โชวห่วยกระบี่ รวมตัวบุกพบนายก อบจ.ขอแรงหนุนต่อต้านห้างยักษ์ค้าปลีกข้ามชาติ ที่มีโครงการจะเข้าไปเปิดในพื้นที่กระบี่ เร็วๆ นี้ พร้อมนัดชุมนุมครั้งใหญ่ 1 ก.ย.และเข้าพบยื่นข้อเรียกต่อผู้ว่าฯในวันที่ 4 ก.ย.
เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (30 ส.ค.) ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ นำโดยนายชัยสิทธิ์ เบญจอริยะกุล ประธานชมรมการค้าจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยสมาชิก 15 คน เข้าพบ นายสมศักดิ์ กิตติธรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) กระบี่ เพื่อขอให้ช่วยเป็นกำลังร่วมต้านค้าปลีกข้ามชาติ ที่มีกระแสข่าวว่า จะมาเปิดให้บริการที่บริเวณพื้นที่ อบต.กระบี่น้อย อ.เมือง จ.กระบี่ ในเร็วๆ นี้ โดยอาศัยช่องว่างของกฎกระทรวงที่ห้ามค้าปลีกข้ามชาติสร้างในเขตระยะ 15 กิโลเมตร ห่างจากเขตเทศบาลเมือง ซึ่งหมดวาระแล้วเมื่อวันที่ 15 พ.ค.2549
นายชัยสิทธิ์ เบญจอริยะกุล ประธานชมรมการค้าจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า หากว่าค้าปลีกข้ามชาติมาเปิดที่จังหวัดกระบี่ โดยเฉพาะในบริเวณที่ห่างจากเขตเทศบาลเมืองกระบี่ ไม่ถึง 2 กิโลเมตร เหมือนอย่างที่กำลังจะมาเปิดที่ ในพื้นที่ อบต.กระบี่น้อย คงจะสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ประกอบการโชวห่วยในเขตเทศบาลเมืองกระบี่อย่างแน่นอน
โดยเฉพาะในเรื่องของการทำตลาด ซึ่งค้าปลีกข้ามชาติสามารถที่จะทุ่มตลาดซื้อสินค้าจำนวนมากได้ แต่ทางผู้ประกอบการโชวห่วยไม่สามารถทำได้ และต่อไปผู้ประกอบการโชวห่วยก็จะสูญสลายไปจากกระบี่เหมือนอย่างหลายๆ จังหวัดที่กำลังเกิดขึ้น
นายชัยสิทธิ์ กล่าวอีกว่า การที่จะห้ามไม่ให้ค้าปลีกเกิดขึ้นในพื้นที่ จ.กระบี่ คงจะเป็นไปไม่ได้ แต่จะทำอย่างไรที่จะไม่ให้เกิดในเขตเมือง หรือให้เกิดในพื้นที่ตามกฎกระทรวงเดิม คือ ห่างจากเขตเทศบาลเมืองกระบี่อย่างน้อย 15 กิโลเมตรขึ้นไปเป็นอย่างน้อย ซึ่งขณะนี้กฎกระทรวงดังกล่าวก็หมดวาระกำหนดใช้ไปแล้ว และผู้ประกอบการค้าปลีกพยายามฉวยโอกาสที่จะขออนุญาตก่อสร้างในช่วงนี้ จึงต้องหาแนวร่วมจากหลายฝ่ายที่จะผลักให้ค้าปลีกข้ามชาติเกิดห่างจากเขตเมือง
และว่า ในวันที่ 1 ก.ย.นี้จะมีการรวมตัวสมาชิกกันที่บริเวณโรงแรมไทยโฮเท็ล เขตเทศบาลเมืองกระบี่ และในวันจันทร์ที่ 4 ก.ย.ก็จะเข้าพบ นายสนธิ เตชานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เพื่อช่วยหาแนวทางผลักดันค้าปลีกข้ามชาติเกิดในเขตเมือง
นายสมศักดิ์ กิตติธรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ กล่าวถึงเรื่องนี้ ว่า การที่จะห้ามไม่ให้ค้าปลีกข้ามชาติเกิดที่จังหวัดกระบี่คงจะเป็นไปไม่ได้ และจะต้องมีผลกระทบกับบุคคลบางกลุ่มอย่างแน่นอน โดยเฉพาะผู้ประกอบการโชวห่วยในเขตเทศบาลเมืองกระบี่ เนื่องจากทราบว่า ค้าปลีกข้ามชาติจะมาเปิดในเขตเมือง ซึ่งห่างจากเทศบาลเมืองไม่ถึง 15 กิโลเมตร แต่จะทำอย่างไรที่จะให้ทั้ง 2 กลุ่มนี้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างไม่มีข้อขัดแย้ง และได้เปรียบเสียเปรียบกันมากถึงขนาดอาจจะทำให้บางกลุ่มต้องสูญสิ้นไป
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับแนวทางที่ได้แนะนำให้ผู้ประกอบการโชวห่วยที่เข้าพบในวันนี้(30 ส.ค.) ขอให้ต่อสูกันตามกฎหมายอย่าใช้วิธีการรุนแรง เพราะจะมีแต่เสียเปรียบ และขอให้ค้าปลีกข้ามชาติอย่าฉวยโอกาสเข้ามาในช่วงที่กฎหมายหมดวาระ ควรจะให้มีกฎหมายบังคับใช้ที่ชัดเจนเสียก่อน และทาง อบจ.ก็พร้อมที่จะผลักดันในเรื่องของกฎหมายเดิม ห่างจากเขตเมือง 15 กิโลเมตร
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์