แหล่งรวม ธุรกิจ บริษัท ห้างร้าน และ ข้อมูล การท่องเที่ยว ในแถบ อันดามัน
 
เข้าสู่ระบบ G! Builder
เลือกจังหวัด
ข่าวสาร ข่าวทั่วไป ในแถบ อันดามัน ( ภูเก็ต, กระบี่, ระนอง, ตรัง, พังงา, สตูล )

ภูเก็ต, 2 ปีสึนามิผังเมืองรวมพีพีไม่เสร็จ - เอกชนรอไม่ไหวผุดโรงแรมรับไฮซีซัน ( ข่าวภูเก็ต )

ข่าวภูเก็ต : 2 ปีสึนามิผังเมืองรวมพีพีไม่เสร็จ - เอกชนรอไม่ไหวผุดโรงแรมรับไฮซีซัน
พันคำ กิตติธรกุล นายกอบต.อ่าวนาง เจ้าของพื้นที่เกาะพีพี

เอกชนบนเกาะพีพีร้อง เวลาล่วงเลยมา 2 ปีแล้ว หลังสึนามิพัดโรงแรม รีสอร์ตทั่วเกาะพังพินาศ แต่ผังเมืองรวมซึ่งเป็นกฎหมายที่บังคับใช้ควบคุมการก่อสร้างโรงแรมไม่คลอดสักที ประกาศทนต่อไปไม่ไหวแล้ว หลังจากได้ข้อสรุปเบื้องต้นตกลงว่าโรงแรมที่เสียหายหมด และมีใบอนุญาตถูกต้องสร้างได้ เพื่อให้ทันรับไฮซีซันปีหน้า โยธาฯ เผยกฎหมายอยู่ระหว่างการยกร่างของกระทรวงมหาดไทย เพื่อรอเสนอครม. คาดใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง

ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิถล่มชายฝั่งอันดามัน 6 จังหวัด ตั้งแต่ระนอง ภูเก็ต พังงา กระบี่ ตลอดไปจนถึงตรัง และสตูล เมื่อ 26 ธันวาคม 2547 นับจากวันนั้นถึงวันนี้เป็นเวลา 2 ปีแล้ว เกาะพีพี บริเวณอ่าวต้นไทร และอ่าวโล๊ะดาลัม เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความเสียหายอย่างยับเยิน ทั้งที่เป็นโรงแรม รีสอร์ต ย่านชุมชน ย่านธุรกิจ ทุกอย่างพังราบด้วยพิษคลื่นยักษ์สึนามิ ที่ถาโถมเข้าใส่อย่างบ้าคลั่ง เหตุการณ์วันนั้นทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 700 คน ทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ขณะที่ทรัพย์สินต่างๆ ได้รับความเสียหายคิดเป็นมูลค่าสูงถึง 1,858,866,271 บาท

หลังคลื่นยักษ์สึนามิได้สงบลง หน่วยงานภาครัฐ เอกชน ทั้งในและต่างประเทศ ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือฟื้นฟูสถานที่ และผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง จนสามารถทำให้ผู้ประสบภัยได้ผ่านพ้นวิกฤต

ในส่วนของเกาะพีพี ซึ่งเป็นแหล่งทำรายได้ให้แก่จังหวัดกระบี่และประเทศปีละไม่น้อยกว่า 5,000-6,000 ล้านบาท การฟื้นฟูในด้านต่างๆตั้งแต่การทำความสะอาด เก็บกวาดเศษซากปรักหักพังจากสิ่งก่อสร้าง ทั้งจากบนบก และใต้ท้องทะเลก็ได้รับการฟื้นฟูจนกลับสู่สภาพปกติ รวมถึงบ้านพักถาวรของผู้ประสบภัยที่ได้รับความเสียหาย มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย ได้สร้างให้แก่ผู้ประสบภัย ก็ได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างไปแล้วบางส่วน

แต่สิ่งที่เป็นปัญหาของเกาะพีพีอยู่ในขณะนี้ และยังไม่ได้รับการแก้ไข คือ สถานประกอบการ โรงแรม รีสอร์ต ที่ได้รับความเสียหายไปทั้งหลัง ไม่สามารถก่อสร้างได้ แม้จะผ่านมาครบ 2 ปีแล้ว

