ข่าวสาร ข่าวทั่วไป ในแถบ อันดามัน ( ภูเก็ต, กระบี่, ระนอง, ตรัง, พังงา, สตูล )

ภูเก็ต, ธอส.ภูเก็ตขนทรัพย์ NPLกว่า 40 รายการเปิดประมูลปลายพ.ย. ( ข่าวภูเก็ต )

ศูนย์ข่าวภูเก็ต -ธอส.ภูเก็ต ขนทรัพย์ NPA ออกประมูลปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ จำนวนกว่า 40 รายการ ขณะที่การปล่อยสินเชื่อและยอดเงินฝากเป็นไปตามเป้าหมายหมายที่วางไว้

นายวิทยา แสนภักดี ผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ ( ธอส.) สาขาภูเก็ต กล่าวถึงการเปิดประมูลทรัพย์ที่รอการขายทอดตลาด ว่า ธอส.เตรียมจะเปิดประมูลทรัพย์ที่รอการขายหรือที่เป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้( NPA) วันที่ 25 พฤศจิกายน ที่ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ สาขาภูเก็ต โดยทรัพย์สินที่จะนำมาจำหน่ายครั้งนี้มีประมาณ 30-40 รายการ ประกอบด้วยบ้านทาวน์เฮาส์ บ้านแฝด บ้านเดี่ยว โดยมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 5 แสนบาท ไปจนถึง 2 ล้านบาท

สำหรับการขายทอดตลาดทรัพย์ของธอส.ในรอบปี 2549 ธอส.ได้เปิดประมูลขายทรัพย์ไปแล้ว 2 ครั้ง โดยมียอดการจำหน่ายไปแล้วประมาณ 40 ล้านบาท ซึ่งเกินกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 23 ล้านบาท แต่ถ้าเทียบกับปีที่ผ่านมาๆ ถือว่าการขายทอดตลาดทรัพย์น้อยกว่ามาก

นายวิทยา ยังได้กล่าวต่อไปถึงภาพรวมการขอสินเสื่อ เพื่อซื้อบ้านและอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ว่า ใน รอบปี 2549 จนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา มีการให้สินเชื่อแล้วประมาณ 1,300 ล้าน บาท โดยแต่ละเดือนจะมีการยื่นขอสินเชื่อเฉลี่ย 100-250 ล้านบาท และเมื่อสิ้น ปี 2549 คาดว่าจะสามารถปล่อยสินเชื่อได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 1,460 ล้านบาท ซึ่งการปล่อยสินเชื่อในปีนี้โตขึ้นประมาณ 10 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของ ปี 2548

สาเหตุที่การขอสินเชื่อมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น เป็นผลมาจากโครงการที่มีการก่อสร้างเมื่อประมาณ 1-2 ปีที่ผ่านมาซึ่งมีเป็นจำนวนมาก ถึงรอบของการโอน จึงทำให้มีการยื่นขอสินเชื่อกับธนาคารเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงความต้องการ ด้านที่อยู่อาศัยของประชาชน ทั้งที่เป็นคนภูเก็ตและผู้ที่เข้ามาประกอบอาชีพในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตยังมีความต้องการบ้านเป็นของตัวเองสูง และแนวโน้มในปีหน้าก็คงไม่แตกต่างกันมากนัก

สำหรับราคาบ้านที่นำมาขอสินเชื่อ นายวิทยา กล่าวว่า จะมีระดับราคาตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งจะเป็นทาวน์เฮาส์ นอกจากนี้ยังมีบ้าน ที่ราคาที่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท ซึ่งเป็นที่นิยมในกลุ่มของผู้เริ่มต้นทำงานหรือเริ่มต้นสร้างครอบครัว

นายวิทยา กล่าวถึงยอดเงินฝาก ว่า ตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือนกันยายน 2549 มีจำนวน ยอดรวมประมาณ 1,700 ล้านบาท ซึ่งโตขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาประมาณ 40-45 % ทั้งนี้ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้น แต่คงไม่สามารถจะบอกได้ว่าประชาชนให้ ความสนใจกับการออมเงินเพิ่มมากขึ้น เนื่องตัวเลขดังกล่าวเฉพาะส่วนของ ธอส.เท่านั้น ดังนั้นหากจะพิจารณาว่าประชาชนสนใจการออมเพิ่มมากขึ้นหรือไม่จะต้องดูตัวเลขของธนาคารอื่นๆ ประกอบด้วย

?ในปีหน้า แนวโน้มของอัตราดอกเบี้ย ก็คาดว่าจะ เพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ประชาชนสนใจที่จะนำเงินมา ฝากกับธนาคารมากขึ้น?

ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์