?จังซีลอน? แหล่งชอปปิ้งขนาดใหญ่บนหาดป่าตอง ได้ฤกษ์เปิดบริการแน่นอนแล้ว 1 ธ.ค.หลังทุ่มทุนกว่า 3,500 ล้านบาท เนรมิตศูนย์ชอปปิ้งเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ใหญ่ที่สุด บนหาดป่าตอง หวังรองรับนักช้อปต่างชาติ และคนไทย วันละ 4.5 หมื่นคน พร้อมทุ่มประชาสัมพันธ์กว่า 100 ล้านบาท ดึงนักช้อปให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
นายประวิช จรรยาสิทธิกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ภูเก็ตสแควร์ จำกัด เจ้าของโครงการจังซีลอน กล่าวถึงความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการ ?จังซีลอน? ซึ่งเป็นศูนย์ชอปปิ้งเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่ใหญ่ที่สุด บนหาดป่าตอง มูลค่าการลงทุนประมาณ 3,500 ล้านบาท ว่า การก่อสร้างขณะนี้มีความคืบหน้าไปแล้วประมาณ 85% โดยบริษัทกำลังเร่งก่อสร้างอย่างเต็มที่ เพื่อให้เสร็จทันกำหนดระยะเวลาในการเปิดให้บริการในวันที่ 1 ธันวาคม 2549
สำหรับศูนย์การค้าจังซีลอน สร้างบนเนื้อที่ 55 ไร่ หรือประมาณ 200,000 ตารางเมตร ตั้งอยู่บริเวณสี่แยกถนนบางลา และถนนราษฎร์อุทิศสาย 2 หาดป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต โดยก่อสร้างด้วยงบลงทุนประมาณ 3,500 ล้านบาท เป็นการลงทุนโดยบริษัท ภูเก็ตสแควร์ จำกัด ที่มีผู้ถือหุ้น ประกอบด้วย นายสุชาติ เจียรานุสสติ และ นายธนิต รัตนกำชัย เป็นผู้บริหารศูนย์การค้า และมี ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ภูเก็ต สแควร์ จำกัด ซึ่งศูนย์การค้าจังซีลอนจะเป็นศูนย์กลางแห่งการชอปปิ้งของนักท่องเที่ยว ที่มีขนาดใหญ่และครบวงจร ที่สามารถตอบสนองความต้องการของคนทุกกลุ่มทุกวัย
แบ่งพื้นที่ 75,000 ตารางเมตรให้เช่า โดยมีผู้เช่าไปแล้วกว่า 93% ประมาณ 200 ราย ส่วนใหญ่ก็ทยอยส่งมอบแบบตกแต่งให้กับทางศูนย์การค้าแล้ว ซึ่งจะใช้ระยะเวลาในการตกแต่งประมาณ 1-2 เดือน ส่วนที่เหลือนั้นยังรับผู้เช่าพื้นที่อยู่ ซึ่งต้องการร้านค้าในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตมาร่วมโครงการด้วย
นายประวิช กล่าวต่อไปว่า โครงการจังซีลอน แบ่งพื้นที่ในการพัฒนาออกเป็น 4 โซน ได้แก่ โซนแรก คือ โซน ?สีลังบูลเลอวาร์ด? ซึ่งเป็นบริเวณอาคารด้านหน้า ติดถนนป่าตองสาย 2 เชื่อมต่อกับโรงแรม ตกแต่งในบรรยากาศแบบ Tropical Resort ประกอบด้วย ร้านค้าต่างๆ อาทิ ร้านอาหารนานาชาติ สปอร์ตคอมเพล็กซ์ ร้านแฟชั่น บูติกชั้นนำ และศูนย์กลางสินค้าไทย
โซนที่ 2 คือโซน ?เดอะ พอร์ท? เป็นพื้นที่เอาต์ดอร์กลางศูนย์การค้า ที่ร่มรื่นด้วยต้นไม้และทะเลสาบขนาดใหญ่ ที่มีสำเภาจีนโบราณขนาดใหญ่จอดอยู่กลางทะเลสาบขนาบด้วยตัวอาคาร ภายในทะเลสาบมีการติดตั้งระบบแสงสีเสียง สำหรับการจัดกิจกรรมหลายหลายรูปแบบ เช่น แคตวอล์ก สำหรับเดินแฟชั่นโชว์ ที่ซ่อนอยู่ใต้น้ำในช่วงปกติ และจะลอยขึ้นมาบนผิวน้ำเมื่อต้องการใช้ นอกจากนั้น ยังเป็นสถานที่สำหรับโชว์น้ำพุดนตรี ประกอบแสง สี เสียง อีกด้วย โดยน้ำพุดนตรีจะจัดโชว์ทุกคืน จุดนี้เหมาะสำหรับเป็นจุดนัดพบและพักผ่อนได้เป็นอย่างดี
