ระนอง, เกษตรกรระนองยิ้มหลังเมล็ดกาแฟพุ่งสูงแตะ 50 บาท/กิโลฯ ( ข่าวระนอง )

เกษตรกรชาวสวนกาแฟที่ระนองร่วม 3 พันรายยิ้มร่า หลังราคาเมล็ดกาแฟพุ่งสูงแตะ 50 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่พื้นที่เพาะปลูกลดลงกว่า 4 พันไร่จากเดิมกว่า 94,000 ไร่ เหตุบางส่วนหันไปปลูกยางพาราแทนช่วงที่ราคาสูง ด้านการค้าภายในสั่งคุมเข้มตามแนวชายแดน ป้องกันการลักลอบนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน

นายอนุรักษ์ พงศ์ประศาสน์ การค้าภายในจังหวัดระนอง กล่าวว่า ราคาเมล็ดกาแฟฤดูการผลิตปี 49/50 ของจังหวัดระนอง ที่กำลังออกสู่ตลาดในขณะนี้ถือว่ามีราคาสูงกว่าปีที่ผ่านมา โดยมีการรับซื้อของพ่อค้าในท้องถิ่นแบ่งออกเป็น 2 เกรด คือ เกรดดีกิโลกรัมละ 48.50-50.25 บาท เกรด 1 กิโลกรัมละ 47.50-49.50 บาท นอกจากนี้บริษัทผลิตกาแฟสำเร็จรูปรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย คือ เนสเล่ย์ ได้รับซื้อเมล็ดกาแฟจากสมาชิก จำนวน 3,000 ราย ในราคากิโลกรัมละ 50 บาท โดยสามารถขายได้คนละ 30 กระสอบ หรือ 3 ตัน

ขณะนี้ผลผลิตกาแฟได้ออกสู่ตลาดแล้วประมาณ 60-70% ซึ่งจังหวัดระนองมีพื้นที่ปลูกกาแฟประมาณ 94,000 ไร่ ให้ผลิตประมาณ 13,000 ตัน เมื่อเปรียบเทียบกับฤดูการผลิตปีที่ผ่านมา ถือว่า พื้นที่ปลูกลดลงประมาณ 4,000 ไร่ เนื่องจากยางพารามีราคาแพง ทำให้เกษตรกรโค่นต้นกาแฟหันไปปลูกยางพารากันมากขึ้น แต่เมื่อเปรียบเทียบกับผลผลิตต่อไร่ ถือว่า ในปีนี้ให้ผลผลิตสูงขึ้น สาเหตุมาจากสภาพดินฟ้าอากาศที่เอื้ออำนวย

การค้าภายในจังหวัดระนอง กล่าวต่อว่า สาเหตุที่ราคาเมล็ดกาแฟในปีนี้สูงขึ้นนั้น น่าจะมาจากประเทศที่ผลิตกาแฟรายใหญ่ อย่างประเทศบราซิลและเวียดนาม ได้ผลผลิตลดลง แต่ปริมาณความต้องการของผู้บริโภคสูงขึ้น ทำให้ราคาเมล็ดกาแฟในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลดีต่อราคาในประเทศไทยด้วย ซึ่งถือว่าเป็นไปตามกลไกของตลาดโลก ราคาเหมาะสมแล้ว เกษตรกรเองก็พอใจกับราคาที่เป็นอยู่ ซึ่งทางรัฐบาลไม่มีความจำเป็นต้องแทรกแซงราคาเหมือนกับทุกปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าราคาเมล็ดกาแฟในประเทศจะปรับตัวสูงขึ้น แต่ก็ยังไม่พบว่ามีการลักลอบนำเข้าเมล็ดกาแฟจากประเทศเพื่อนบ้านตามแนวชายแดนมาสวมรอยแต่อย่างใด ซึ่งการค้าภายใน ได้ประสานกับตำรวจน้ำระนอง และด่านศุลกากรระนอง เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เพราะถ้าหากมีการลักลอบนำเข้ามา ก็อาจจะส่งผลให้ราคาเมล็ดกาแฟในประเทศลดลงได้

ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์