?รอยัล ภูเก็ต มารีน่า? เตรียมเปิดขายคอนโดมิเนียมอีก 80 ยูนิตใน ก.พ.ปี 50 หลังเปิดเฟสแรกไปไม่นาน เผยต่างชาติทั้งยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย แห่ซื้อจนหมดโครงการ 66 ยูนิต เพราะสนใจลงทุนอสังหาฯในมารีน่าที่คิดว่าไม่มีขาดทุน มั่นใจเฟส 2 เปิดขายหมดภายในหนึ่งปี พร้อมลุยต่อเฟสสุดท้ายที่เป็นมารีน่าส่วนตัวขายพร้อมวิลลาหรูอีก 300-400 ยูนิต คาดปิดทั้งโครงการ 6,000 ล้านบาทภายในปี 2010 แน่นอน นางสาววิไลพร ปิติมานะอารี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด โครงการ ?รอยัล ภูเก็ต มารีน่า? โครงการมารีน่าหรูพร้อมที่อยู่อาศัย ตั้งอยู่ที่ ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต บนเนื้อที่ 190 ไร่ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการพัฒนาโครงการรอยัล ภูเก็ต มารีน่าว่า โครงการรอยัล ภูเก็ต มารีน่า เป็นโครงการที่ก่อสร้างมารีน่าสำหรับจอดเรือพร้อมที่อยู่อาศัยที่เป็นทั้งคอนโดมิเนียม เพนต์เฮาส์ และวิลลาหรูริมทะเล มีมูลค่าการลงทุนทั้งหมด 6,000 ล้านบาท โดยแบ่งการลงทุนพัฒนาออกเป็น 3 เฟสด้วยกัน โดยขณะนี้ในส่วนของเฟสแรกได้ดำเนินการลงทุนและก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมทั้งเปิดให้บริการมาแล้วระยะหนึ่ง ประกอบด้วยมารีน่าสำหรับจอดเรือทั้งที่เป็นเรือยอชต์และเรืออื่นๆ สามารถรองรับเรือได้ 60-80 ลำ รวมทั้งคอนโดมิเนียมและเพนต์เฮาส์ มีทั้งหมด 4 ตึกจำนวน 66 ยูนิต ราคายูนิตละ 14-38 ล้านบาทและวิลลาหรูริมทะเลจำนวน 9 หลัง ราคาอยู่ที่ 3.8-6 ล้านเหรียญสหรัฐ ปรากฎว่า ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักล่องเรือที่ใช้บริการจอดเรือสูงถึง 90-95% ในช่วงไฮซีซันนี้ ซึ่งกลุ่มเรือที่เข้ามาจอดจะเป็นเรือมาจากยุโรป เอเชีย และออสเตรเลียที่เป็นลูกค้ากลุ่มประจำ ส่วนคอนโดมิเนียมและเพนต์เฮาส์ก็ได้รับการตอบรับที่ดีมาก ?ขณะนี้สามารถขายหมดแล้วทั้ง 66 ยูนิต โดยกลุ่มลูกค้าที่ซื้อคอนโดมิเนียมจะเป็นชาวต่างชาติที่สนใจลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในมารีน่าและอยู่ในภูเก็ต ลูกค้ากลุ่มนี้มองว่าการลงทุนในอสังหาฯที่อยู่ในมารีน่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะมารีน่าจะมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา สามารถที่จะขายออกได้ง่ายและในช่วงที่ยังไม่ขายก็สามารถที่จะให้เช่าได้โดยทางรอยัล ภูเก็ต มารีน่า ได้ให้บริษัทมืออาชีพเข้ามาบริหารจัดการคอนโดมิเนียม รวมทั้งคนยุโรปที่เข้ามาทำงานในเอเซีย และ 50% ของผู้ที่สนใจซื้อคอนโดฯ ไม่ใช่นักล่องเรือแต่อย่างใด? นางสาววิไลพร กล่าว และว่า ส่วนวิลลาหรูนั้นมีทั้งหมด 9 หลังเป็นหลังใหญ่เนื้อที่ 2 ไร่จำนวน 1 หลังราคาอยู่ที่ 6 ล้านเหรียญสหรัฐและวิลล่าแบบลักชัวรีอีก 8 หลังบนพื้นที่ 1 ไร่ โดยทุกหลังจะมีมารีน่าจอดเรือส่วนตัวทั้งสิ้น มีสระว่ายน้ำส่วนตัวเป็นวิลลาไม้สักทั้งหลัง ราคาอยู่ที่ 3.