ระนอง, ระนองเพิ่มศักยภาพท่องเที่ยว - ผู้ว่าฯซีอีโอ ทุ่มงบฯหนุนเต็มที่ ( ข่าวระนอง )
ระนองเพิ่มศักยภาพท้องถิ่น พัฒนาการท่องเที่ยวตามยุทธศาสตร์ของจังหวัด ผู้ว่าฯ เผย ทุ่มงบฯซีอีโอลงด้านท่องเที่ยวมากเป็นพิเศษ ให้หน่วยงานต่างๆ เร่งดำเนินการให้เห็นเป็นรูปธรรม
เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (28 มิ.ย.) ที่โรงแรมไอเฟลอินน์ จังหวัดระนอง ได้จัดให้มีการสัมมนาเรื่อง ?ศักยภาพของท้องถิ่นต่อการพัฒนา และส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดระนองอย่างยั่งยืน? เพื่อเสริมสร้างศักยภาพการท่องเที่ยว ตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด เพื่อบูรณาการกิจกรรม และส่งเสริมการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน เพื่อประชาสัมพันธ์ และขยายการตลาดการท่องเที่ยวจังหวัดให้รู้จักอย่างกว้างขวาง โดยมีตัวแทนภาครัฐ องค์กรเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และตัวแทนองค์กรภาคประชาชน เข้าร่วมสัมมนา จำนวน 100 คน
ทั้งนี้ นายเมฆินทร์ เมธาวิกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ได้เป็นประธานเปิดการสัมมนา พร้อมบรรยายพิเศษเรื่อง การส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดระนองอย่างยั่งยืน และได้รับการสนับสนุนวิทยากรจากสมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย ศูนย์พัฒนากีฬาสู่ความเป็นเลิศ จ.สุพรรณบุรี และ สำนักงาน ททท.ภาคใต้ เขต 5 สุราษฎร์ธานี
ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า จังหวัดได้ทุ่มงบประมาณซีอีโอ ในด้านการท่องเที่ยวเยอะมาก แต่ยังมองไม่เห็นฝั่งว่าจะเกิดอะไรขึ้นมาบ้าง ดังนั้น ขอย้ำว่า ผู้ที่ได้งบประมาณซีอีโอไปต้องทำให้ดีและมีความรับผิดชอบด้วย ตนจะตามไปดูสิ่งที่ก่อสร้างหรือลงทุนไปเป็นเพียงอนุสาวรีย์หรือไม่ คณะกรรมการพัฒนาการท่องเที่ยวของจังหวัดเอง ก็ต้องลงไปสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่งด้วย
จังหวัดระนองมีศักยภาพมากๆ ในด้านการท่องเที่ยว เนื่องจากมีน้ำแร่ร้อนที่ดีที่สุด เป็นเมืองในภูเขา มีป่าไม้เป็นเอกลักษณ์สวยงาม มีท้องทะเล เกาะหาดทรายธรรมชาติแบบดั้งเดิม มีประวัติศาสตร์ที่สามารถสืบค้นได้ มีพระราชวังรัตนรังสรรค์เป็น 1 ใน 29 พระราชวังทั่วประเทศ ซึ่งพระมหากษัตริย์เคยเสด็จฯประทับแรมถึง 3 พระองค์
ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ จังหวัดระนอง ยังมีสิ่งที่แปลกอยู่ถึง 5 อย่าง คือ มีศาลากลางจังหวัดที่ทางขึ้นลงอยู่ด้านหลัง มีพญานาคหันหัวชนกัน มีชื่อหาดส้มแป้น แต่กลับอยู่ในหุบเขา มีป้ายแสดงเขตจังหวัด ที่หลบเข้ามาจากเขตจังหวัดถึง 20 กิโลเมตร และมีน้ำร้อนที่บรรจบกับน้ำเย็น ทำให้มีปลาจำนวนมาก หากสามารถดึงสิ่งเหล่านี้มาได้ก็ช่วยการท่องเที่ยวได้อีกทางหนึ่ง ที่ผ่านมา การบริหารจัดการของหน่วยงานต่างๆ ยังไม่ดีพอ ขาดความต่อเนื่อง ขาดเอกภาพ
ดังนั้น การสัมมนาในครั้งนี้ น่าจะทำให้เกิดความร่วมมือกันระหว่างส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรเอกชน และองค์กรภาคประชาชน ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดได้เป็นอย่างดี
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์