อบต.อ่าวนาง ซึ่งเป็นผู้ดูแลพื้นที่และอนุญาตการก่อสร้างโรงแรม รีสอร์ต บนเกาะพีพี ไม่สามารถออกใบอนุญาตก่อสร้างให้ผู้ประกอบการได้ เนื่องจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมยังไม่ได้สั่งการที่เป็นลายลักษณ์อักษรที่จะให้อบต.อ่าวนางอนุญาตการก่อสร้างได้ ถึงแม้ว่าในขณะนั้น นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี สมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกมนตรี เดินทางมารับทราบปัญหาและติดตามการฟื้นฟูเกาะพีพี ที่จังหวัดกระบี่ พร้อมทั้งได้สั่งการผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ให้สถานประกอบการที่มีใบอนุญาตถูกต้องก่อนเกิดเหตุการณ์สึนามิ สามารถขออนุญาตก่อสร้างได้ทันที

การสั่งการในครั้งนั้นเป็นแต่เพียงคำสั่งลอยๆ โดยไม่มีหนังสือการอนุญาตชัดเจน อบต.อ่าวนางจึงไม่สามารถอนุญาตให้ก่อสร้างได้ และได้สั่งระงับสถานประกอบการที่ก่อสร้างไปแล้วด้วย และในส่วนของสถานประกอบการที่เคยก่อสร้างไม่ถูกต้อง ต้องรอการวางผังเมืองให้ชัดเจนก่อนถึงจะขออนุญาตก่อสร้างได้

นายพันคำ กิตติธรกุล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลอ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ กล่าวว่า 2 ปีที่เกิดเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิถล่ม 6 จังหวัดฝั่งอันดามัน ซึ่งหลายแห่งที่ประสบภัยสึนามิก็ได้รับการฟื้นฟูจนกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ยังคงเหลือแต่เกาะพีพีที่ยังไม่ได้รับการฟื้นฟู ซึ่งเปรียบเสมือนแหล่งทำเงินของจังหวัดหรือของประเทศก็ว่าได้ และได้มีการประชุมหาแนวทางฟื้นฟูร่วมกันหลายครั้ง แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า โรงแรมที่พักไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างได้

สาเหตุที่ไม่สามารถฟื้นฟูหรือก่อสร้างโรงแรมที่พักขึ้นมาใหม่ได้ เนื่องจากการกำหนดใช้พื้นที่ยังไม่มีความชัดเจน แม้แต่เส้นทางหนีภัย จำนวน 11 เส้นทางที่ทางกรมโยธาธิการและผังเมืองเป็นเจ้าภาพ ทราบว่าแผนผังในการก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างได้ เนื่องจากไม่มีงบประมาณ ซึ่งตนจะนำเรื่องการฟื้นฟูเกาะพีพี เข้าเสนอ นายศิวะ ศิริเสาวลักษณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่คนใหม่ให้ช่วยเข้ามาแก้ไขปัญหที่ยังอึครึมให้สามารถเดินหน้าต่อไปได้ รวมถึงปัญหาการสร้างสะพานท่าเทียบเรือเกาะพีพี ที่จะมีการก่อสร้างในเร็วๆนี้ แต่ก็ได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบจนยังไม่ได้ทำการก่อสร้าง

เอกชนรอไม่ไหวเริ่มสร้างแล้ว

นายชาญณรงค์ เตชะรัชต์กิจ กรรมการผู้จัดการโรงแรมพีพี ปริ๊นเซส รีสอร์ท และโรงแรมพีพี ชาลี บีช รีสอร์ท เกาะพีพี จ.กระบี่ กล่าวถึงความคืบหน้าการก่อสร้างโรงแรมทั้ง 2 แห่งที่ได้รับความเสียหายจากสึนามิทั้งหมดจนต้องสร้างใหม่ว่า ในการแก้ปัญหาโรงแรมที่เกาะพีพีไม่สามารถสร้างได้ ในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้มีมติคณะรัฐมนตรีผ่อนผันให้โรงแรมที่ได้รับความเสียหายจากสึนามิ และเป็นโรงแรมที่มีใบอนุญาตถูกต้องสามารถก่อสร้างได้