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะนี้ได้เปิดขายไปแล้วและมีนักลงทุนชาวต่างชาติที่มีกำลังซื้อสูงมากๆ จองไปแล้ว 2-3 หลัง นอกจากนี้ ชั้นล่างของคอนโดมิเนียม ทางรอยัล ภูเก็ต มารีน่า ได้เปิดเป็นส่วนเอนเตอร์เทนเมนต์ที่มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร บาร์ ร้านจำหน่ายสินค้า ร้านจำหน่ายภาพศิลปะ โดยมีพื้นที่ประมาณ 8,000 ตารางวา ซึ่งขณะนี้มีร้านค้ามาเปิดจำนวนมากแล้ว คาดว่า ประมาณปี 50 ร้านค้าจะเต็มทั้งหมด เพราะโครงการต้องการที่จะให้เป็นศูนย์กลางในการเอนเตอร์เทนเมนต์สำหรับนักล่องเรือและลูกค้าที่ซื้อคอนโดฯภายในโครงการประมาณ 500 หลังคาเรือน รวมทั้งชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในภูเก็ตที่ต้องการสถานที่ที่มีความแปลกใหม่และเป็นส่วนตัวและนักท่องเที่ยวที่ใช้รอยัล ภูเก็ต มารีน่าเป็นสถานที่ลงเรือไปตามเกาะแก่งต่างๆ นางสาววิไลพร กล่าวถึงการพัฒนารอยัล ภูเก็ต มารีน่า ในเฟสต่อไปหลังจากประสบความสำเร็จในเฟสแรกมาแล้วว่า ทางรอยัล ภูเก็ต มารีน่า มีโครงการที่จะเปิดขายเฟส 2 ภายในเดือน ก.พ.50 ซึ่งเฟส 2 นั้นจะพัฒนาพื้นที่ที่อยู่ติดกับทางภูเก็ต โบ๊ท ลากูน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งมารีน่าที่มีชื่อเสียงในภูเก็ตอีกแห่งหนึ่งของภูเก็ต โดยจะมีคอนโดมิเนียม และเพนต์เฮาส์ จำนวน 80 ยูนิต มีตั้งแต่ 2 ห้องนอนไปจนถึง 4 ห้องนอนโดยการดีไซน์ให้ชั้นล่างของคอนโดมิเนียมเป็นสระว่ายน้ำตลอดทั้งอาคาร ส่วนเพนต์เฮาส์จะมีสระว่ายน้ำและอ่างจากุซซี่ส่วนตัวด้วย ส่วนราคานั้นยังไม่สรุปว่าจะขายในราคาเท่าใด แต่ในเบื้องต้นจะขยับเพิ่มสูงขึ้นจากราคาเฟสแรกประมาณ 25% โดยเฟส 2 นี้จะใช้เวลาในการก่อสร้างและขายประมาณ 1 ปี และคิดว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางใว้จากความต้องการที่มีสูงและราคาอยู่ในระดับกลางเมื่อเทียบกับฝั่งตะวันตกที่ราคาสูงตั้งแต่ 20 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งดูได้จากเฟสแรกที่เปิดแล้วขายได้ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นจะเปิดเฟส 3 ซึ่งในเฟส 3 นี้เป็นการพัฒนามีขนาดใหญ่กว่าเฟสแรกและเฟส 2 โดยการพัฒนาเป็นมารีน่าส่วนตัวที่อยู่ทางด้านในสุดของโครงการด้วยการสร้างวิลลาล้อมรอบมารีน่าที่มีความเป็นส่วนตัวสูงมาก โดยเฟส 3 นี้จะมีการขายวิลลาพร้อมกับมารีน่า ซึ่งจะสร้างทั้งหมดประมาณ 300-400 ยูนิต เพราะทั้งโครงการนั้นจะสร้างทั้งหมด 500 ยูนิต โดยขณะนี้ได้ก่อสร้างในส่วนของคอนโดฯและเพนต์เฮาส์ไปแล้วเกือบ 200 ยูนิต นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่จะก่อสร้างโรงแรมที่เป็นบูติกโฮเตลไม่เกิน 150 ห้องอยู่ภายในโครงการด้วย ซึ่งตามเป้าหมายที่วางไว้จะพัฒนาให้เต็มทั้งโครงการภายในปี 2010 นางสาววิไลพร กล่าวถึงแนวโน้มความต้องการที่อยู่อาศัยแบบหรูหราในมารีน่าว่า ความต้องการที่อยู่อาศัยทั้งที่เป็นคอนโดมิเนียม เพนต์เฮาส์และวิลลาที่อยู่ในมารีน่าในพื้นที่ภูเก็ตมีสูงมาก โดยเฉพาะกลุ่มคนต่างชาติที่ทำธุรกิจ และเดินทางไปมาระหว่างเมืองไทยกับเอเชียนิยมที่จะซื้อคอนโดฯ ในมารีน่า รวมทั้งชาวต่างชาติในยุโรป ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกาที่ต้องการมีที่อยู่ในมารีน่าและมองเห็นวิวทะเล และกลุ่มชาวต่างชาติที่เล็งผลการลงทุนทางธุรกิจ เพราะการลงทุนในอสังหาฯในมารีน่าไม่ค่อยจะขาดทุนมีแต่กำไร ?เนื่องจากมารีน่ามีการพัฒนาไปเรื่อยๆ และคนที่มาใช้บริการมารีน่าจะเป็นกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อสูง จึงสนใจเข้ามาลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในมารีน่าบวกกับทางรอยัล ภูเก็ต มารีน่าให้บริษัทที่เป็นมืออาชีพในการบริหารจัดการคอนโดมิเนียมและอสังหาริมทรัพย์ภายในโครงการ รวมทั้งการดูแลในเรื่องของการให้เช่าอีกด้วยในอนาคต? นางสาววิไลพร กล่าว
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์