ผู้ตัดสินฟุตบอลจากสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ถูกกล่าวหาว่าไม่มีความเป็นกลางในการตัดสิน การแข่งขันฟุตบอล อบจ.ระนองคัพ ครั้งที่ 7
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้กำลังมีการแข่งขันฟุตบอล อบจ.ระนองคัพครั้งที่ 7 ซึ่งกำลังดุเดือดเพราะการแข่งขันได้เข้าสู่รอบที่สอง หรือรอบ 6 ทีมเพื่อคัดเหลือเข้ารอบรองชนะเลิศ หรือรอบสี่ทีมสุดท้าย โดยเฉพาะประเภทประชาชนทั่วไป ทีมชนะเลิศมีเงินรางวัลล่อใจถึง 100,000 บาท ถือว่าเป็นทัวร์นาเม้นท์ฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดระนอง มีทีมฟุตบอลส่งเข้าแข่งขันกว่าสิบทีมทั้งในพื้นที่จังหวัดระนอง และจากจังหวัดต่าง ๆ ในภาคใต้โดยนัดชิงชนะเลิศจะมีขึ้นในวันที่ 24 มี.ค.50
การแข่งขันฟุตบอลรายการนี้ ผู้จัดหวังจะยกการแข่งขันให้มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายจึงได้มีการเชิญคณะกรรมการตัดสินจากสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นผู้ควบคุมการแข่งขันทั้งหมด โดยมีนายภิรมย์ อั๋นประเสริฐ เป็นประธานผู้ตัดสินมีผู้ควบคุมการแข่งขันอยู่ประจำ 1 คน และคณะกรรมการตัดสินอีก 8 คน สลับกันลงทำหน้าที่ในแต่ละนัดโดยได้รับค่าตอบแทนรวมกันตลอดทัวร์นาเม้นท์นับแสนบาท
แต่การตัดสินของคณะกรรมการชุดดังกล่าวไป ๆ มา ๆ ชักจะทะเม่ง ๆ เมื่อผู้ที่ทำหน้าที่ตัดสินในสนามบางคนไม่มีความเป็นกลาง เป่าเข้าข้างบางทีมอย่างหน้าเกลียดโดยเฉพาะทีมฟุตบอลของสถานบันเทิงชื่อดังทีมหนึ่งในจังหวัดระนอง เหมือนกับว่ามีบุญคุณอะไรกันบางอย่างที่ต้องตอบแทน จากการตรวจสอบข้อมูลในทางลึกพบว่า มีผู้จัดการทีมฟุตบอลดังกล่าวได้เลี้ยงดูปูเสื่อแก่ผู้ตัดสินบางคนอย่างออกหน้าออกตาถึงโรงแรมที่พัก
ทำให้ทุกครั้งที่ทีมดังกล่าวลงแข่งขันผู้ควบคุมการแข่งขันจะมีคัดเลือกผู้ตัดสินที่สามารถควบคุมได้ลงทำหน้าที่ในสนาม ซึ่งทำให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบกัน โดยเฉพาะการทำฟาวล์ หรือการให้ลูกโทษ ทำให้ค้านสายตาผู้ชมรอบสนาม ถึงกับโห่ฮาป่าก์ ยิ่งสร้างความเสื่อมเสียให้แก่วงการฟุตบอลยิ่งขึ้นไปอีก
จึงอยากจะให้สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้เปลี่ยนตัวผู้ที่ทำหน้าที่ควบคุมการแข่งขัน และผู้ตัดสินบางคนที่ถูกกล่าวหา เพื่อความยุติธรรม และความน่าเชื่อถือของสมาคมฯเอง
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์