ตนจึงได้ทำการก่อสร้างโรงแรมเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ปรากฏว่าเมื่อก่อสร้างไปได้ระยะหนึ่ง อบต.อ่าวนางได้สั่งระงับการก่อสร้างโรงแรม และแจ้งจับในข้อหาก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งจุดนี้ตนก็เห็นใจ อบต.อ่าวนางที่ต้องทำตามกฎหมาย แต่โรงแรมของตนเป็นโรงแรมที่ได้รับความเสียหายทั้งหลัง และเป็นโรงแรมก่อสร้างก่อนเกิดสึนามิรวมทั้งมีใบอนุญาตประกอบการถูกต้องทุกอย่าง เข้าข่ายผ่อนผันให้สามารถก่อสร้างได้ ซึ่งตอนนี้ตนก็ยังคงก่อสร้างโรงแรมต่อไป โดยสร้างแล้วประมาณ 10-15% หยุดไม่ได้ เพราะหากหยุดจะเกิดความเสียหายมาก มีพนักงานที่ต้องรับผิดชอบ 300 คน รวมทั้งเงินกู้ที่กู้มาจากธนาคารแล้วด้วย จึงจำเป็นต้องก่อสร้างต่อไป

?ตอนนี้เรื่องของกฎระเบียบการก่อสร้างโรงแรมที่พีพีอยู่ในขั้นตอนของคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาตรวจดูรายละเอียดก่อนที่จะประกาศเป็นกฎหมาย ซึ่งผู้ประกอบการรอมาเป็นเวลากว่า 4 เดือนแล้ว ก็ยังไม่มีการประกาศออกมาสักที ทำให้ผู้ประกอบการเดือดร้อนมาก ผู้ประกอบการขอความเห็นใจไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกาใหเร่งประกาศกฎหมายดังกล่าวออกมา เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถก่อสร้างได้ เพราะครบ 2 ปีที่เกิดความเสียหายแล้ว?

นายชาญณรงค์ กล่าวอีกว่า การก่อสร้างโรงแรมพีพี ปริ๊นเซส ตามกำหนดการจะสร้างให้เสร็จภายในเดือนตุลาคม 2550 เพื่อเปิดในช่วงไฮซีซันปีหน้า เป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว จำนวน 79 ห้อง มี 2 อาคาร เป็นอาคาร 2 ชั้น สูง 9 เมตร เพราะเป็นพื้นที่ที่อยู่ห่างจากแนวถอยร่นในระยะ 30-50 เมตร ตามกฎหมายผังเมืองที่เกาะพีพีก่อสร้างอาคารสูงได้ไม่เกิน 9 เมตร และก่อสร้างอาคารได้แค่ 25% ของพื้นที่ทั้งหมด ส่วนที่เหลือ 75% ต้องเป็นพื้นที่สีเขียว

ส่วนอาคารที่ 2 ซึ่งอยู่ในระยะถอยร่นเกิน 50 เมตร สร้างอาคารสูงได้ 12 เมตร หรือ 3 ชั้น มีพื้นที่ก่อสร้างได้ 40% และพื้นที่สีเขียว 60% ซึ่งอาคารที่ก่อสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก เพื่อให้เกิดความแข็งแรงและความปลอดภัยหากเกิดเหตุการณ์สึนามิขึ้นอีก ใช้เงินลงทุน 500 ล้านบาท

นายชาญณรงค์ กล่าวอีกว่า ส่วนโรงแรมอื่นๆ ที่ได้รับความเสียหายมาก แต่ไม่เสียหายทั้งหมดจนถึงขั้นสร้างใหม่นั้นได้มีการปรับปรุงและซ่อมแซมแล้ว เพราะสามารถใช้กฎหมายที่เกี่ยวกับการซ่อมแซมได้

