ภูเก็ต, นายกฯไทย-มาเลเซีย ตีกอล์ฟที่ภูเก็ต - กระชับสัมพันธ์ทั้งสองฝ่ายแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ( ข่าวภูเก็ต )

นายกรัฐมนตรีไทย-มาเลเซีย และรมต.ไทย-มาเลเซียร่วมออกรอบตีกอล์ฟที่ภูเก็ต

นายกรัฐมนตรี ไทย-มาเลเซีย ร่วมออกรอบตีกอล์ฟที่ภูเก็ตด้วยความเป็นกันเอง กระชับความสัมพันธ์ทั้งสองฝ่ายให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ก่อนหารืออย่างเป็นทางการพรุ่งนี้ ที่กรุงเทพฯ ทั้งปัญหาชายแดนภาคใต้ บุคคลสองสัญาชาติ ความมั่งคงและเศรษฐกิจ

เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ (11 ก.พ.) พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้ร่วมออกรอบตีกอล์ฟ เพื่อร่วมออกรอบกระชับความสัมพันธ์และหารืออย่างไม่เป็นทางการที่สนามกอล์ฟ มิชชั่น ฮิลล์ ภูเก็ต รีสอร์ท แอนด์ สปา ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต กับ ดาโต๊ะ ซรี อับดุลลาห์ อาหมัด บาดาวี (Dato’ Seri Abdullah Ahmad Badawi) นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โนโอกาสที่นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เดินทางมาเยือนไทยอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 11-13 กุมภาพันธ์ 2550 ซึ่งการตีกอล์ฟกระชับความสัมพันธ์ของนายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศในครั้งนี้ เป็นไปอย่างเป็นกันเองและในช่วงเย็นวันนี้นายกรัฐมนตรีไทยจะเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำ เพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ที่โรงแรมแมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา จ.ภูเก็ต

ส่วนวันพรุ่งนี้ (12 ก.พ.) นายกรัฐมนตรีมาเลเซียจะเดินทางถึงกรุงเทพฯ ซึ่งนายกรัฐมนตรีไทยจะนำนายกรัฐมนตรีมาเลเซียเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน หลังจากนั้น จะมีการหารือข้อราชการระหว่างกัน ณ ทำเนียบรัฐบาล

โดยการเดินทางเยือนไทยของนายกรัฐมนตรีมาเลเซียในครั้งนี้ เป็นการเยือนตอบแทนที่ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีของไทยได้เดินทางเยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2550 เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือที่ดีระหว่างไทยและมาเลเซียในแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

ด้านสารัตถะนั้นล้วนเป็นประเด็นที่ทั้งสองฝ่ายให้การสนใจตรงกัน เช่น ความร่วมมือด้านความมั่นคง ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ การกระชับความร่วมมือทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมภายใต้กรอบโครงการ JDS และ IMT-GT การแก้ปัญหาบุคคลสองสัญชาติ รวมไปถึงการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์เพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และการจัดกิจกรรมฉลองครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ไทย-มาเลเซีย ในวันที่ 31 สิงหาคม 2550

สำหรับไทยและมาเลเซียเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่ความสัมพันธ์ใกล้ชิดแน่นแฟ้นกันมาก เนื่องจากทั้งสองประเทศมีผลประโยชน์ร่วมกันหลายประการ มีการแลกเปลี่ยนการเยือนในระดับต่างๆ ทั้งระดับพระราชวงศ์ชั้นสูง รัฐบาล และประชาชนทั้งอย่างเป็นทางการและไม่เป็นทางการอย่างสม่ำเสมอ โดยสมเด็จพระราชาธิบดี (Tuanku Syed Sirajuddin Ibni Al-Marhum Tuanku Syed Putra Jamalullail) และสมเด็จพระราชินี (Tuanku Fauziah binti Al-Marhum Tenku Abdul Rashid, The Raja Permaisuri Agong XII) ได้เสด็จฯมาทรงร่วมงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในเดือนมิถุนายน 2549

ส่วนการค้าระหว่างสองประเทศในปี 2549 มีมูลค่าประมาณ 572,542.6 ล้านบาท (ลดลงจากปีก่อนร้อยละ 25.95) โดยไทยเป็นฝ่ายขาดดุลการค้า สินค้าสำคัญที่ไทยนำเข้าจากมาเลเซีย คือ น้ำมันดิบ อุปกรณ์และส่วนประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์ และเคมีภัณฑ์ ส่วนสินค้าสำคัญที่ไทยส่งออกไปมาเลเซียคือ อุปกรณ์และส่วนประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์ ยางพารา และอุปกรณ์รถยนต์

ด้านการลงทุนในปี 2548 มาเลเซียลงทุนในไทยเป็นมูลค่า 20,506 ล้านบาท (เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 55) ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนด้านอุปกรณ์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ขณะที่นักลงทุนจากไทยได้รับอนุมัติจากทางการมาเลเซียให้ลงทุนรวม 5 รายการ อาทิ อุตสาหกรรมเครื่องหนังและผลิตภัณฑ์หนัง ผลิตภัณฑ์อาหาร และผลิตภัณฑ์โลหะ คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 1,498 ล้านบาท

ส่วนด้านการท่องเที่ยวในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2549 มีนักท่องเที่ยวมาเลเซียเดินทางมาท่องเที่ยวในไทยรวมทั้งสิ้น 633,370 คน (ในปี 2548 นักท่องเที่ยวมาเลเซียเดินทางมาประเทศไทยจำนวน 1,373,946 คน ซึ่งเป็นอันดับ 1 ของนักท่องเที่ยวต่างประเทศ โดยคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 11.88 ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดที่เดินทางมาไทย) ขณะที่ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2549 มีนักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปมาเลเซีย 314,021 คน (ในปี 2548 นักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปมาเลเซียจำนวน 831,338 คน โดยคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 27.29 ของนักท่องเที่ยวไทยที่เดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ)

นอกจากนี้ ไทยและมาเลเซียยังมีความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดในเวทีระหว่างประเทศต่างๆ อาทิ อาเซียน กรอบความร่วมมือเอเชีย (Asia cooperation Dialogue: ACD) องค์การการประชุมอิสลาม (Organization of Islamic Conference: OIC) ความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (Asia-Pacific Economic Cooperation: APEC) และสหประชาชาติด้วย

ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์