โซนที่ 3 คือ โซน ?ชิโน ภูเก็ต? โซนนี้จะโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมจำลองเรือนแถวเก่าแก่ของภูเก็ต ผสมผสานด้วยมนต์เสน่ห์แห่งวัฒนธรรมท้องถิ่น ภายในโซนนี้ จะประกอบไปด้วย ร้านอาหารที่ตกแต่งแปลกใหม่ อาหารนานาชาติ และเป็นแหล่งรวมความบันเทิงทุกช่วงเวลา
โซนสุดท้าย คือ โซน ?ภูเก็ตสแควร์? เป็นโซนที่อยู่ติดถนนสาย 3 ซึ่งเป็นถนนที่ตัดขึ้นมาใหม่เพื่อให้การเดินทางมายังศูนย์การค้าจังซีลอน มีความสะดวกมากขึ้น โซนนี้จะเป็นโซนที่เชื่อมต่อระหว่างโซนต่างๆ รวมทั้งโรงแรม โดยโซนนี้จะประกอบไปด้วยที่ตั้งของห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ห้างไฮเปอร์มาร์เก็ต คาร์ฟูร์ โรงภาพยนตร์ เอสเอฟเอ็กซ์ 5 โรง ล้านโบว์ลิง และสินค้าหลากหลาย
นายประวิช กล่าวต่อไปว่า ศูนย์การค้าจังซีลอน จะเป็นศูนย์การค้าที่รวมไปด้วยสินค้าแบรนด์เนมจำนวนมาก และมีร้านอาหารที่ไม่เคยเปิดที่ใดในประเทศไทยมาเลยหลายร้าน เช่น ร้านอินโดจีน จากประเทศสิงคโปร์ ที่ใช้อาคารถึง 3 ชั้นในการประกอบการ และชั้นบนสุดของอาคารเป็นสระว่ายน้ำ
นอกจากนั้น ยังมีพื้นที่โปรโมชันสำหรับจัดกิจกรรมอื่นๆ ทั้งที่เป็นกิจกรรมของผู้เช่าพื้นที่ และกิจกรรมของจังหวัดอีก 5 ลานโปรโมชัน จำนวนพื้นที่ประมาณ 5,000 ตารางเมตร ซึ่งมีทั้งลานโปรโมชันในร่มและด้านนอก สามารถจัดกิจกรรมได้ทั้งปี
ขณะเดียวกัน ในศูนย์การค้า ยังมีโรงแรมระดับ 5 ดาวอีก 1 โรงแรม จำนวน 400 ห้อง ซึ่งขณะนี้การก่อสร้างใกล้เสร็จแล้วเช่นกัน และมีธนาคารเกือบทุกธนาคารที่เข้าไปเปิดสาขา
นายประวิช ยังได้กล่าวต่อไปถึงการทำประชาสัมพันธ์ ว่า ในเบื้องต้นทางจังซีลอนใช้งบประมาณ 100 ล้านบาท ในการทำประชาสัมพันธ์ และส่งเสริมการตลาด ซึ่งเชื่อว่าหลังจากเปิดบริการจะมีผู้เข้ามาใช้บริการไม่ต่ำกว่าวันละ 45,000 คน โดยเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ 55% ส่วนที่เหลือเป็นคนในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง คาดว่า โครงการจังซีลอนจะใช้ระยะเวลาในการคืนทุนประมาณ 5 ปี
สำหรับศูนย์การค้าจังซีลอน เปิดตัวครั้งแรกที่จังหวัดภูเก็ตเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2547 โดยการลงทุนในนามของบริษัท ภูเก็ต สแควร์ จำกัด ที่เป็นการร่วมลงทุนระหว่างนักลงทุนในภูเก็ตกับนักลงทุนจากส่วนกลาง
ทุนท้องถิ่นเป็นการลงทุน โดย นายธนิต รัตนกำชัย และนายวัฒนันต์ เซี่ยงเห็น กับทุนส่วนกลาง นางสาวรีน่า อุดมคุณธรรม แต่เมื่อโครงการก่อสร้างมาได้สักระยะหนึ่ง กลับมีปัญหาการฟ้องร้อง ระหว่างผู้ถือหุ้นในท้องถิ่นภูเก็ตกับทุนส่วนกลาง จนสามารถไกล่เกลี่ยกันได้ที่ศาลจังหวัดภูเก็ต
ทั้ง 2 ฝ่ายได้มีทำสัญญาประนีประนอมยอมความ 26 มกราคม 2549 ที่ผ่านมา โดยทางนายมานิต อุดมคุณธรรม ได้ยินยอมที่จะขายหุ้นที่ถืออยู่ 53% ให้กับทาง นายธนิต รัตนกำชัย ซึ่งเป็นกลุ่มทุนท้องถิ่นในจังหวัดภูเก็ต หลังจากนั้น ทางทุนภูเก็ตจึงได้หาผู้ร่วมลงทุนคนใหม่ โดยจะเปิดให้บริการอย่างแน่นอนในวันที่ 1 ธันวาคม 2549
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์