ระนอง, ท่าเรือระนองพร้อมเป็นศูนย์กลางส่งออกสินค้าไปยังกลุ่มบิมสเทก ( ข่าวระนอง )
ระนองจับมือการท่าเรือ ระดมสมอง จัดสัมมนาเรื่อง โอกาสพัฒนาธุรกิจการค้ากับท่าเรือระนองเปิดแน่ 21 ก.ค.ส่งสินค้าไปยังประเทศกลุ่มบิมสเทก
วันนี้ (6 ก.ค.) จังหวัดระนอง ร่วมกับการท่าเรือแห่งประเทศไทย ได้จัดการสัมมนาเรื่อง ?โอกาสพัฒนาธุรกิจการค้ากับท่าเรือระนอง? โดยมีประธานหอการค้า เลขาธิการหอการค้า ประธานสภาอุตสาหกรรม และเลขาธิการสภาอุตสาหกรรมจังหวัด จาก 14 จังหวัดภาคใต้ และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นักธุรกิจในจังหวัดระนองเข้าร่วมสัมมนา ที่โรงแรมรอยัล ปริ๊นเซส ระนอง
นายบุญส่ง เตชะมณีสถิตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า จังหวัดระนอง ได้กำหนดเปิดท่าเรือระนองระยะที่ 2 อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 21 กรกฎาคม 2549 มี นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีเปิด เพื่อให้ท่าเรือระนอง เป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศฝั่งอันดามัน โดยมีเป้าหมายหลักอยู่ที่กลุ่มประเทศบิมสเทก (BIMSTEC) จึงอยากให้ 14 จังหวัดภาคใต้ และ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้รับรู้ถึงโอกาสอันนี้ก่อนคนอื่น และอยากให้ฉกฉวยโอกาสนี้ก่อน เพราะว่าทุกวันนี้โลกการค้า คือ โลกาภิวัตน์
นายนิวรรษณ์ ทัพวงศ์ ผู้จัดการท่าเรือระนอง กล่าวว่า ท่าเรือระนองสามารถรับเรือสินค้าขนาด 12,000 เดตเวทตัน จอดเทียบท่าได้ครั้งละ 1 ลำ มีสะพานเชื่อมฝั่งกว้าง 7.5 เมตร ยาว 212 เมตร มีสะพานเชื่อมกับท่าเรืออเนกประสงค์เดิมกว่าง 8 เมตร ยาว 40 เมตร นอกจากนี้ มีการก่อสร้างลานวางตู้สินค้า อาคารให้บริการจุดเดียวแบบเบ็ดเสร็จ (ONE STOP SERVICE)
นางนที ชวนสนิท ผู้อำนวยการศูนย์บริการส่งออกแบบเบ็ดเสร็จ กรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวว่า ปัจจุบันกลุ่มประเทศสมาชิกบิมสเทก (BIMSTEC) มีด้วยกัน 7 ประเทศ คือ อินเดีย ศรีลังกา บังกลาเทศ พม่า เนปาล ภูฏาน และไทย เป็นตลาดขนาดใหญ่มีประชากร รวมกันกว่า 1,350 ล้านคน มีมูลค่าการค้าระหว่างไทยกับกลุ่มประเทศสมาชิกบิมสเทก ประมาณ 5,400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สินค้าส่งออกของไทย
ได้แก่ เม็ดพลาสติก เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ ผ้าผืน เครื่องรับวิทยุ โทรทัศน์ เคมีภัณฑ์ เครื่องยนต์ ปูนซีเมนต์ เป็นต้น ส่วนค้าที่นำเข้าของไทย คือ ก๊าซธรรมชาติ เครื่องเพชรพลอย อัญมณี สินแร่ ไม้ซุง ไม้แปรรูป พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช เป็นต้น
นางวนิดา ใหม่กิจเหมา ผู้อำนวยการศูนย์เศรษฐกิจภาคใต้ 2 กล่าวว่า ปัจจุบันการส่งเสริมการลงทุนในภาคใต้ตอนบนส่วนใหญ่จะอยู่ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ส่วนที่ระนองลงทุนต่ำสุด ส่วนใหญ่จะเป็นอุตสาหกรรมการเกษตร ซึ่งรวมถึงการแปรรูปอาหารทะเลด้วย และอุตสาหกรรมแร่ ส่วนการส่งเสริมการลงทุน ที่เกี่ยวข้องกับกิจการท่าเรือนั้น สามารถขอรับการสนับสนุน ได้ทางระบบการขนส่งทางน้ำ ทางอากาศ ทางบก การขนส่งระบบท่อ
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์