ภูเก็ต, เตรียมนำทรัพย์ภูเก็ตขายเกือบ 400 ล.ที่ติดทะเล-เห็นวิวเหมาะทำโรงแรม ( ข่าวภูเก็ต )

กรมบังคับคดีเตรียมนำทรัพย์แปลงใหญ่ในภูเก็ตอีก 5 แปลง ออกขายทอดตลาดในเร็วๆ นี้ มูลค่าเกือบ 400 ล้านบาท เป็นที่ดินติดทะเล เห็นซีวิว เหมาะสร้างโรงแรม รีสอร์ต บ้านพักตากอากาศ เผยปี 2549 นี้ ขายทอดตลาดได้กว่า 1,300 ล้านบาท

วันนี้ (12 ต.ค.) กรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม จัดโครงการ ?สื่อมวลชนสัญจร? เพื่อประชาสัมพันธ์การทำงาน และการขายทรัพย์ของกรมบังคับคดีให้เป็นที่รู้จักของประชาชนมากขึ้น โดยมี นายสิรวัติ จันทรัฐ อธิบดีกรมบังคับคดี นายปกรณ์ ปฏิพิมพาคม ผู้อำนวยการกองจำหน่ายทรัพย์สิน และ นายสันทัด ประสานวรรณ ผู้อำนวยการสำนักงานบังคับคดี จ.ภูเก็ต รวมแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ณ โรงแรมรอยัล ภูเก็ต ซิตี้ จ.ภูเก็ต

นายสิรวัต จันทรัฐ อธิบดีกรมบังคับคดี กล่าวว่า การจัดโครงการสื่อมวลชนสัญจรนั้น ดำเนินการในหลายพื้นที่ทั่วทั้งประเทศ ทั้งนี้ เพื่อต้องการที่จะสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างกรมบังคับคดีกับสื่อมวลชน รวมให้สื่อมวลชนเป็นสื่อกลางในการประชาสัมพันธ์การทำงานของกรมบังคดี และการขายทอดตลาดทรัพย์ของกรมบังคดีให้ประชาชนได้รับทราบ เพราะที่ผ่านมา ประชาชนมองการทำงานของกรมบังคับคดีไม่ดีเท่าที่ควร ซึ่งการทำงานของกรมบังคับคดียึดหลักปฏิบัติตามกฎหมาย สร้างความเป็นธรรม และลดการร้องเรียนให้เหลือน้อยที่สุด

อย่างไรก็ตาม ในปี 2549 กรมบังคับคดีได้วางเป้าหมายที่จะผลักดันทรัพย์ออกให้ได้ 180,000 ล้านบาท ซึ่งก็สามารถที่จะดำเนินการได้ตามที่กำหนด ส่วนเป้าหมายในปี 2550 นั้นยังไม่ได้กำหนดแต่อย่างใด และจะมีการแก้กฎหมายที่ยังเป็นอุปสรรคในการขายทอดตลาดทรัพย์ เช่น ให้สามารถขายทอดตลาดทรัพย์ในวันหยุดได้ เป็นต้น

ด้านนายสันทัด ประสานวรรณ ผู้อำนวยการสำนักงานบังคับคดีจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการบังคับคดีในภูเก็ตตลอดปีงบประมาณ 2549 ว่า ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2548 ถึง กันยายน 2549 สำนักงานบังคับคดีภูเก็ตสามารถผลักดันทรัพย์ ที่สิ้นสุดคดีได้กว่า 1,340 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 1,300 ล้านบาท

ทำให้ทรัพย์ที่สิ้นสุดคดี และรอขายทอดตลาดในภูเก็ตประมาณ 800 คดี มูลค่าประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งมีทั้งอาคารชุด ทาวน์เฮาส์ บ้านแฝด บ้านเดี่ยว อาคารพาณิชย์ รวมทั้งที่ดินเปล่า ซึ่งมีเป็นจำนวนมาก ซึ่งในปีงบประมาณ 2550 จะมีการนำทรัพย์ออกขายทอดตลาดครั้งใหญ่ในเดือนพฤศจิกายน 2549 ที่จะถึงนี้ ประมาณ 60 คดี มูลค่าประมาณ 150 ล้านบาท

กลุ่มคนที่ซื้อทรัพย์ในภูเก็ต จะมีทั้งนักธุรกิจในภูเก็ต และนักธุรกิจจากส่วนกลาง หากเป็นทรัพย์ที่มีขนาดไม่สูงมากจะซื้อโดยคนภูเก็ต แต่หากเป็นแปลงใหญ่ที่มีมูลค่าสูงๆ จะเป็นการซื้อโดยนักลงทุนจากกรุงเทพฯ ซึ่งบางครั้งไม่ได้ซื้อเพื่อเข้ามาลงทุนพัฒนาที่ดินแต่อย่างใด แต่ซื้อเพื่อที่จะขายต่อก็มีเป็นจำนวนมาก และกลุ่มที่ซื้อที่เป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ในส่วนกลางยังไม่มีปรากฏ

