ระนอง, ระนองเตรียมเปิดท่าเรือขนส่งสินค้าระหว่าง ปท.21 ก.ค.นี้ ( ข่าวระนอง )
จังหวัดระนองเตรียมเปิดท่าเรือขนาด 12,000 ตันกรอส รองรับขนส่งสินค้าระหว่างประเทศฝั่งทะเลอันดามัน ช่วยลดต้นทุนการขนส่ง ในวันที่ 21 ก.ค.ที่จะถึงนี้
นายเมฆินทร์ เมธาวิกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เปิดเผยว่า ในวันที่ 21 กรกฎาคม 2549 จังหวัดระนอง ร่วมกับการท่าเรือแห่งประเทศไทย ได้กำหนดเปิดท่าเรือระนอง ระยะที่ 2 เพื่อรองรับเรือบรรทุกสินค้าขนาด 12,000 ตันกรอส เพื่อเป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศฝั่งอันดามัน โดยมีเป้าหมายเพื่อทำการค้ากับประเทศพม่า และกลุ่มประเทศแถบเอเชียใต้ หรือ บิมสเทค ในวันดังกล่าวมีการส่งออกสินค้าทางเรือเป็นเที่ยวปฐมฤกษ์ด้วย โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเปิด
ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า ท่าเรือระนอง ตั้งอยู่หมู่ที่ 5 บ้านเขานางหงส์ ต.ปากน้ำ อ.เมืองระนอง เดิมเป็นท่าเรืออเนกประสงค์ ขนาด 500 ตันกรอส ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.2546 รัฐบาลมีนโยบายเรื่องการขนส่งทางน้ำและให้กลุ่มจังหวัด และจังหวัดจัดทำวิสัยทัศน์ และยุทธศาสตร์การพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศฝั่งอันดามัน จังหวัดระนอง จึงได้เสนอแผนให้กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี ปรับปรุงและขยายท่าเทียบเรือระยะที่ 2 เพื่อให้สามารถรองรับเรือขนส่งสินค้าขนาด 12,000 ตันกรอสได้
โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติให้การท่าเรือแห่งประเทศไทยเข้ามาบริหารจัดการตั้งแต่ปี 2546 เป็นต้นมา
ในส่วนของจังหวัดระนอง และกลุ่มจังหวัด ได้ผลักดันพัฒนาระบบโครงข่ายคมนาคม-ขนส่งระหว่างจังหวัดชุมพร และสุราษฎร์ธานี เพื่อเชื่อมโยงสู่ท่าเรือระนอง โดยให้กรมทางหลวงเสนอแผนการปรับปรุงถนนเพชรเกษม ระหว่างชุมพร-ระนอง และหลังสวน-ระนอง เป็นสี่ช่องจราจร นอกจากนี้ ยังได้สร้างลานวางตู้สินค้าคอนเทนเนอร์ที่สถานีรถไฟบ้านวิสัย อ.สวี จ.ชุมพร เพื่อลดต้นทุนในการขนส่งตู้สินค้าจากภาคอื่นๆ สู่ท่าเรือระนอง
ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวด้วยว่า ในอนาคตเชื่อมั่นว่า ท่าเรือระนองถือเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญ เพราะสามารถลดต้นทุนในการขนส่งและระยะเวลาในการเดินเรือ ในการนำเข้าและส่งออกสินค้าไปยังประเทศแถบเอเชียใต้ และตะวันออกกลาง โดยไม่ต้องผ่านช่องแคบมะละกา นอกจากนี้ บริษัท ปตท.สผ.จำกัด (มหาชน) ใช้ท่าเรือระนองเป็นฐานสนับสนุนการส่งอุปกรณ์ขุดเจาะก๊าซธรรมชาติที่ได้รับสัมปทานในน่านน้ำของพม่าด้วย
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์