ข่าวสาร ข่าวทั่วไป ในแถบ อันดามัน ( ภูเก็ต, กระบี่, ระนอง, ตรัง, พังงา, สตูล )
กระบี่, ตร.กระบี่วิสามัญมือปืนลำดับ 50 กรมตำรวจดับคาที่ ( ข่าวกระบี่ )
ตำรวจกระบี่สนธิกำลังทุกหน่วยบุกจับมือปืนลำดับ 50 ของกรมตำรวจ แต่คนร้ายชะตาขาดริอาจยิงต่อสู้ เจ้าหน้าที่วิสามัญตายคาบ้านพัก ขณะนอนดูรูปเหยื่อ นายกอบต.คนดังเมืองภูเก็ต คิวสังหารพรุ่งนี้ หลังตามล่ามากว่า 1 ปี
วันนี้ (26 พ.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. พ.ต.อ.สัมฤทธิ์ นิลทอง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรอำเภอเหนือคลอง จ.กระบี่ รับแจ้งเหตุวิสามัญฆาตกรรม บริเวณบ้านเลขที่ 59 หมู่ที่ 6 ต.โคกยาง อ.เหนือคลอง จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัย และแพทย์เวรโรงพยาบาลเหนือคลอง พบที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว ซึ่งเป็นบ้านของนางถนอม ลิ้มคำ อายุ 42 ปี ทำงานอยู่ที่สนามบินนานาชาติกระบี่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการปิดกั้นบริเวณ เพื่อป้องกันชาวบ้านที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปใกล้ที่เกิดเหตุ
ตรวจสอบภายในบ้าน พบผู้เสียชีวิต ทราบชื่อ นายไชยวัฒน์ กำไล อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32/120 ถ.เยาวราช ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต นอนตายอยู่ที่ระเบียงบ้าน สภาพศพนอนหงาย สวมเสื้อยืดแขนยาว สีน้ำเงิน สวมกางเกงขาก๊วยสีน้ำเงิน ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. จำนวน 2 นัด เข้าที่บริเวณราวนมซ้าย และที่บริเวณหัวไหล่ด้านซ้าย จำนวน 1 นัด และมีอาวุธปืนขนาด 11 มม.กำอยู่ในมือขวาของผู้ตาย และกระเป๋าเป้ สีน้ำเงินจำนวน 1 ใบ วางอยู่ใกล้ตัว พบรูปภาพเหยื่อที่จะไปสังหารรายต่อไป
จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ตายเป็นมือปืนรับจ้างอันดับที่ 5 จากรายชื่อมือปืน 50 รายตามหมายจับของตำรวจกองปราบปราม และผู้ตายยังเป็นอดีตตำรวจสังกัด นปพ.ภูเก็ต ตำแหน่ง ผบ.หมู่งานป้องกัน และยังได้ปลอมแปลงชื่อเป็น ส.ต.ท.จรัล ห้วยหงษ์ทอง ส่วนผู้ร่วมในกลุ่มมือปืนนี้อีก 2 คน ได้หลบหนีไป จากการตรวจค้นบริเวณบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้พบวัตถุระเบิดชนิดลูกเกลี้ยง จำนวน 1 ลูก อาวุธปืนอาก้า 1 กระบอก
จากการสืบสวนชุดปราบปรามมือปืนรับจ้าง กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 นำโดย พล.ต.ต.หาญพล นิตธิวิบูลย์ ผบ.ตร.ภาค 7 ชุดปราบมือปืนรับจ้าง สังกัด ภ.7 พ.ต.อ.เรวัช กลิ่นเกสร รอง ผบก.หัวหน้าศูนย์สืบสวน ภ.7 พ.ต.ต.ธีระภพ ธุรกิจ ผกก.นปพ.ศ.สส.ภ.7 พ.ต.ต.จรินทร์ หงษ์ทอง สว.สส.ภ.จว.ประจวบคีรีขัน ทราบว่า
ก่อนเกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดดังกล่าวได้ทำการติดตามกลุ่มมือปืนกลุ่มนี้ที่ได้ก่อคดีมาแล้วหลายครั้งในพื้นที่จังหวัดนครปฐม
