ตำรวจสถานีกะทู้ เรียก “บอย พีรพล” ดาราชื่อดังมาชี้ตัวตำรวจหนุ่ใมอตบกกหูจนเลือดท่วม แต่ปรากฎว่าเมื่อนำตำรวจมาให้ชี้ตัว ฝ่ายเสียหายกลับจำหน้าไม่ได้ เนื่องจากในช่วงเกิดเหตุเมามาก ขณะที่ ผกก.กระทู้ ทำขึงขังจะนำตัวตำรวจมือตบมาให้ได้ แต่ต้องมีพยานแวดล้อม
จากกรณีที่ “นายพีรพล จันทรากาศ หรือ บอย” ดาราวัยรุ่นชื่อดังถูกนายตำรวจหนุ่ม นปพ.หน่วยปฎิบัติการพิเศษกองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดระนอง ช่วยราชการสถานีตำรวจภูธรอำเภอกะทู้ตบที่บริเวณกกหูด้านซ้ายจนเลือดท่วมสลบคาที่บริเวณบาร์กลางซอยบางลาหาดป่าตอง อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต แหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อจนต้องเย็บเกือบ 20 เข็มและแก้วหูได้รับการกระทบกระเทื่อนอย่างรุนแรงเมื่อวันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา
ล่าสุดวันนี้ (8 มี.ค.) พ.ต.อ.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผู้กับการสถานีตำรวจภูธรอำเภอกะทู้ ได้เชิญนายพีรพล จันทรากาศ หรือ บอย ดาราชื่อดัง และนายหิรัญ หมู่โสภณ นักธุรกิจชื่อดังหาดป่าตองที่นั่งกับ “บอย พีรพล” ในช่วงที่เกิดเหตุและนายสมเพ็ชร หมู่โสภณ ทนายความของ “บอย พีรพล” มาทำการชี้ตัวนายตำรวจมือตบ ซึ่ง พ.ต.ท.พิศิษฐ์ ชื่นเพ็ชร สารวัตรรับผิดชอบคดีได้นำนายตำรวจ นปพ.จังหวัดระนอง ทั้งหมดที่เดินทางมาช่วยราชการที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอกะทู้ มายืนถือหมาย เลข 1-6 ให้ "บอย พีรพล" ทำการชี้ตัวผ่านห้องกระจกที่ผู้ต้องหาและผู้เสียหายไม่เห็นหน้ากัน
โดย บอย พีรพล ได้เข้ามาดูจากนั้นได้บอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าไม่ทราบว่าเป็นคนไหน เพราะในช่วงเกิดเหตุนั้นเมามากจำหน้าผู้ที่ทำร้ายร่างกายไม่ได้ จากนั้นนายหิรัญ หมู่โสภณ นักธุรกิจชื่อดังหาดป่าตองจังหวัดภูเก็ต ได้มาทำการชี้ตัวเช่นกัน แต่หลังจากมองดูครบทั้ง 6 คน ก็ตอบว่าจำไม่ได้เหมือนกันว่าเป็นใคร เพราะผู้ที่เข้ามาทำร้ายบอย นั้นตนไม่รู้จักมาก่อนเช่นกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ทั้งสองคนลงชื่อบันทึกประจำวันว่าผู้เสียหายไม่สามารถ
จำผู้ทำร้ายร่างกายได้
บอย พีรพล ให้สัมภาษณ์ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกมาชี้ตัวผู้ต้องหาก็มาชี้แต่ยอมรับว่าในคืนเกิดเหตุนั้นเมามากจึ่งจำผู้เข้ามาทำร้ายไม่ได้ ฉะนั้นผู้ที่มายืนให้ชี้ตัวทั้ง 6 คนจึงไม่ทราบว่าว่ามีคนที่ทำร้ายตนอยู่ด้วยหรือไม่ จึงเป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการหาผู้ กระทำผิดมาดำเนินคดีเองก็แล้วแต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจะดำเนินการอย่างไร แต่ของยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้ก่อเหตุเพราะอยู่มาจนอายุ 30 กว่าไม่เคยมีเรื่องกับใครก็เป็นประสบการอีกแบบหนึ่งที่ไม่หนักหนาสาหัสมากนักก็ไม่ยากมีเรื่องกับใคร ถือว่าฟาดเคราะห์ไปและขอขอบคุณแฟนๆ พี่ๆ เพื่อนๆ ที่เป็นห่วงทุกคน เพราะขณะนี้อาการดีขึ้นแล้ว แต่มีอาการหูบวมอยู่และเบ็ดบาดแผลพอสมควรทำให้หูด้านซ้ายไม่ได้ยินแต่หมอบอกหายบวมแล้วก็จะเป็นปกติ
ด้าน พ.ต.อ.ธีระพล ทิตย์เจริญ ผู้กำกับการสถานีตำรวจสถานีตำรวจภูธรอำเภอกะทู้ กล่าวในคดีนี้ถึงแม้นว่าผู้เสียหายจะไม่สามารถจำผู้ทำร้ายได้ก็ตามถือว่าเป็นเรื่องปกติเพราะส่วนใหญ่ผู้ถูทำร้ายจะไม่ทราบว่าใครเป็นผู้กระทำ แต่คดีนี้เป็น คดีอาญาเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งทำการสืบสวนพยานแวดล้อมมัดตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้ ถึงแม้นตอนนี้เราจะทราบว่าเป็นใครแต่ต้องมีพยานแวดล้อมมายื่นยันถึงจะทำการจับกุมดำเนินคดีได้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำคดีอย่างตรงไปตรงมาไม่ปกป้องคนผิด แม้คนๆนั้นจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยกัน
ส่วนตำรวจผู้ก่อเหตุในเบื้อง ต้นได้ทำเรื่องส่งตัวกับต้นสังกัดพร้อมทำรายงานพฤติกรรมในการกระทำ ส่งไปให้ผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดได้รับทราบและดำเนินการทางวินัยต่อไป
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์