ท่องเที่ยวฝั่งอ่าวไทยรุ่ง 3 เกาะดัง ทั้งสมุย พะงัน และเกาะเต่า โกยรายได้กว่า 1.5 หมื่นล้านบาท จากที่นักท่องเที่ยวกลุ่มกำลังซื้อสูง สะพายเป้จากยุโรปเข้าเพียบ พร้อมมั่นใจการท่องเที่ยวขยายตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่สมาคมท่องเที่ยวสมุย เตรียมดึงตลาดเอเชียเข้ามาเสริมในช่วงหน้าฝน มุ่งไปที่ตลาดฮ่องกง ที่บางกอกแอร์เวย์ส เปิดเที่ยวบินตรง และมีชายหาดที่สวยงามมีมนต์เสน่ห์ดึงดูดเข้ามาได้เพียบ
เกาะสมุย แดนสวรรค์กลางอ่าวไทย ความสวยงามของธรรมชาติชายหาด และทิวมะพร้าว ที่มีอยู่โดยรอบเกาะ คือ มนต์เสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ให้เดินทางมาเยือนด้วยสีสัน และบรรยากาศน่าประทับใจของชายหาดแต่ละแห่ง ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้แดนดินถิ่นมะพร้าวแห่งนี้ไม่เคยร้างไร้นักท่องเที่ยว
เกาะสมุย เป็นเกาะกลางอ่าวไทยที่สำคัญใน จ.สุราษฎร์ธานี ด้วยพื้นที่เฉพาะเกาะ 247 ตารางกิโลเมตร (ตร.กม.) จึงทำให้เกาะสมุยมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 รองจากเกาะภูเก็ต และเกาะช้าง
ชายหาดด้านเหนือ ด้านตะวันตก และด้านใต้สุดของเกาะเงียบสงบ เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่แสวงหาธรรมชาติอย่างแท้จริง ขณะที่ฝั่งตะวันออกเต็มไปด้วยสีสันตามแบบฉบับเมืองท่องเที่ยว
นายพรเลิศ อุ่นเจริญ หัวหน้าศูนย์ประสานการท่องเที่ยว อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผย ?ผู้จัดการรายวัน? ถึงภาพรวมการท่องเที่ยวบนเกาะสมุย รวมไปถึงเกาะพะงัน และเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี ในช่วงปี 2549 ที่ผ่านมา ว่า นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวบนเกาะทั้ง 3 แห่ง ในทะเลอ่าวไทย มีอัตรานักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นกว่าปีก่อนไม่มากนัก ตัวเลขนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลเข้ามามีจำนวนประมาณ 1.1 ล้านคนเศษ สามารถสร้างรายได้เข้าประเทศจำนวนประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท
ปัจจุบันโรงแรม รีสอร์ต บนเกาะสมุย มีจำนวนมากกว่า 13,000 ห้อง ยังไม่รวมถึงบ้านพักตากอากาศ หรือวิลล่าบูติกสุดหรู ที่กลุ่มนักท่องเที่ยวมีระดับเข้าพักอีกเป็นจำนวนมากรอบทั้งเกาะ
ขณะที่เกาะพะงันนั้นมีห้องพักกว่า 9,000 ห้อง ซึ่งตัวเลขห้องพักสูงกว่าปีที่ผ่านมาถึง 50%
ด้านเกาะเต่าซึ่งเป็นเกาะเล็กๆ เมื่อเทียบกับเกาะสมุย และเกาะพะงัน มีห้องพักรองรับนักท่องเที่ยว 2,500 ห้อง ซึ่งก็มากพอเมื่อเทียบกับขนาดพื้นที่ของเกาะเล็กๆ แห่งนี้
ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาพัก จะเป็นกลุ่มที่ผสมระหว่างนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากเกาะสมุย โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงเศษ และเกาะพะงัน ประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ โดยจองผ่านบริษัทนำเที่ยวแบบแพกเกจไปเช้า-เย็นกลับ รวมถึงนักท่องเที่ยวที่เดินทางในเส้นทางชุมพร ถึงเกาะเต่า ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งนักท่องเที่ยวต่างๆ เหล่านี้ ส่วนใหญ่ต่างเดินทางมาเพื่อดำน้ำ ใช้เวลาเรียนประมาณ 1 สัปดาห์ขึ้นไป ทั้งนี้ เนื่องจากเกาะเต่าเป็นแหล่งดำน้ำที่มีชื่อเสียง มีทรัพยากรใต้น้ำที่สมบูรณ์ สวยงาม จึงมีนักท่องเที่ยว เดินทางเข้ามาชมความสวยงามใต้ท้องทะเลเป็นจำนวนมาก
นายพรเลิศ กล่าวอีกว่า สำหรับการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามายังพื้นที่เกาะสมุย โดยส่วนตัวชอบนักท่องเที่ยวกลุ่มแบ็กแพกเกอร์ หรือสะพายเป้ มากกว่ากลุ่มผู้ที่มีฐานะ แต่ไม่ได้หมายถึงว่า ตนไม่ต้องการให้นักท่องเที่ยวเหล่านั้นมาเที่ยวเกาะสมุย แต่สำหรับกลุ่มแบ็กแพกเกอร์ จะใช้เวลาพักอยู่ประมาณ 1-2 เดือน เขาใช้จ่ายอย่างประหยัดก็จริง แต่เงินที่เขาใช้นั้นจะกระจายไปอยู่ในมือของประชาชนในระดับรากหญ้า และจะใช้จ่ายจนเงินที่ตั้งงบมาท่องเที่ยวหมดก่อนเดินทางกลับ
