ข่าวสาร ข่าวทั่วไป ในแถบ อันดามัน ( ภูเก็ต, กระบี่, ระนอง, ตรัง, พังงา, สตูล )

ระนอง, ทหารชี้ชนกลุ่มน้อยโรฮิงยาน่ากลัวหวั่นเป็นแนวร่วม 3 จ.ใต้ ( ข่าวระนอง )

รองเจ้ากรมยุทธการทหาร ลงพื้นที่จังหวัดระนอง รับทราบสถานการณ์ปัญหาแรงงานต่างด้าว พร้อมมอบเรือเร็วให้ใช้ปฏิบัติงาน 1 ลำ ชี้กลุ่มบุคลสัญชาติบังคลาเทศ เชื้อสายโรฮิงยา ที่นับถือศาสนาอิสลาม เป็นกลุ่มที่อันตราย เหตุทุกครั้งที่จับกุมได้ พบเตรียมลงไปยังพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

วันนี้ (13 ม.ค.) พล.ต.เผด็จการ จันทร์เสวก รองเจ้ากรมยุทธการทหาร กองบัญชาการทหารสูงสุด ในฐานะเลขานุการ อนุกรรมการ การสกัดกั้นแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้ามาทำงานในประเทศไทย พร้อมคณะเข้ารับฟังบรรยายสรุป ปัญหาเรื่องการปราบปรามสกัดกั้นแรงงานต่างด้าว หลบหนีเข้าเมืองในจังหวัดระนอง โดยมี พ.อ.ประยงค์ กล้าหาญ หัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 15 และหัวหน้าส่วนควบคุมชายแดนไทย-พม่า บรรยายสถานการณ์ให้ทราบ

พ.อ.ประยงค์ กล่าวว่า สาเหตุหลัก ๆ ที่แรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย เกิดจากปัญหาการเมืองภายใน ความยากจน ชนกลุ่มน้อย เขตแดน ซึ่งง่ายต่อการลักลอบ และกฎหมายที่ไม่เปิดโอกาส พร้อมกันนี้ ทางฝั่งไทยเองก็ยังมีความต้องการแรงงานต่างด้าว และการบังคับใช้กฎหมายไม่มีความจริงจัง

ทั้งนี้ กลุ่มแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้าเมือง ผ่านทางจังหวัดระนอง มี 3 กลุ่มด้วยกัน คือ กลุ่มบุคคลสัญชาติพม่า กลุ่มบุคลสัญชาติบังคลาเทศ เชื้อสายโรฮิงยา ซึ่งนับถือศาสนาอิสลาม และกลุ่มบุคคลสัญชาติพม่า แต่พม่าไม่ยอมรับรองสัญชาติ และตนเองก็ไม่ยอมเป็นสัญชาติพม่า ส่วนใหญ่จะเป็นพวกเชื้อชาติอาระกันหรือยะไข่

โดยเฉพาะสองกลุ่มหลัง ถือว่า เป็นกลุ่มที่อันตรายมาก เนื่องจากส่วนใหญ่ที่จับกุมได้จะมีอายุตั้งแต่ 19-35 ปี พวกนี้เป็นพวกที่เข้ามาตายเอาดาบหน้า เกือบทั้งหมดมีจุดประสงค์เดินทางลงไปในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และบางส่วนต้องการไปต่อยังชายแดนประเทศมาเลเชีย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่อันตรายต่อความมั่นคงต่อประเทศมาก

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันปัญหาแรงงานต่างด้าวเป็นปัญหาระดับชาติ ที่ทุกฝ่าย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องร่วมกันปฏิบัติอย่างจริงจัง โดยจะนำปัญหา และอุปสรรคต่าง ๆ ที่ได้รับทราบครั้งนี้ไปรายงานให้ทางกองทัพได้ทราบ เพื่อจะได้หาทางช่วยเหลือผู้ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ให้มีความคล่องตัว ไม่ว่าจะเป็น ด้านเครื่องมือ ที่ยังขาดแคลนอยู่อย่างมาก

หลังจากนั้น คณะได้เดินทางต่อไปยังจุดตรวจกลางน้ำที่เกาะสะระณีย์ เขตชายแดนไทย-พม่า กลางแม่น้ำกระบุรี หมู่ที่ 5 ต.ปากน้ำ อ.เมืองระนอง เพื่อตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของกำลังพล พร้อมทั้งมอบเรือเร็ว ไฟเบอร์กล๊าส 2 เครื่องยนต์ จำนวน 1 ลำ มูลค่า 1.3 ล้านบาท ให้กับทางหน่วยทหาร เพื่อใช้ตรวจการณ์สกัดกั้นการลักลอบเข้ามาของแรงงานต่างด้าว สินค้าผิดกฎหมาย ยาเสพติด และอาวุธสงคราม.

ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์