ประธานคณะกรรมการการท่องเที่ยวและกีฬาออกโรง แฉ นายทุนรุกที่เขาหน้าหาดอ่าวนางแล้ว กว่า 300 แปลง หวั่นเกิดดินโคลนถล่ม ทำท่องเที่ยวพัง
จากกรณีที่ นายพิสุทธิ์ ภูมิภมร สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ (ส.อบจ.กระบี่) ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน ว่า บริเวณเขาหน้าหาดอ่าวนาง หมู่ที่ 2 ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ได้มีกลุ่มนายทุนเข้าไปบุกรุกจับจอง และปรับสภาพพื้นที่ป่า
นอกจากนี้ บางแปลงทราบว่า ได้มีการออกเอกสารสิทธิไปแล้ว ทั้งที่พื้นป่าแห่งนี้ยังคงมีป่าที่อุดมสมบูรณ์ และมีความลาดชันเกิน 35 องศา ซึ่งตามกฎหมายแล้วไม่สามารถออกเอกสารสิทธิใดๆ แต่ก็ยังมีการออกเอกสารสิทธิอย่างต่อเนื่อง โดยบางแปลงกำลังอยู่ระหว่างการขอออกเอกสารสิทธิ และบางแปลงก็ได้มีการออกเอกสารสิทธิไปแล้วตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้ว
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (30 ต.ค.) นายพิสุทธิ์ ภูมิภมร ส.อบจ.กระบี่ และมีตำแหน่งเป็นประธานคณะกรรมการการท่องเที่ยวและกีฬา สภา อบจ.กระบี่ พร้อมด้วย นายสาคร เกี่ยวข้อง ส.อบจ.กระบี่ ได้นำผู้สื่อข่าวเข้าตรวจสอบ พื้นที่บริเวณภูเขาหน้าหาดอ่าวนาง หมู่ที่ 2 ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่
ทั้งนี้ พบว่า พื้นที่เขาหน้าหาดอ่าวนาง ที่ได้รับการร้องเรียนว่า มีการบุกรุกอยู่คนละฝากถนนกับถนนหน้าอ่าวนาง โดยอยู่หลังย่านธุรกิจหน้าหาดเพียง 500 เมตร และมีการตัดถนนทำทางขึ้นไปยังภูเขาดังกล่าว กว้างประมาณ 5-10 เมตร โดยได้ตัดเลียบไปตามไหล่เขา หลังย่านธุรกิจหน้าหาดอ่าวนาง มีความยาวประมาณ 2 กิโลเมตร
หลังจากที่ทางกลุ่ม ส.จ.ได้พาผู้สื่อข่าวเดินทางขึ้นไปตรวจสอบพื้นที่ป่าที่ถูกบุก ก็ได้มีนายทุนรายหนึ่งไม่ทราบชื่อใช้รถยี่ห้อ อีซูซุ มิวส์เซเว่น สีเทา ไม่ทราบแผ่นป้ายทะเบียน ได้ขับตามขึ้นมาโดยมีคนนั่งมาในรถประมาณ 4 คน เป็นหญิง 1 คน ได้เข้ามาพูดคุยกับ ส.จ.พร้อมกับนำเอกสารการถือครองกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่ได้รับการร้องเรียน ว่า มีการบุกรุกออกมายืนยันว่าเป็นกรรมสิทธิ์ ที่ได้มาด้วยความถูกต้อง พวกคุณจะตรวจสอบอะไรกับพื้นที่ดังกล่าว
กลุ่ม ส.จ.ก็ได้ตอบไปว่า ไม่ได้ขึ้นมาตรวจสอบพื้นที่ของคุณ แต่ที่ขึ้นมาก็เพื่อเข้าไปตรวจสอบการก่อสร้าง โครงการวอล์กเวย์ และปักแนวเขตของจังหวัดที่ส่อไปในทางมิชอบ โดยการเดินทางต้องใช้เส้นทางดังกล่าวขับรถผ่าน