ขณะที่ นักท่องเที่ยวที่มีฐานะ ส่วนใหญ่เมื่อเดินทางเข้ามาเที่ยวเกาะสมุยแล้วจะเข้าพักโรงแรมระดับ 5 ดาว และมาพักไม่เกิน 1 อาทิตย์ การใช้จ่ายเงินจะอยู่ในโรงแรมที่พัก ซึ่งดูแล้วเงินจะเกิดการหมุนเวียนอยู่แค่ในโรงแรมจากนั้นจะเข้าสู่โรงแรมต่อโรงแรม หรือเอกชนรายใหญ่ ถัดไปก็จะแปรรูปอยู่ในระบบภาษี กว่าที่เงินได้ที่เป็นภาษี เมื่อตีค่าออกมาเป็นเงิน หรือความช่วยเหลือให้ประชาชนดูแล้วจะใช้ระยะเวลานานแตกต่างกันมาก ซึ่งตนมองว่า นักท่องเที่ยวกลุ่มสะพายเป้ สำคัญต่อการท่องเที่ยวถึงแม้จะใช้เวลานานในการใช้เงิน แต่เงินกระจายไปอยู่ในมือของระดับรากหญ้าโดยตรง
ดังนั้น จึงอยากให้กลุ่มผู้ประกอบการต่างๆ มองเห็นถึงความสำคัญของนักท่องเที่ยวในกลุ่มนี้ด้วย เนื่องจากปัจจุบันนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเกาะสมุยนั้น ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง เป็นกลุ่มผู้ใหญ่วัยทำงาน หรือนักธุรกิจ กิจกรรมหลัก คือ พักผ่อนตามชายหาด ดำน้ำดูปะการัง ตีกอล์ฟ ใช้บริการสปาเพื่อสุขภาพและนวดเพื่อเสริมสวย ขณะที่ฝรั่งสะพายเป้นั้น จะมุ่งไปยังเกาะพะงันเป็นหลัก
นายพรเลิศ กล่าวถึงทิศทางการท่องเที่ยวของเกาะสมุย รวมทั้งเกาะพะงัน และเกาะเต่าในปี 2550 ว่า คาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นกว่าปีก่อนประมาณ 3-5% สาเหตุเนื่องจากมีตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ๆ จากประเทศจีน เกาหลี ฮ่องกง และอินเดีย เข้ามาเพิ่มขึ้น ขณะที่นักท่องเที่ยวกลุ่มหลักไม่ว่าจะเป็นกลุ่มยุโรป สแกนดิเนเวีย และอเมริกา รวมทั้งนักท่องเที่ยวในแถบเอเชีย คือ ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย ก็เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวมากเช่นเดียวกัน ขณะที่กลุ่มนักท่องเที่ยวคนไทยนั้นมีแนวโน้มลดลงเล็กน้อย เนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจ บวกกับราคาน้ำมันแพง และปัจจัยด้านที่พักที่มีราคาสูงขึ้น
เปิดตลาดเอเชียเข้าสมุยมากขึ้น
ด้าน นายเสนีย์ ภูวเศรษฐาวร นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยว อ.เกาะสมุย กล่าวว่า ที่ผ่านมาสมาคมฯได้ทำตลาดในเชิงรุกโดยการนำผู้ประกอบการบนเกาะสมุยประมาณ 20 ราย เดินทางไปทำตลาดในงาน ITB ที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี 170 ประเทศทั่วโลกมาเจรจาแลกเปลี่ยนข้อมูลธุรกิจท่องเที่ยวซึ่งกันและกัน และไปเปิดตลาดการท่องเที่ยวของเกาะสมุยที่ประเทศฮ่องกง ภายในงาน ?20 th International Trade Expo 2006? เพื่อสร้างตลาดใหม่ให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มของนักท่องเที่ยว เอเยนซี ตลอดจนผู้ประกอบการที่สนใจจะมาลงทุนยังเกาะสมุยอีกด้วย
?โดยเราได้โชว์ความเป็นธรรมชาติของเกาะ สมุย ที่ทางฮ่องกงไม่มี นั่นก็คือ ชายหาดที่สวยงาม ทะเลที่สวย สดใส รวมทั้งของดีอื่นๆ บนเกาะสมุยอีกมากมาย นอกจากการโปรโมตเกาะสมุยแล้วเรายังได้โปรโมต เกาะพะงัน และเกาะเต่าอีกด้วย? นายกสมาคมท่องเที่ยวเกาะสมุย กล่าวและว่า
ที่สำคัญ การเดินทางของนักท่องเที่ยวจากฮ่องกงมายังเกาะสมุยง่ายมาก เพราะจะมีสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส บินตรงจากฮ่องกงมายังเกาะสมุย และในอนาคตสมาคมฯมีโครงการที่จะเปิดตลาดการท่องเที่ยวของเกาะสมุยไปยังประเทศที่อยู่ในกลุ่มเอเชียด้วยกัน เพื่อเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวในช่วงโลว์ซีซันให้เพิ่มมากขึ้น เพื่อให้มีการหมุนเวียนของเม็ดเงินจากการท่องเที่ยวด้วย
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์