ภูเก็ต, รองผู้ว่าฯ ภูเก็ต เตือนระวังแก๊งต้มตุ๋น หลังมีเหยื่อถูกหลอกเสียเงินแล้วหลายราย ( ข่าวภูเก็ต )

รองผู้ว่าฯ ภูเก็ต ออกโรงเตือนประชาชน ระวังแก๊งมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงินผ่านทางธนาคาร หลังมีรายงานเหยื่อโดนต้มแล้วหลาย

จากกรณีที่ประชาชนชาวภูเก็ต ถูกกลุ่มมิจฉาชีพต้มตุ๋นอย่างต่อเนื่อง กระทั่งทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก นายวรพจน์ รัฐสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึง มาตรการป้องกันกลุ่มมิจฉาชีพ ที่เข้ามาต้มตุ๋นประชาชนในพื้นที่ภูเก็ต โดยการใช้โทรศัพท์ติดต่อล่อใจในการร่วมกิจกรรมต่างๆ โดยให้รางวัลเป็นรถยนต์ จักรยานยนต์ และเงิน-ทอง หากเหยื่อตกลง ก็จะให้เหยื่อบอกชื่อธนาคาร และหมายเลขบัญชี เพื่อจะได้โอนเงินเข้าบัญชีให้ แต่เมื่อได้หมายเลขบัญชีตามต้องการแล้ว กลุ่มมิจฉาชีพ ก็ใช้กลวิธีต่างๆ ในการนำเงิน ออกจากบัญชี โดยที่เหยื่อไม่รู้ แล้วหลบหนีไป

ขณะนี้จากการรายงานของตำรวจพบว่ามีประชาชน เข้าแจ้งความกับตำรวจให้ดำเนินคดีกับกลุ่มมิจฉาชีพ แล้ว จำนวน 3 ราย และไม่แจ้งความอีก จำนวน 14 ราย รวมเป็นเงินหลายแสนบาท

เรื่องนี้จังหวัดภูเก็ตออกประกาศประชาสัมพันธ์ ไม่ให้ประชาชนหลงเชื่อกลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าว ซึ่งหากประชาชนท่านใดได้รับโทรศัพท์ที่ไม่น่าเชื่อถือ หรือมีพฤติกรรมไปในทางหลอกลวง ให้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือแจ้งที่สถานีตำรวจโดยตรงที่อยู่ใกล้ที่สุดในทันที เพื่อตำรวจจะได้ตรวจสอบติดตามจับกุมต่อไป

นางสาวณัฐศิกาญจน์ ว่องวรรณกุล ผู้จัดการธนาคารไทยพาณิชย์ สาขากะตะอ.เมืองภูเก็ต กล่าวว่า การทำงานของ กลุ่มมิจฉาชีพ หรือแก๊งต้มตุ๋นจะใช้โทรศัพท์ติดต่อลูกค้า ด้วยการล่อใจให้รางวัลต่างๆ มากมาย กระทั่งลูกค้าเชื่อใจ แล้วบอกหมายเลขบัญชีไป กลุ่มมิจฉาชีพ ก็จะเบิกเงินหลบหนีไป เหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นในช่วงที่ธนาคารปิดให้บริการลูกค้า ซึ่งธนาคารไม่สามารถเข้าไปดำเนินการได้

ดังนั้น อยากฝากให้ประชาชน อย่าปักใจหลงเชื่อคนแปลกหน้าในทันที ใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนตัดสินใจเชื่อ และเมื่อได้รับการติดต่อเข้ามาทางโทรศัพท์ในทางไม่ชอบมาพากล รีบแจ้งมายังสถานีตำรวจทันที เพราะหลังจากถูกจับกุมที่กรุงเทพมหานครแล้วก็หนีมาล่อใจประชาชนทางภาคใต้ ในหลายจังหวัดอยู่ขณะนี้

นายไพโรจน์ สมศรี ผู้จัดการส่วนบริการลูกค้า TOTจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การหลอกลวง ต้มตุ๋นประชาชน โดยใช้โทรศัพท์นั้นเป็นเรื่องตรวจสอบยาก เพราะเมืองไทยยังไม่มีอุปกรณ์จับพิกัดความถี่ของโทรศัพท์ ถ้าจะให้แก้ปัญหาดังกล่าวได้ เมืองไทยจะต้องใช้ระบบ 3 จี เหมือนกับประเทศที่พัฒนาแล้ว และที่สำคัญประชาชนอย่าไปหลงเชื่อลมปากของกลุ่มมิจฉาชีพ

ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์