ต่อมาผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปตรวจสอบ บริเวณปลายสุดของเขาอ่าวนาง ที่จังหวัดได้ตัดถนนทำวอล์กเวย์ พบว่า มีการตัดถนนกว้างถึง 10 เมตร และบริเวณที่มีต้นไม้ขวางทางก็ได้ตัดโค่นออกไป ซึ่งสามารถวัดโคนต้นโดยรอบบางต้นมีความกว้างประมาณ 15 นิ้ว และยังพบว่า บริเวณใกล้เคียง ได้มีการบุกรุกปลูกปาล์มน้ำมัน มะม่วง และสะตอ โดยมีอายุประมาณ 1-2 ปี และบางแห่งมีอายุ 4-5 ปี นอกจากนี้ ยังพบว่า มีการบั่นโคนต้นไม้ขนาดใหญ่เพื่อให้ยืนต้นตาย และมีการปลูกแซมด้วยผลอาสินนานาพรรณ
นายพิสุทธิ์ ภูมิภมร ส.อบจ.กระบี่ และมีตำแหน่งเป็นประธานคณะกรรมการการท่องเที่ยวและกีฬา สภา อบจ.กระบี่ ได้กล่าวว่า โครงการการทำวอล์กเวย์ของจังหวัด เป็นที่น่าผิดสังเกตเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากการก่อสร้างสวนทางกับโครงการ ซึ่งการทำวอล์กเวย์ ก็เพื่อเป็นทางเดินชมวิวเท่านั้นแต่เมื่อเข้าไปดูพื้นที่จริง กลับพบว่า มีการตัดถนนเป็นพื้นที่กว้าง 5-10 เมตร ซึ่งไม่น่าจะใช่เป็นวอล์กเวย์น่าจะเป็นการตัดถนน เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นายทุนมากกว่า เพราะการตัดถนนมีการเลียบไปตามไหล่เขา และบางแห่งก็ได้ตัดผ่านพื้นที่มีเอกสารสิทธิ
ดังนั้น จึงอยากให้ทางหน่วยเหนือเข้ามาตรวจสอบอย่างเร่งด่วน เพราะหากปล่อยไว้ก็อาจจะทำให้พื้นที่ดังกล่าวเกิดดินถล่มได้ เนื่องจากต้นไม้ขนาดใหญ่ด้านบน ได้มีการแผ้วถางไปแล้วเกือบทั้งหมด และที่สำคัญ ก็คือ ได้มีการตัดถนนซึ่งอาจจะทำให้เกิดดินถล่มได้
ทางด้าน นายสาคร เกี่ยวข้อง ส.จ.กระบี่ และรองประธานสภา อบจ.กระบี่ กล่าวว่า อยากให้รัฐบาล หรือทางหน่วยงานที่มีอำนาจตรวจสอบเข้ามาตรวจสอบอย่างจริงจังเสียที เพราะนับวันเขาหน้าหาดอ่าวนาง ซึ่งอยู่ในบริเวณแหล่งท่องเที่ยวที่ติดอันดับโลก นับวันถูกบุกรุกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่น้อยกว่า 200-300 แปลง ตั้งแต่เนินเขาจนกระทั่งถึงยอดเขา และบางแปลงก็ได้มีการออกเอกสารสิทธิไปแล้ว
นอกจากนี้ ยังทราบว่า ได้มีญาติของเจ้าหน้าที่ของรัฐบางคนในจังหวัด เข้าไปถือครองและกำลังยื่นขอออกโฉนด ซึ่งตนจะคัดค้านให้ถึงที่สุด และบางแปลงที่ได้ออกเอกสารสิทธิไปแล้ว ก็อยากให้เข้ามาตรวจสอบอย่างจริงจังว่าออกโฉนดชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ก่อนที่อ่าวนางจะพัง เพราะการบุกรุก และให้ตรวจสอบการทำโครงการวอล์กเวย์ของจังหวัดด้วย ว่าถูกต้องตามวัตถุประสงค์หรือไม่
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์