ชาวบ้านอำเภอลำทับ บุกศาลากลางจังหวัดกระบี่ จี้ผู้ว่าฯแจงสร้างถนนกันแนวเขตป่า หวั่นทำป่าไม้เชื่อมโทรม
วันนี้ (5 ก.ย.) ชาวบ้านจากหมู่ที่ 1, 2, 3, ตำบลทุ่งไทรทอง และหมูที่ 9 ตำบลลำทับ อำเภอลำทับ จังหวัดกระบี่ ประมาณ 60 คน เดินทางมาที่ศาลากลางจังหวัดกระบี่ เพื่อขอให้ทางนายสนธิ ตชานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงกรณีที่จังหวัดได้เข้าไปตัดถนนกันแนวป่าบริเวณป่าสงวนแห่งชาติ เขาประบางคราม และเขตป่าไม้ถาวรป่าไร่คอก พร้อมกับให้ยุติการตัดแนวถนน และให้ออกสำรวจแนวเขตพื้นที่ใหม่ เนื่องจากจากชาวบ้านเกรงว่า พื้นที่ของพวกตนที่อยู่ในเขตป่าดังกล่าว ซึ่งมีผลอาสินอยู่แล้วจะถูกทางราชการยึดกลับ ต่อมาทางผู้ว่าฯได้เชิญตัวแทนเข้าชาวบ้านพร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชเข้าร่วมชี้แจ้ง ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดกระบี่
นายสนธิ เตชานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า โครงการตัดถนนกันแนวเขตป่าสงวนแห่งชาติ เขาประบางคราม และเขตป่าไม้ถาวรป่าไร่คอก บริเวณ หมู่ที่ 1, 2, 3, ตำบลทุ่งไทรทอง และหมู่ที่ 9 ตำบลลำทับ อำเภอลำทับ เป็นนโยบายของจังหวัด เพื่อต้องการที่จะรักษาป่าเอาไว้ เนื่องจากปัจจุบันได้มีชาวบ้านได้เข้าบุกรุกปลูกยางพาราและปาล์มน้ำจนพื้นที่ป่าเหลือน้อยมาก
ที่สำคัญ พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่อนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า โดยเฉพาะนกแต้วแร้วท้องดำซึ่งเป็นนกที่หาดูได้ยาก และมีแห่งเดียวในประเทศ เกรงว่า จะสูญพันธุ์ไป และยังเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารที่หล่อเลี้ยงคนกระบี่ ซึ่งหากว่าปล่อยให้มีการบุกรุกอยู่ต่อไปพื้นป่าแห่งนี้คงจะหมดไปอย่างแน่นอน
ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวต่อว่า สำหรับการตัดถนนดังกล่าวมีความกว้างประมาณ 6 เมตร ยาวประมาณ 20 กิโลเมตร โดยผู้รับเหมาได้เข้าไปดำเนินการเมื่อวันที่ 1 ก.ย.2549 แต่ทางชาวบ้านไม่ยอมให้ทำการตัดถนน และขอฟังคำชี้แจงจากทางจังหวัด ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็ได้ให้ทางอำเภอลำทับเข้าไปทำความเข้าใจกับชาวบ้านแล้วและทุกคนก็เห็นด้วย
แต่ก็มีชาวบ้านอีกส่วนหนึ่งที่ยังไม่เข้าใจ และเกรงว่า เมื่อทางจังหวัดทำการตัดถนนกันแนวเขตป่าแล้วทางจังหวัดจะยึดพื้นที่คืนเป็นของรัฐ ซึ่งตนยืนยันว่า พื้นที่ที่ชาวบ้านบุกรุก และมีผลอาสินอยู่แล้วจะไม่เข้าไปจับกุมอย่างเด็ดขาด และจะไม่ยึดพื้นที่คืนด้วย แต่ต้องมีข้อแม้ว่าต่อไปพื้นที่จะไม่ถูกบุกรุกเพิ่มและหากมีการบุกรุกอีกก็จะทำการจับกุมอย่างเด็ดขาด
?พื้นที่ของชาวบ้านที่อยู่ในเขตป่าที่มีผลอาสินอยู่แล้ว นอกจากจะไม่จับกุมแล้ว เมื่อการตัดถนนผ่านพื้นที่ของผู้ใดก็ให้ผู้นั้นรับเป็นเจ้าของ เพื่อจะได้สำรวจพื้นที่ไปพร้อมกัน ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการบุกป่าเพิ่ม และในอนาคตหากว่าทางรัฐบาลจะออกเอกสารสิทธิทำกินใดๆ ก็แล้วแต่กลุ่มเหล่านี้ก็ถือได้ว่าเป็นกลุ่มคนที่ได้สำรวจไปแล้ว? นายสนธิ กล่าว
ด้าน นายบุญมา คงแก้ว ตัวแทนชาวบ้าน อายุ 42 ปี กล่าวว่า การที่พวกตนเดินทางมาที่ศาลากลางจังหวัดเพื่อต้องการเรียกร้องให้ทางจังหวัดยุติการตัดถนน และให้ทางจังหวัดสำรวจแนวเขตใหม่ แต่หลังจากที่ได้ฟังคำชี้แจงจากทางจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพวกตนก็ไม่มีความมั่นใจว่าพื้นที่ของพวกตนที่อยู่ในเขตป่าเมื่อทางผู้ว่าราชการจังหวัดคนปัจจุบันย้ายไป จะมีการยึดคืนหรือเข้าไปทำประโยชน์ได้อีกหรือไม่
แต่เบื้องต้นก็ต้องยอมรับหลักการของจังหวัด เนื่องจากผู้ว่าฯรับปากว่าจะสามารถทำประโยชน์ตกทอดไปชั่วลูกหลานและรอคอยวันที่ทางรัฐบาลจะออกเอกสารสิทธิให้
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์