ด้านนายนัฐวุฒิ แก่นทอง ผู้ประกอบการโรงแรมพีพีอินด์ เกาะพีพี ได้กล่าวว่า สำหรับเกาะพีพีขณะนี้เปรียบเสมือนเมืองที่ไร้กฎหมาย เพราะก่อนหน้านี้รัฐบาลได้สั่งยกเลิกกฎหมายฉบับเก่า ที่ห้ามอนุญาตการก่อสร้างในเกาะพีพี แต่ก็ไม่มีกฎหมายฉบับใหม่เข้ามารองรับ ทำให้สถานประกอบการหลายแห่งผุดขึ้นอย่างสะเปะสะปะ โดยไม่มีการขออนุญาตสร้าง ใครมีเงินที่สามารถจะนำมาก่อสร้างก็สร้างกันตามอำเภอใจ ซึ่งอาจจะพูดได้ว่า ขณะนี้เกาะพีพีเป็นสลัมสมบูรณ์แบบ เหมือนอย่างที่ผ่านมาก่อนเกิดเหตุการณ์สึนามิ หลายคนเคยวาดฝันไว้ว่า เหตุการณ์สึนามิ น่าจะเป็นโอกาสที่ดี ที่เกาะพีพี จะได้มีการจัดระเบียบและฟื้นฟูอย่างเป็นระบบ แต่ดูเหมือนทุกอย่างจะไม่มีความชัดเจนจากหน่วยงานของรัฐ

กฎหมายใหม่ยังยกร่างไม่เสร็จ

ด้าน นายเอนก จิววุฒิพงศ์ โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า กฎหมายฉบับเก่าที่บังคับใช้ที่เกาะพีพี หลังจากเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิ ตามประกาศกฎกระทรวงของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ได้ประกาศไว้ได้มีการยกเลิกไปแล้ว มีเพียงข้อบังคับเดียวที่ยังคงไว้ก็คือระยะถอยร่น 30 เมตร ได้ประกาศใช้ตั้งแต่ เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2549

สำหรับผังเมืองเกาะพีพีฉบับใหม่ ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการยกร่างของกระทรวงมหาดไทย โดยกำหนดว่าจะต้องมีเส้นทางหนีภัย จำนวน 11 เส้นทาง และในส่วนของอาคารที่จะสร้างบริเวณที่ 1 คือในระยะถอยร่น 30 เมตรแรก ตัวอาคารจะต้องมีความสูงไม่เกิน 9 เมตร บริเวณที่ 2 ระยะถอยร่น 50 เมตร ตัวอาคารสูงไม่เกิน12 เมตร บริเวณที่ 3 ระยะถอยร่น 150 เมตร ตัวอาคารสูงไม่เกิน 16 เมตร และจะต้องปลูกสร้างสูงจากพื้นดิน 80 เซนติเมตร ซึ่งระเบียบดังกล่าว กระทรวงมหาดไทยเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรีเห็นชอบ ยังไม่มีผลบังคับใช้

กฎหมายออกช้ากระทบลงทุนเอกชน

ขณะที่ นายอิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ถึงแม้การฟื้นฟูเกาะพีพี ในส่วนของการสร้างโรงแรมที่พัก ยังไม่สามารถทำการก่อสร้างได้ แต่ในส่วนของการท่องเที่ยว มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวแล้วประมาณ 90% เนื่องจากแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามไม่ได้เกิดความเสียหาย สามารถดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางกลับมาท่องเที่ยวเกาะพีพีอีกครั้ง

สิ่งที่เป็นปัญหา ก็คือ ห้องพักจากเดิมที่มีอยู่ประมาณ 2,000 กว่าห้อง จากที่เกิดเหตุการณ์สึนามิ มีห้องพักเหลือเพียง ประมาณ 1,000 กว่าห้องเท่านั้น และว่าหากภาครัฐไม่มีความชัดเจนในการก่อสร้างโรงแรมที่พักเพิ่มขึ้น ตนเชื่อว่าในอนาคตจะมีผลกระทบต่อการท่องเที่ยว และการลงทุนของกระบี่อย่างแน่นอน

ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์

Valid XHTML 1.0 Transitional Valid CSS!
ทะเบียนพาณิชย์อีเลคทรอนิคส์ เลขที่ 8373549000215