ภูเก็ต, ?เดนมาร์ก? ช่วยป่าตองรักษาสิ่งแวดล้อม มอบ 13 ล. สร้างบึงประดิษฐ์ บำบัดน้ำเสีย ( ข่าวภูเก็ต )

รัฐบาลเดนมาร์กมอบบึงประดิษฐ์บำบัดน้ำเสียมูลค่า 13 ล้านบาท ให้เทศบาลเมืองป่าตองใช้บำบัดน้ำเสียจากบ้านเรือนประชาชนก่อนปล่อยลงคลอง พร้อมสนับสนุนงบดูแลต่อเนื่องอีก 3 ปี เป็นเงิน 1.5 ล้านบาท

Mr.Carsten Laugesen หัวหน้าโครงการพัฒนาศักยภาพการจัดการน้ำเสีย (CD-WMA) ประเทศเดนมาร์ก ส่งมอบบึงประดิษฐ์บำบัดน้ำเสียให้กับเทศบาลเมืองเมืองป่าตอง จ.ภูเก็ต โดยมี นายวรพจน์ รัฐสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในพิธีรับมอบบึงประดิษฐ์ ซึ่งสำนักงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศแห่งเดนมาร์ก ร่วมกับโครงการพัฒนาศักยภาพองค์การจัดการน้ำเสียจัด สร้างขึ้นให้แก่เทศบาลเมืองป่าตอง ภูเก็ต เพื่อใช้ในการบำบัดน้ำเสียจากคลองปากบางและคลองสาขา คือ คลองปากหลัก ก่อนระบายลงสู่ลำคลอง รวมทั้งน้ำเสียจากบ้านเรือนของประชาชน

บึงประดิษฐ์ดังกล่าวสร้างบนเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ ติดกับโรงบำบัดน้ำเสียเดิมของเทศบาลเมืองป่าตอง มีขนาด 6,300 ตารางเมตรสามารถรับปริมาณน้ำเสียได้วันละ 1,000-1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาลเดนมาร์ก จำนวน 13 ล้านบาท ในการก่อสร้าง และสนับสนุนงบประมาณในการบริหารจัดการต่อเนื่องอีก 3 ปี เป็นเงินจำนวน 1.5 ล้านบาท

สำหรับระบบบำบัดน้ำเสียเทศบาลเมืองป่าตอง ที่รัฐบาลเดนมาร์กมอบให้ครั้งนี้ ก่อสร้างขึ้น ภายหลังจากเกิดเหตุธรณีพิบัติภัยคลื่นยักษ์สึนามิ เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 โดยรัฐบาลเดนมาร์กได้ให้การสนับสนุนงบประมาณแก่รัฐบาลไทย ในการช่วยเหลือด้านสิ่งแวดล้อมให้กับพื้นที่ที่ประสบภัย เทศบาลเมืองป่าตองเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติสึนามิ รัฐบาลเดนมาร์กจึงได้ให้ความช่วยเหลือผ่านองค์การจัดการน้ำเสีย เพื่อใช้สำหรับบำบัดน้ำเสียให้ประชาชนชาวป่าตองได้ใช้ประโยชน์

นายเปี่ยน กี่สิ้น นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง กล่าวว่าบึงประดิษฐ์เป็นโรงบำบัดน้ำเสียประเภทหนึ่ง ที่สามารถขจัดมลพิษโดยใช้ขบวนการธรรมชาติบำบัด โดยส่วนที่ทำหน้าที่บำบัดน้ำเสียจะอยู่ใต้ผิวดินและตอนบนจะปกคลุมด้วยต้นไม้ ซึ่งเลือกใช้ต้นพุทธรักษา เพราะสามารถที่จะทนอยู่ในน้ำกร่อยได้ โดยทำหน้าที่ในการดึงสารอาหารและขจัดสารอินทรีย์และแบคทีเรีย เป็นการบำบัดน้ำเสียขั้นสุดท้ายก่อนปล่อยกลับลงคลองปากบาง

บึงประดิษฐ์แห่งนี้จะรองรับปริมาณน้ำเสีย ที่ไม่สามารถบำบัดได้จากโรงบำบัดน้ำเสียที่มีอยู่ประมาณ 30% ให้มีความสะอาดมากขึ้น ก่อนที่จะมีการปล่อยลงลำคลองธรรมชาติ โดยเฉพาะคลองปากบาง ซึ่งเป็นทางน้ำธรรมชาติหลักเพียงสายเดียวที่พาน้ำไหลลงอ่าวป่าตอง เพราะโรงบำบัดน้ำในคลองขณะนี้มีประสิทธิภาพสามารถบำบัดน้ำเกือบทั้งหมดจากป่าตองก่อนไหลลงสู่ทะเล

นายเปี่ยน กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันเทศบาลเมืองป่าตองมีการโรงบำบัดน้ำเสีย ซึ่งสามารถที่จะรองรับน้ำเสียในพื้นที่เทศบาลเมืองป่าตองได้เกือบทั้งหมด โดยน้ำเสียกว่า 60% จะได้รับการบำบัดจากโรงบำบัดดังกล่าว ซึ่งได้มีการดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2531 โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนสิ่งแวดล้อมของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ และยังมีโครงการต่อเนื่องในการขยายโรงบำบัดน้ำเสีย และระบบรวบรวมน้ำเสียที่มีประสิทธิภาพ รองรับการขยายตัวของเมือง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ

ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์