โดยเมื่อช่วงเช้าวันเดียวกันได้ทำการจับตัวนายจารุวัฒน์ บุหลาด 1 ในกลุ่มมือปืนดังกล่าว ที่บ้านเลขที่ 18 ม.3 ต.บ่อแสน อ.ทับปุด จ.พังงา ได้ที่บังกะโลลองบีชหาดยาว อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ ต่อมาได้ขยายผลจนทราบว่า นายชัยวัฒน์ กำไล ได้หนีมากบดานที่บ้านเลขที่ 59 หมู่.1 ต.โคกยาง อ.เหนือคลอง จึงได้นำเจ้าหน้าที่ รวม 16 นาย เข้าทำการปิดล้อม เพื่อจับกุม
ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามมือปืนบุกเข้าไปค้นในบ้าน พบคนร้ายกำลังนอนดูภาพเป้าหมายอยู่ที่ระเบียงบ้าน จากนั้นเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ชุดปราบปราม ก็ลุกขึ้นพร้อมกับชักปืนออกมายิง 1 นัด กระสุนพลาดไปโดนพัดลม ทันใดนั้น พ.ต.อ.เรวัช กลิ่นเกสร รอง ผบก.หัวหน้าศูนย์สืบสวนฯ ก็ได้ยิงสวนออกไป 1 นัด กระสุนถูกคนร้ายเข้าที่ บริเวณใต้ราวนมด้านซ้าย 1 นัด และบริเวณหัวไหล่ซ้ายอีก 1 นัด คนร้ายทนพิษบาทแผลไม่ไหวเสียชีวิตทันที
ต่อมา พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ และได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดดังกล่าว นำตัวนายอนุวัฒน์ บุหลาด 1 ในกลุ่มมือปืนรับจ้าง ไปทำแผนประการรับสารภาพ ที่จังหวัดภูเก็ต ที่กลุ่มมือปืนกลุ่มนี้รับงานมา โดยเหยื่อที่จะถูกสังหารคือ นายทวีศักดิ์ โสดรักษา ตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ในราคา ค่าหัว 500,000 บาท โดยจะลงมือในวันพรุ่งนี้ ( 27 พ.ค.) แต่ถูกวิสามัญเสียก่อน ส่วนคนร้ายอีก 2 คน ที่หลบหนีไปได้ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวออกติดตามตัวมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด
จากการสอบปากคำ นายอนุวัฒน์ บุหลาด 1 ในกลุ่มมือปืนที่ถูกจับกุมได้ในช่วงเช้าของวันนี้ (26 พ.ค.) ติดอันดับที่ 30 ของกรมตำรวจที่ได้ติดตามจับกุมอยู่ ได้ให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ก่อนหน้านี้ นายไชยวัฒน์ ผู้ตาย ได้พาคนไปชี้เป้าที่จะสั่งหาร นักการเมืองท้องถิ่นในจังหวัดภูเก็ต คือ นายทวีศักดิ์ โสดรักษา นายก อบต. ศรีสุนทร โดยตนเองจะทำหน้าที่เป็นผู้ขับรถ ให้นายไชยวัฒน์ ผู้ตาย แต่กลับมาถูกจับกุมก่อน
สำหรับประวัติของนายไชยวัฒน์ มือปืนอันดับ 5 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งได้ก่อคดีมาในหลายพื้นที่ เมื่อปี 2542 ได้ก่อคดีฆ่านักท่องเที่ยวซึ่งเป็นชาวต่างชาติ ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และได้ทรัพย์สินไปกว่า 2,000,000 บาท และเมื่อปี 2547 ได้ไปก่อคดีปล้นฆ่าในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ 2 ศพ ได้ของกลางไปประมาณ 4,000,000 บาท ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวมา กว่า 1 ปี ก่อนที่จะมาถูกจับกุม และวิสามัญดังกล่าว
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์