ระนอง, ผู้ว่าฯระนองเตือน ตร.อย่างทำงานฉายเดี่ยว ( ข่าวระนอง )

ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ให้ตำรวจอย่าทำงานแบบโชว์เดี่ยว ให้ทำงานแบบบูรณาการกับหน่วยงานอื่นๆ
      
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (10 เม.ย.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระนอง ได้จัดให้มีการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบ และติดตามการบริหารงานตำรวจภูธรจังหวัดระนองหรือ กต.ตร.โดยมี นางกาญจนาภา กี่หมัน ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ในฐานะประธาน กต.ตร.เป็นประธานการประชุม มีคณะกรรมการเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง มี พล.ต.ต.วิรุฬ เอี่ยมไพจิตร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ในฐานะรองประธาน กต.ตร.จังหวัด เป็นผู้บรรยายสรุป
      
พล.ต.ต.วิรุฬ กล่าวว่า ปัจจุบันอัตรากำลังพลข้าราชการตำรวจในสังกัด ที่ได้รับอนุญาตมีจำนวน 1,410 นาย แต่มีอยู่จริงจำนวน 749 นาย แบ่งเป็นชั้นสัญญาบัตร 108 นาย ชั้นประทวน 641 นาย อัตราเปรียบเทียบเจ้าหน้าที่ 1 นาย รับผิดชอบประชากร 239 คน พื้นที่ 7.34 ตารางกิโลเมตร สำหรับสถิติคดีอาญา 5 กลุ่มของปี พ.ศ.2549 คือ คดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ เกิด 26 คดี จับกุม 11 คดี เมื่อเทียบกับปี พ.ศ.2548 มีอัตราการเกิดคดีลดลงร้อยละ 39.53
      
คดีเกี่ยวกับชีวิต ร่างกาย และเพศ เกิด 143 คดี จับกุม 89 คดี เมื่อเทียบกับปี พ.ศ.2548 มีอัตราการเกิดคดีลดลงร้อยละ 12.27 คดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ เกิด 168 จับกุม 92 เมื่อเทียบกับปี พ.ศ.2548 มีอัตราการเกิดคดีลดลงร้อยละ 20 คดีที่น่าสนใจ เกิด 92 จับกุม 18 เมื่อเทียบกับปี พ.ศ.2548 มีอัตราการเกิดคดีลดลงร้อยละ 8.11 และคดีที่รัฐเป็นผู้เสียหาย จับกุม 979 ราย จำนวนคน 1,218 คน เมื่อเทียบกับปี พ.ศ.2548 มีอัตราการจับกุมคดีเพิ่มขึ้นร้อยละ 51.31
      
ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระนอง กล่าวด้วยว่า สำหรับผลการปฏิบัติงานด้านการปราบปรามยาเสพติดไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2550 คือ ตั้งแต่เดือน ต.ค.2549 - ม.ค.2550 จับกุม 111 ราย จับกุม 128 คน การปราบปรามบุคคลต่างด้าว ส่งฟ้องศาล 1,539 คน ผลักดัน 146 คน และการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกัทรัพยากรธรรมชาติ เกิดคดี 82 คดี จับกุม 31 คดี โดยภาพรวมของการปฏิบัติหน้าที่ของทุกสถานีในสังกัด อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ สามารถควบคุมอาชญากรรมที่เกิดขึ้นในพื้นที่
      
นางกาญจนาภา กี่หมัน ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า ขอให้ตำรวจทำงานแบบบูรณาการกับหน่วยงานข้างเคียงที่เกี่ยวข้อง ส่วนการร้องเรียนที่เกี่ยวข้องกับตำรวจขอให้ตำรวจเป็นผู้ดำเนินการแก้ไขปัญหาเอง และต้องกำหนดการประชุม กต.ตร.จังหวัด ให้ชัดเจนว่าในหนึ่งปีจะมีการประชุมกี่ครั้ง
      
นอกจากนี้ ขอให้ตำรวจเข้มงวดในเรื่องของการปราบปรามยาเสพติด ผู้มีอิทธิพล แรงงานต่างด้าว การทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การสร้างความเข้มแข็งในชุมชน และการทำตัวเป็นแบบอย่างที่ได้ ไม่ใช้ตำแหน่งหน้าที่ไปหาผลประโยชน์

ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์