ภูเก็ต, ภูเก็ตตั้งกรรมการพิจารณาเพิ่มแท็กซี่มิเตอร์ ( ข่าวภูเก็ต )
ศูนย์ข่าวภูเก็ต - จังหวัดภูเก็ตสั่งตั้งกรรมการพิจารณา จดทะเบียนแท็กซี่มิเตอร์ เพราะเกรงจะเกิดปัญหาขัดแย้งในอนาคต หลังแท็กซี่มิเตอร์ขอจดทะเบียนเพิ่มอื้ออีกกว่า 40 คัน
วันนี้ (30 พ.ย.) ที่ห้องประชุมสึนามิ ศูนย์ปฏิบัติการจังหวัดภูเก็ต นายวรพจน์ รัฐสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกลั่นกรอง เรื่องการจดทะเบียนรถยนต์สาธารณะและรถยนต์จังหวัด ภูเก็ต ทั้งที่ 1/2549 โดยมีส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น อัยการ ท่าอากาศยานภูเก็ต ขนส่งจังหวัดภูเก็ต ตำรวจท่าฉัตรไชย สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต
ทั้งนี้ เพื่อพิจารณาคำขอจดทะเบียนรถรับจ้างแท็กซี่มิเตอร์ จำนวน 46 คัน ของ บริษัท ภูเก็ตแท็กซี่มิเตอร์ เซอร์วิส จำกัด ในเรื่องของความเหมาะสม ทั้งในเรื่องของจำนวนผู้โดยสาร/นักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังท่าอากาศยานภูเก็ต จำนวนรถรับจ้างที่มีอยู่ แนวโน้มจำนวนนักท่องเที่ยวกับความต้องการใช้บริการในอนาคต สภาพการให้บริการของรถรับจ้าง ความเหมาะสม/เพียงพอของจำนวนรถรับจ้าง ความสอดคล้องกับนโยบายจังหวัด โดยเฉพาะผลกระทบที่เกิดขึ้นตามมาภายหลังการอนุญาตหรือไม่อนุญาต
เจ้าหน้าที่ขนส่งจังหวัดภูเก็ต ได้รายงานต่อที่ประชุมว่า จากมติที่มีการประชุมไปเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2549 ให้คงแท็กซี่มิเตอร์ไว้เพียง 42 คัน และรถลีมูซีนจะมีเพียง 150 คัน รวม 192 คัน ซึ่งถือว่าเหมาะสมแล้ว ทั้งนี้ ไม่ต้องการที่จะไปสร้างภาระให้กับท่าอากาศยาน จ.ภูเก็ต และเมื่อมีการเสนอเรื่องเข้ามาก็จะต้องมีการนำมาพิจารณา
นายสรายุทธ มัลลัม กรรมการจากสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภูเก็ต กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาทางสมาคมได้รับการร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวบ่อยครั้ง ถึงกรณีของรถแท็กซี่มิเตอร์ที่เรียกใช้บริการแล้วมักจะไม่ยอมเปิดมิเตอร์บางคัน โดยมีการอ้างต่อนักท่องเที่ยว ว่า หากเปิดมิเตอร์จะต้องเสียค่าใช้จ่ายสูง เลยให้ใช้วิธีแบบเหมาจ่ายแทนจนกลายเป็นการสมยอม เมื่อรถแท็กซี่มิเตอร์จะวิ่งผ่านด่านตรวจรถที่สถานีตำรวจทุ่งทอง ตำรวจจะเรียกตรวจ คนขับจะหันไปบอกผู้โดยสารว่า เป็นรถแท็กซี่มิเตอร์ ดังนั้น หากการเพิ่มรถขึ้นจะทำให้ปัญหาเกิดขึ้นมากมาย สิ่งที่เป็นปัจจุบันนี้ถือว่าสมควรแล้ว
ด้าน น.ท.พรชัย เอื้ออารี ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต กล่าวว่า รถใช้บริการในท่าอากาศยานนั้น ประกอบด้วย รถลีมูซีน รถแท็กซี่มิเตอร์ รถบัส และรถเช่า ซึ่งที่มีการสัมปทานจากการท่ามีเฉพาะรถลีมูซีนกับรถเช่า ซึ่งจำนวนรถที่ให้บริการนั้นในช่วงที่มีผู้โดยสารเข้ามามากซึ่งเป็นช่วงพีกก็อาจจะไม่เพียงพอ แต่ในช่วงปกติก็เพียงพอ ซึ่งถือเป็นปกติของการให้บริการ
อย่างไรก็ตาม นายวรพจน์ ได้กล่าวสรุปว่า การประชุมในวันนี้ถือเป็นเพียงจุดเริ่มต้น โดยให้ทางขนส่งจังหวัดไปทำการรวบรวมข้อมูลรายละเอียด เกี่ยวกับจำนวนผู้โดยสารที่ผ่านท่าอากาศยาน จำนวนรถที่ให้บริการ และปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นมา สรุปให้คณะกรรมการทราบเพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ ในการเสนอเรื่องพิจารณาว่า จะเพิ่มจำนวนรถแท็กซี่ตามที่มีการยื่นเรื่องขอมาหรือไม่อย่างไร
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์
English
