ศาลจังหวัดภูเก็ตสั่งให้ยกคำสั่ง ขอคุ้มครองฉุกเฉินของนายทุนสิงคโปร์ กรณีกรรมการใหม่นำกำลังทหาร ตำรวจบุกบลูแคนย่อน คันทรี คลับ ดูดข้อมูลทางธุรกิจ กวาดเงินจากเคาน์เตอร์ เหตุขาดพยานในการยืนยัน
ตามที่ศาลจังหวัดภูเก็ตได้มีคำสั่งแต่งตั้งกรรมการ บริษัท มิวเร็กซ์ จำกัด เจ้าของสนามกอล์ฟ บลูแคนย่อน คันทรี คลับ เพิ่มอีก 7 คน เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2549 และให้ 6 ใน 12 คน มีอำนาจลงนามร่วม โดยในจำนวน 6 คน ที่มีอำนาจลงนามไม่มีกรรมการเดิมที่เป็นทุนจากสิงคโปร์เลย ปรากฏว่า เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม บริษัท มิวเร็กซ์ จำกัด จำเลยที่ 1 ได้ยื่นขอคุ้มครองชั่วคราวกรณีฉุกเฉิน ว่า โจทก์ (นายเรวัต จินดาพล) และพวกได้นำกำลังทหารบุกเข้าไปในสนามกอล์ฟบลูแคนย่อน คันทรี คลับ
ศาลจังหวัดภูเก็ตได้มีคำสั่งเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2549 ว่า วิเคราะห์จากพยานหลักฐานของผู้ร้องแล้ว เห็นว่า ผู้ร้องไม่มีพยานให้นำสืบ ว่า โจทก์และพวกได้นำกำลังตำรวจ ทหารบุกเข้าไปในสนามกอล์ฟบลูแคนย่อน คันทรี คลับ คลับเฮ้าส์ และสถานที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัท บลูแคนย่อน พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ได้มีการควบคุมตัวพนักงานของบริษัท 400 กว่าคนไม่ให้เข้าไปทำงาน
รวมทั้งได้มีการบังคับหัวหน้าฝ่ายการเงินและบัญชีบริษัท ให้เปิดตู้นิรภัยและนำเงินสดภายในตู้นิรภัยของบริษัทไปใส่ไว้ในตู้นิรภัยของโจทก์ที่เตรียมมา และโจทก์กับพวกได้บุกเข้าไปยังเคาน์เตอร์ของบริษัท 3 เคาน์เตอร์ แล้วนำเงินสดออกไปเคาน์เตอร์ละ 10,000 บาท โจทก์กับพวกได้ดูดข้อมูลทางธุรกิจและได้เอาเอกสารทางการค้าของบริษัท บลูแคนย่อน พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ไปเป็นจำนวนมาก มาเบิกความให้ศาลเห็น
ในทางกลับกันเมื่อโจทก์ทั้งสี่ได้เข้าไปปฏิบัติงานในบริษัท จำเลยที่ 1 ตามคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลแล้ว โจทก์ทั้งสี่ได้รายงานการเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ให้ศาลทราบ ดังนั้น ตามพยานหลักฐานของผู้ร้องยังไม่เพียงพอที่จะเพิกถอนคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวกรณีฉุกเฉินของโจทก์ทั้งสี่ได้ จึงให้ยกคำร้อง
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์