?ทรัพย์ที่นำออกขายทอดตลาดในภูเก็ตค่อนข้างที่จะได้รับการตอบรับดีมาก โดยเฉพาะพื้นที่ที่เหมาะสมกับการลงทุนโรงแรม รีสอร์ต บ้านตากอากาศ ที่สามารถมองเห็นซีวิว ส่วนทรัพย์ที่ขายยากจะเป็นทรัพย์ที่ตั้งอยู่บนที่สูงเกิน 80 เมตร เพราะตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ห้ามก่อสร้างในที่สูงเกิน 80 เมตร ในเชิงพาณิชย์ ทำได้แค่การก่อสร้างเพื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งที่ทางสำนักงานฯยึดมาแล้วขายไม่ออกมีอยู่ 2-3 แปลงที่อยู่สูงเกิน 80 เมตร? นายสันทัด กล่าวและว่า

โดยเฉพาะที่เปล่าอยู่ในทะเลที่สวยงาม และเหมาะกับการลงทุนพัฒนาอสังหาฯ ส่วนใหญ่แล้วลูกหนี้กับเจ้าหนี้ สามารถที่จะตกลงกันได้ ไม่ค่อยได้เข้าสู่ขบวนการขายทอดตลาด

นายสันทัด ยังกล่าวถึงแนวโน้มคดีที่จะต้องมีการยึดทรัพย์ในภูเก็ต ว่า ภายหลังจากปี 2548 เป็นต้นมา คดียึดทรัพย์ในภูเก็ตลดน้อยลงมาก จากที่มีสูงมากตั้งแต่ปี 2540 เป็นต้นมา ที่คดียึดทรัพย์ในภูเก็ตมีสูงมากปีละเป็นหมื่นคดี และมีโรงแรมใหญ่ ที่ดินแปลงใหญ่ ถูกยึดจำนวนมาก จากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา แต่ขณะนี้คดีลดเหลือแค่เดือนละ 50 คดีเท่านั้น

เตรียมนำ 5 แปลงใหญ่ออกประมูล

อย่างไรก็ตาม ภายหลังการแถลงข่าวแล้วเสร็จ กรมบังคคีได้นำสื่อมวลชนไปดูทรัพย์ที่สิ้นสุดคดีและอยู่ระหว่างการดำเนินการขายทอดตลาด ที่เป็นทรัพย์แปลงใหญ่ จำนวน 4 แปลงด้วยกัน ประกอบด้วย ทรัพย์หมายเลขคดีแดงที่ 3885/2540 โฉนดเลขที่ 3545 ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต เนื้อที่ 80 ไร่ 1 งาน 19 ตารางวา ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชุมชนโคกโตนด ถ.เจ้าฟ้าใน เป็นที่ดินเปล่า บางส่วนติดทะเลยาวประมาณ 100 เมตร เหมาะสำหรับสร้างโรงแรม รีสอร์ต บ้านพักตากอากาศ ราคาประเมินอยู่ที่ 159,714,000 บาท เป็นที่ดินที่ยึดมากเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว โดยมีทางธนาคารเกียรตินาคิน ซึ่งในการเปิดประมูลทางธนาคารเกียรตินาคินก็จะร่วมประมูลด้วย

แปลงที่ 2 ทรัพย์หมายเลขคดีแดง ที่ 1177/2547 โฉนดเลขที่ 51807 ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต เนื้อที่ 11 ไร่ 98.9 ตารางวา เป็นที่ดินเปล่าเหมาะสมหรับสร้างที่อยู่อาศัย ราคาประเมินอยู่ที่ 22,494,500 บาท

แปลงที่ 3 หมายเลขคดีแดงที่ 3801/2548 ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต มี 3 แปลงย่อยด้วยกัน แปลงที่ 1 น.ส.3 ก.เลขที่ 4232 เนื้อที่ 2 ไร่ 3 งาน 82 ตารางวา แปลงที่ 2 น.ส.3 ก.เลขที่ 6115 เนื้อที่ 23 ไร่ 2 งาน 61 ตารางวา และแปลงที่ 3 น.ส.3 ก.เลขที่ 4231 เนื้อที่ 5 ไร่ 1 งาน 28 ตารางวา อยู่บริเวณริมถนนป่าตอง-กะหลิม เป็นที่ดินเปล่าที่เหมาะสำหรับสร้างโรงแรม รีสอร์ต บ้านพักตากอากาศ ราคาประเมิน 127,710,000 บาท

แปลงที่ 4 หมายเลขคดีแดงที่ 433/2545 โฉนดเลขที่ น.ส.3 ก.3523 ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เนื้อที่ 11 ไร่ 1 งาน 73 ตารางวา เป็นที่ดินเปล่าเหมาสำหรับสร้างที่อยู่อาศัย ราคาประเมินอยู่ที่ 45,730,000 บาท

แปลงสุดท้าย หมายเลขคดีแดงที่ 1446/2545 แบ่งออกเป็น 3 แปลงย่อย ตั้งอยู่ ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต แปลงที่ 1 โฉนดเลขที่ 6678 เนื้อที่ 6 ไร่ 3 งาน 95.4 ตารางวา ราคาประเมิน 12,579,300 บาท แปลงที่ 2 โฉนดเลขที่ 6680 เนื้อที่ 2 งาน 52 ตารางวา ราคาประเมิน 1,136,250 บาท และแปลงที่ 3 โฉนดเลขที่ 6681 เนื้อที่ 4 ไร่ 74.9 ตารางวา ราคาประเมิน 7,537,050 บาท ทั้ง 3 แปลง เป็นที่ดินเปล่าเหมาะสำหรับสร้างที่อยู่อาศัย

ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์