แม่ทัพภาค 4 มั่นใจมาตรการรักษาความปลอดภัยของภูเก็ต ขณะที่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวขอให้ทหารเพิ่มความรู้และกำลังเสริมมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยในพื้นที่
พล.ท.องค์กร ทองประสม แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวภายหลังร่วมประชุมกับหน่วยงานราชการ สมาคม และชมรมที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อรับทราบมาตรการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ท่องเที่ยว และผลกระทบเกี่ยวกับการท่องเที่ยว รวมทั้งร่วมหารือแนวทางในการแก้ปัญหา ซึ่งจัดให้มีการประชุมที่กองบัญชาการกองเรือภาคที่ 3 กองเรือยุทธการ ว่า ในการประชุมภาคเช้าที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการประชุมร่วมกับทางหัวหน้าส่วนราชการและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถือว่าแผนการดูแลรักษาความปลอดภัยในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตทำได้ดี เพราะทางจังหวัดภูเก็ตให้ความสำคัญในเรื่องของการดูแลรักษาความปลอดภัย ซึ่งมีการวางมาตรการในการดูแลหลายๆ เรื่อง รวมทั้งการวางกำลังเจ้าหน้าที่ตามจุดเสี่ยงต่างๆ
นอกจากนั้น ทางผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตเอง ก็ได้ชี้แจงถึงแผนการรักษาความปลอดภัยในส่วนของตำรวจที่มีการดำเนินการอย่างเข้มงวด ทั้งเรื่องของกำลังพลและเรื่องของอุปกรณ์ ซึ่งในส่วนของจังหวัดภูเก็ตขณะนี้มีเครื่องมือสำหรับการเก็บกู้วัตถุระเบิดที่ทันสมัย
พล.ท.องค์กร กล่าวต่อว่า เพื่อให้มาตรการการดูแลรักษาความปลอดภัยของจังหวัดภูเก็ตมีความเข้มข้นขึ้นทางกองทัพภาคที่ 4 ได้เพิ่มความเข้มโดยการให้ความรู้และถ่ายทอดประสบการณ์ที่ได้รับมาจากการเข้าไปทำงานในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ให้กับทางจังหวัดภูเก็ต เพื่อนำไปใช้ในการดูแลรักษาความปลอดภัย และในการประสานความร่วมมือกับสื่อมวลชนในพื้นที่และมวลชนต่างๆ เพราะการที่จะทำให้ภาพต่างๆที่เกิดขึ้นในพื้นที่ไม่ร้ายแรง รวมทั้งขอบเขตในการทำงานของสื่อด้วย นอกจากนั้น จะต้องมีการจัดตั้งศูนย์กลางในการสั่งการขึ้นมาเพื่อใช้เป็นศูนย์กลางในการทำงาน
พล.ท.องค์กร กล่าวถึงการประชุมในภาคบ่าย ซึ่งเป็นการประชุมร่วมกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งมีผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 20 กว่าคน ว่า ในการประชุมวันนี้ทางผู้ประกอบการได้ขอความร่วมมือจากทหารในการเข้ามาช่วยเสริมมาตรการการรักษาความปลอดภัย และดูแลให้ความรู้เพิ่มเติมในการรักษาความปลอดภัย ซึ่งทางกองทัพเรือและกองทัพบกก็พร้อมที่จะเข้ามาดำเนินการ และจัดทำเป็นแผนขึ้นมาเพื่อช่วยกันดูแลไม่ให้เกิดปัญหา เมื่อไม่มีปัญหาเกิดขึ้นภาวะเศรษฐกิจของจังหวัดภูเก็ตก็จะดีขึ้น และสามารถจัดเก็บภาษีได้มาขึ้นไปด้วยซึ่งจะทำให้เรามีงบประมาณลงมาดูแลภาคต่างก็ดีขึ้นด้วย
ส่วนการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ในการดูแลรักษาความปลอดภัยนั้น ตอนนี้คิดว่าตามขีดความสามารถของฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจยังสามารถดูแลได้อยู่ เพียงแต่ขอเพิ่มกำลังในการดูแลที่สนามบินและด่านตรวจท่าฉัตรไชยเท่านั้น เพื่อให้เกิดความมั่นใจกับประชาชนในพื้นที่
พล.ท.องค์กร กล่าวถึงข้อมูลทางด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตนั้น ทางผู้ประกอบการชี้แจงว่า ในช่วงแรกมีการแจ้งยกเลิกการจองห้องพัก แต่เมื่อผ่านไปได้ระยะหนึ่งการจองห้องพักต่างๆ ก็เข้าสู่ภาวะปกติ เพราะสถานการณ์ที่เกิดขึ้นไม่รุนแรง หลายๆ ประเทศก็ยกเลิกการเตือนไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าประเทศไทยแล้ว และขณะนี้บรรยากาศการท่องเที่ยวเริ่มดีและอยู่ในเกณฑ์ที่ดี
นอกจากนั้น ทางผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเองก็พอใจที่ทหารออกมาทำการปฏิรูป เพราะทำให้ปัญหาความแตกแยกที่เกิดขึ้นหายไป ถ้าหากประชาชนยังคงมีความแตกแยกและแบ่งเป็นหลายๆ ฝ่ายภาพที่ต่างประเทศมองนั้นเป็นภาพของความไม่ปลอดภัยทำให้นักท่องเที่ยวตัดสินใจไม่เดินทางเข้ามา แต่เมื่อภาพความแตกแยกหายไปการตัดสินใจเดินทางเข้ามาก็ง่ายขึ้น
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์