ภูเก็ต, กบร.ภูเก็ต มีมติไล่ชาวบ้าน 121 หลัง พ้นพื้นที่บุกรุกในซอยทรงคุณ ( ข่าวภูเก็ต )

 คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐจังหวัดภูเก็ต มีมติให้ไล่ชาวบ้านที่เข้าไปบุกรุกที่ดินสาธารณะซอยทรงคุณที่ถูกระเบิดไล่ที่ 121 หลังออกจากพื้นที่ หลังสำรวจรังวัดพบที่ดินทั้ง 90 ไร่ เป็นที่ดินที่อยู่นอกเอกสารสิทธิ์ของเอกชน
      
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (7 มี.ค.) นายตรี อัครเดชา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ (กบร.) จังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 1/2550 โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ปลัดจังหวัดภูเก็ต ป่าไม้จังหวัดภูเก็ต ธนารักษ์พื้นที่ภูเก็ต เจ้าพนักงานที่ดินภูเก็ต องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ฯลฯ เข้าร่วมประชุม ณ ห้องทำงานปลัดจังหวัดภูเก็ต
      
โดยการประชุม กบร.จังหวัดภูเก็ตในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่รังวัดที่ดินจังหวัดภูเก็ต ได้รายงานความคืบหน้าการเข้าไปรังวัดที่ดินในซอยทรงคุณ หมู่ที่ 1 ตำบลฉลอง อำเภอเมืองภูเก็ต กรณีการระเบิดบ้าน 3 หลัง เพื่อไล่ให้ออกจากที่ดิน เมื่อวันที่ 25 พ.ย.2549 ที่ผ่านมา ว่า นายวีระวัฒน์ จันทร์เพ็ญ นายอำเภอเมืองภูเก็ต ได้แต่งตั้งคณะทำงานลงไปสำรวจรังวัดที่ดินในซอยทรงคุณที่ถูกชาวบ้านเข้าไปบุกรุกทั้งหมด รวมทั้งทำการสำรวจผู้ที่บุกรุก พร้อมทั้งจัดทำแผนที่ขอบเขตที่ดินและบ้านเรือนที่บุกรุกว่าตั้งอยู่ในจุดใดและมีใครเป็นเจ้าของบ้านบ้าง การได้มาของที่ดินในการก่อสร้างบ้าน
      
จากการสำรวจรังวัดที่ดิน ที่เจ้าหน้าที่รังวัดที่ดินจังหวัดภูเก็ต ได้ทำการรังวัดในส่วนของที่ดินที่อยู่ด้านนอกที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ์ ปรากฎว่า ที่ดินที่ชาวบ้านบุกรุกเข้าไปสร้างบ้านทั้งหมดมี 90 ไร่แบ่งการบุกรุกออกเป็น 3 ส่วน คือ การบุกรุกที่ดินที่อยู่ใกล้กับคลองมุดง ซึ่งเป็นจุดที่ชาวบ้านบุกรุกมากที่สุดประมาณ 100 กว่าหลัง การบุกรุกในส่วนของบ้าน 3 หลังที่ถูกระเบิด มีประมาณ 20 หลัง และการบุกรุกในพื้นที่ที่อยู่ใกล้กับขุมเหมืองทั้ง 2 ขุม ซึ่งรวมชาวบ้านที่เข้าไปบุกรุกมีทั้งหมด 121 หลัง และขณะนี้มีความชัดเจนแล้วว่าบ้าน 3 หลัง ที่ถูกระเบิดไม่ได้อยู่ในที่ดินที่มีโฉนดแต่อย่างใด และมีข้อมูลชัดเจนแล้วว่าบ้านแต่ละหลังใครเป็นเจ้าของ
      
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมมีมติให้ออกหนังสือสำคัญเป็นที่หลวงในขุมน้ำทั้งสองขุมที่มีเนื้อที่ประมาณ 18 ไร่และในส่วนของชาวบ้านทั้ง 121 หลัง ที่ประชุมมีมติที่จะต้องให้ออกจากพื้นที่ทั้งหมด เพราะที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินสาธารณะ

ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์