ระนอง, ระนอง เร่งควบคุมโรคมาลาเรีย หลังพบผู้ป่วยสูงถึง 800 คนแล้ว ( ข่าวระนอง )

โรคมาลาเรียยังคงระบาดในพื้นที่อำเภอกระบุรี พบผู้ป่วยพุ่งถึง 800 คนแล้ว ขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งควบคุมโรคเพื่อตัดวงจรการแพร่ระบาดของโรค

วันนี้ (4 มิ.ย.) ประชาชนในพื้นที่อำเภอกระบุรี จ. ระนอง โดยเฉพาะตำบลปากจั่น และตำบล จ.ป.ร.ยังคงไปเจาะเลือดตรวจหาเชื้อมาลาเรีย ที่หน่วยควบคุมโรคติดต่อนำโดยแมลงที่ 11.5.3 และหน่วยควบคุมโรคติดต่อนำโดยแมลงที่ 11.5.5 อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดพบผู้ป่วยแล้วกว่า 800 คน แต่ยังไม่มีผู้เสียชีวิต

ขณะที่สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 11 จังหวัดนครศรีธรรมราช ศูนย์ควบคุมโรคติดต่อนำโดยแมลงที่ 11.5 สำนักงานสาธารณสุขอำเภอกระบุรี และองค์กรเออาร์ซี อินเตอร์เนชั่นแนล ได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการในการตรวจหาเชื้อมาลาเรียด้วยกล้องจุลทรรศน์ให้แก่อาสาสมัคร เจ้าหน้าที่ประสานงานต่างด้าวในพื้นที่ชายแดนไทย-พม่า ของอำเภอกระบุรี จ. ระนอง และอำเภอท่าแซะ จ.ชุมพร จำนวน 20 คน

ทั้งนี้ องค์กรเออาร์ซี ได้สนับสนุนงบประมาณในการอบรม และสนับสนุนกล้องจุลทรรศน์ให้จำนวน 20 ตัว โดยใช้ระยะเวลาอบรม 10 วัน ซึ่งผู้ที่ผ่านการอบรมจะสามารถเจาะเลือดและตรวจวินิจฉัย สอบสวนโรคเชื้อมาลาเรียได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ พร้อมทั้งสามารถจ่ายยาให้ผู้ป่วยได้ด้วย โดยเฉพาะในชุมชนที่ห่างไกล ซึ่งจะสามารถตัดวงจรการแพร่ระบาดของโรคมาลาเรียได้เป็นอย่างดี

นายพรเลิศ โชคชัย นายอำเภอกระบุรี กล่าวว่า ในช่วงฤดูฝนของทุกปีโรคมาลาเรียจะระบาดในพื้นที่อำเภอกระบุรี จ. ระนอง และพื้นที่อำเภอท่าแซะ จ.ชุมพร ซึ่งทั้งสองอำเภอมีพื้นที่ติดกันและอยู่ติดชายแดนพม่าด้วย ขณะนี้พบผู้ป่วยในพื้นที่อำเภอกระบุรีแล้วกว่า 800 คน ซึ่งเมื่อปีที่แล้วตลอดทั้งปีมีผู้ป่วยกว่า 1,300 คน ถือว่าสูงมาก เมื่อเทียบกับจำนวนของประชากรทั้งอำเภอที่มีประมาณ 40,000 คน

ทั้งนี้ หากไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคได้ เชื้อมาลาเรียอาจจะแพร่ระบาดไปยังจังหวัดอื่นๆ ได้ เพราะการคมนาคมที่สะดวก ผู้ติดเชื้อแต่ยังไม่มีอาการสามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้อย่างรวดเร็ว แต่ตนมั่นใจว่ามาตรการที่เจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการอยู่อย่างต่อเนื่อง จะสามารถทำให้ผู้ป่วยด้วยโรคมาลาเรียในพื้นที่ลดลงได้ภายในระยะเวลา 3 ปี

ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์