ระนอง, ระนองจับพม่าหลบเข้าเมืองอีก53คน ( ข่าวระนอง )

ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองระนอง สนธิกำลังตำรวจน้ำระนอง และทหารเรือจับชนกลุ่มน้อย อาระกัน 53 คนกลางทะเลอันดามันขณะใช้เรือประมงลอบเข้าเมืองระนอง

พ.ต.ท.ชัยวัฒน์ อุ้ยคำ รองผู้กำกับการด่านตรวจคนเข้าเมืองระนอง ได้รับแจ้งจากเรือประมงว่ามีเรือไม้ขนาดใหญ่บรรทุกผู้โดยสารมาเต็มลำเรือคาดเป็นชาวต่างชาติหลบหนีเข้าเมืองกำลังแล่นอยู่บริเวณ ทางทิศตะวันตกของเกาะพยาม หมู่ 2 ต.เกาะพยาม อ.เมือง จ.ระนอง หลังได้รับแจ้ง พร้อมด้วย พ.ต.ท.ประเสริฐ ศรีคุณรัตน์ สารวัตรหัวหน้าสถานีตำรวจน้ำระนอง พ.ต.ต.นิรัตน์ ช่วยจิตต์ สว.(ทนท.ปป.) ส.รน.1 กก. 8 บก.รน. นำกำลังตำรวจลงเรือตรวจการณ์ 540 และได้ประสานเรือเอกคมกฤษ แย้มวิบูล ผู้บังคับการเรือตรวจการณ์ชายฝั่ง ต.97 กองทัพเรือภาค 3 (เรือ ต.97) เข้าตรวจสอบ พบเรือลำดังกล่าววิ่งอยู่ที่บริเวณห่างจากเกาะพยามประมาณ 300 เมตรจึงได้นำเรือตรวจการณ์เข้าจอดเทียบและเข้าตรวจสอบเรือลำดังกล่าวพบภายในเรือมีผู้โดยสารอยู่เต็มลำเรือ พร้อมสัมภาระจำนวนหนึ่ง

จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเรือดังกล่าวเป็นเรือไม้ขนาดความยาว 20 เมตรกว้าง 4 เมตร มีผู้โดยสารมากับเรือจำนวน 53 คน ทั้งหมดเป็นผู้ชายมีทั้งเด็กวัยรุ่นและผู้ใหญ่จากการสอบถามพบว่าผู้โดยสารมากับเรือลำดังกล่าวเป็นชนกลุ่มน้อยในพม่าคือกลุ่มอาระกันอาศัยอยู่ที่รัฐยะไข่ทางทิศตะวันตกของประเทศพม่า

สำหรับการเดินทางมาครั้งนี้มีนายหน้าไปรับมาและการเดินทางก็ไม่ทราบว่ามีจุดหมายปลายทางอยู่ที่ใดโดยออกเดินทางมาจากรัฐยะไข่เมื่อประมาณวันที่ 29 พ.ย.49 ที่ผ่านมา ซึ่งในช่วงแรกของการเดินทางนั้นมีนายหน้าที่ไปรับร่วมเดินทางมาด้วย แต่เมื่อเข้าน่านน้ำระนองนายหน้าได้ขึ้นเรือลำอื่นไปหลังจากนั้นก็ปล่อยให้ผู้โดยสารทั้งหมดเดินทางกันมาเอง

อย่างไรก็ตาม ขณะที่อยู่ในเรือนั้นก็จะนั่งกันมาอย่างแออัดและทานอาหารเพียงวันละมื้อ ส่วนสาเหตุที่หลบหนีออกจากรัฐยะไข่ก็เพื่อมาหางานทำเนื่องจากเมืองที่อยู่นั้นมีความยากจนและอยู่อย่างอดอยาก จึงควบคุมตัวพร้อมเรือของกลางไปขึ้นฝั่งที่ท่าเทียบเรือธงไทยดี หมู่ 1 ต.ปากน้ำระนอง เพื่อทำการสอบสวน โดยมีนางกาญจนาภา กี่หมัน ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง และนายบุญญะพัฒน์ จันทรอุไร นายอำเภอเมืองระนอง ได้ไปสั่งการและควบคุมด้วยตัวเอง

จากการสอบสวนนายอูสะนะ อาลี อายุ 53 ปี สัญชาติพม่าคนขับเรือโดยใช้ล่ามแปลทราบว่าทั้งหมด เป็นชนกลุ่มน้อยอาระกัน จากรัฐอาระกันทางตอนเหนือของประเทศพม่า ซึ่งทั้งหมดนับถือศาสนาอิสลามได้เรี่ยไรเงินกันได้ 400,000 จ๊าต หรือ 14,000 บาท ซื้อเรือประมงมา 1 ลำ เพื่อใช้เป็นพาหนะในการเดินทาง ได้ออกเดินทางระหว่างชายแดนประเทศบังกลาเทศและประเทศพม่า เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2549 ที่ผ่านมา

โดยจะขับเรือลัดเลาะไปตามชายฝั่งทะเลอันดามันเมื่อถึงน่านน้ำจังหวัดระนองจะมีนายหน้าคนไทยมุสลิมไม่ทราบชื่อในจังหวัดระนองคอยอำนวยความสะดวกและรับไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย และจังหวัดต่าง ๆ ในจังหวัดภาคใต้ของไทย จึงควบคุมตัวไปทำทะเบียนประวัติก่อนที่จะส่งไปที่ สภ.ต.ปากน้ำ อ.เมืองระนอง ดำเนินคดีตามกฎหมาย

ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์