฎีกาได้ตัดสินคดี ให้บริษัท ซานต้า อินเตอร์เนชั่นแนลฟิล์ม โปรดักชั่น จำกัด จำเลยที่ 4 และบริษัท ทเวนตี้ เซนจูรี่ ฟอกซ์ จำกัด จำเลยที่ 5 ชดใช้ค่าเสียหายโดยให้โจทก์ที่ 1 คือ อบต.อ่าวนาง และโจทก์ที่ 2 คือ อบจ.กระบี่ มอบหมายให้หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งทำการประเมินค่าเสียหายที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทางบริษัททั้ง 2 ชดใช้ค่าเสียหายต่อไป

โดยให้พิจารณาว่า การฟื้นฟูอ่าวมาหยานั้น จะต้องใช้เวลานานเท่าใด และขณะนี้สภาพอ่าวมาหยานั้น มีสภาพเป็นอย่างไร ต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่ในการฟื้นฟูให้กลับสู่สภาพเดิม ส่วนโจทก์ที่ 3-19 ซึ่งเป็นส่วนของภาคประชาชนที่ร่วมฟ้องร้องด้วยนั้น ศาลฎีกาได้พิจารณาว่าให้ยกฟ้อง เนื่องจากเห็นว่าโจทก์ที่ 3-19 นั้น เป็นเพียงประชาชนทั่วไปไม่มีส่วนได้เสียในเรื่องของสิ่งแวดล้อม

นายก อบจ.กระบี่ กล่าวต่อว่า ในส่วนของอ่าวมาหยานั้น เดิมมีสภาพที่สวยงาม ซึ่งธรรมชาติสร้างมาเป็นร้อยๆ ปีแล้ว กว่าจะมีสันทรายที่สวยงามเกิดขึ้นมาป้องกันไม่ให้น้ำเซาะพังลงมา แต่เมื่อมีบริษัทหนังต่างชาติได้เข้ามาปรับพื้นที่เพื่อถ่ายทำภาพยนตร์ ทำให้สันทรายได้หายไปเหลือแต่ผืนน้ำ หากมีการคลื่นกัดเซาะมากเข้าอ่าวมาหยาก็คงจะเหลือเพียงแต่น้ำทะเลเท่านั้น จะไม่มีพื้นผืนทรายให้เหยียบย่ำเหมือนแต่ก่อน

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นเราได้เรียกค่าเสียหายเป็นจำนวน 100 ล้านบาท โดยให้จำเลยที่ 4 คือ บริษัท ซานต้า อินเตอร์เนชั่นแนลฟิล์ม โปรดักชั่น และจำเลยที่ 5 คือ บริษัท ทเวนตี้ เซนจูรี่ฟ็อกซ์ จำกัด เข้ามาทำการปรับปรุง ฟื้นฟูอ่าวมาหยา ให้กลับเข้าสู่สภาพเดิม ถึงแม้ว่าจะต้องใช้เวลานานแค่ไหนก็ตาม ไม่ใช่ว่าให้บริษัทหนังต่างชาติ เข้ามาขุดต้นมะพร้าวไปแล้วพอมีปัญหาขึ้นมาก็เอามะพร้าวกลับมาปลูกอีก

แต่ขณะนี้ไม่เหลือต้นมะพร้าวแม้แต่ต้นเดียว ซึ่งภาพที่ออกสู่สายตาชาวโลกในภาพยนตร์เรื่อง ?เดอะบีช? นั้นสวยงามมาก แต่พอมาดูของจริงแล้วไม่ได้เป็นอย่างนั้น ซึ่งเท่ากับว่า เราหลอกชาวโลก ต่อไปนี้ ทาง อบจ.กระบี่ ก็จะได้เข้าไปสำรวจถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นกับอ่าวมาหยา เพื่อให้ทางบริษัทดังกล่าวเข้าไปฟื้นฟู? นายก อบจ.กระบี่ กล่าว

อนึ่ง ภาพยนตร์ ?เดอะบีช? นำแสดงโดยดาราชื่อดัง ลีโอนาโด ดิ คาปริโอ เข้ามาถ่ายทำที่อ่าวมาหยา และที่ จ.ภูเก็ต เมื่อปี 2541 ท่ามกลางการประท้วงของกลุ่มอนุรักษ์ธรรมชาติ จนเป็นข่าวไปทั่วโลก และเมื่อภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกนำออกฉายก็ไม่ประสบความสำเร็จในเรื่องรายได้มากนัก และถูกวิจารณ์ในทางลบมากกว่า

ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์