แม่ทัพภาค 4 เรียกฝ่ายปกครอง ตำรวจจังหวัดภูเก็ตแจงแผนป้องกันการก่อการร้าย เชื่อ ศักยภาพมีแต่ขาดแคลนบุคลากรทหารพร้อมส่งกำลังเข้าช่วยแต่จะต้องคำนึงถึงบรรยากาศของการท่องเที่ยว
พล.ท.องค์กร ทองประสม แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวก่อนประชุมร่วมกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ทั้งฝ่ายปกครอง และตำรวจ ทหารเรือ ประกอบด้วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรับทราบและร่วมพิจารณาแผนป้องกันการก่อการร้ายในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต หลังจากมีการปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งจัดให้มีการประชุมที่ห้องประชุมกองเรือภาคที่ 3 กองเรือยุทธการ บ้านแหลมพันวา ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต
พล.ท.องค์กร กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการติดตามการปฏิบัติงานตามที่ได้รับมอบหมายจากคณะปฏิรูปฯ ให้มีหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ต่างๆ จึงได้ลงมาติดตามรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะพื้นที่ที่เป็นเมืองท่องเที่ยว เช่น ภูเก็ต หาดใหญ่ พังงา กระบี่ ซึ่งที่ผ่านมาได้ออกคำสั่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 14 จังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ จัดทำแผนรักษาความปลอดภัยเสนอมายังกองทัพภาคที่ 4 เพื่อให้ทางกองทัพรับทราบว่าทางฝ่ายปกครอง และตำรวจมีแผนในการดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างไร และมีปัญหาอะไรบ้างที่จะให้ทหารเข้าไปช่วยเหลือ
สำหรับการมาติดตามในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตครั้งนี้ เป็นเพียงการมารับฟังแผนในการป้องกันรักษาความปลอดภัยของจังหวัดภูเก็ต ว่า ทางจังหวัดภูเก็ตมีการวางแผนในการรักษาความปลอดภัยอย่างไรบ้าง และมีอะไรที่จะให้ทางกองทัพภาคที่ 4 เข้ามาช่วยดูแลแก้ไขปัญหาทางด้านใดบ้าง ซึ่งในการส่งทหารเข้ามาดูแลในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตนั้น จะต้องคำนึงถึงภาพลักษณ์ทางด้านการท่องเที่ยวด้วยเพราะภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญ
โดยปกติทหารจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการรักษาความปลอดภัยในเมืองท่องเที่ยว เพราะเป็นพื้นที่ที่มีความอ่อนไหวมีอะไรเกิดขึ้นก็ส่งผลกระทบได้ง่ายโดยเฉพาะผลกระทบที่เกิดขึ้นกับทางด้านเศรษฐกิจของคนในพื้นที่ เพราะฉะนั้นการจะส่งทหารเข้ามาดูแลจะต้องระมัดระวังในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องของบรรยากาศทางด้านการท่องเที่ยว วัฒนธรรม ประเพณีจะไม่ให้มีการทำลายเด็ดขาด
พล.ท.องค์กร กล่าวต่อว่า สำหรับศักยภาพการดูแลรักษาความปลอดภัยของจังหวัดภูเก็ต ที่มีอยู่นั้นคิดว่ามีศักยภาพมากพอสมควรแต่ที่เป็นปัญหาในขณะนี้ คือ เรื่องของการขาดแคลนเจ้าหน้าที่ที่จะมาปฏิบัติงานที่ยังขาดอยู่อีกจำนวนมาก ซึ่งเรื่องนี้ทางทหารก็จะส่งเจ้าหน้าที่มาช่วยดูแลรักษาความปลอดภัยส่วนหนึ่ง โดยมีการส่งกำลังจากกองทัพบกและทหารเรือเข้ามารักษาความปลอดภัยในสนามบินแล้ว
ส่วนกำลังในพื้นที่อื่นๆ ที่จะให้เข้ามาเสริมนั้นก็ต้องถามทางจังหวัดว่าจะให้เข้ามาเสริมในจุดใดบางซึ่งทางทหารพร้อมที่จะสนับสนุน
พล.ท.องค์กร กล่าวถึงการป้องกันการก่อการร้ายในพื้นที่เมืองท่องเที่ยว หลังจากมีกระแสข่าวออกมาอย่างต่อเนื่องว่า กระแสข่าวการก่อการร้ายในเมืองท่องเที่ยวนั้นออกมาเป็นระลอกๆ เจ้าหน้าที่ที่มีอยู่ก็ได้เตรียมความพร้อมในการดูแลอยู่แล้ว แต่ก็ยังมีปัญหาในเรื่องของการขาดแคลนบุคคลากร จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องขอความร่วมมือจากประชาชนในการดูแลรักษาความปลอดภัย
รวมทั้งเจ้าของกิจการต่างๆ ช่วยกันเป็นหูเป็นตาในการรักษาความปลอดภัย ซึ่งในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่นั้น หลังจากเกิดเหตุระเบิดทางทหารจะเข้าไปดูแลพื้นที่และจะมีการติดตั้งทีวีวงจรปิดให้มากขึ้นเพื่อป้องกันการก่อการร้าย
ส่วนเรื่องของการข่าวที่มองว่ายังอ่อนอยู่นั้นก็จะถามทางจังหวัดแต่ละจังหวัด ว่า ต้องการให้ทหารเข้ามาช่วยเหลืออย่างไรบ้าง และจะมีการหารือเรื่องนี้กันอีกครั้งในการประชุม
ส่วนการออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านการปฏิรูปการปกครองฯนั้น พล.ท.องค์กร กล่าวว่า เรื่องนี้จากการติดตามทางด้านการข่าว และมีการตรวจสอบข่าวความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง พบว่าประชาชนในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการปฏิรูปการปกครองฯ และต้องการที่จะให้มีการเลือกตั้งใหม่เกิดขึ้น และไม่มีการออกมาเคลื่อนไหวของกลุ่มคัดค้านแต่อย่างใด
ส่วนเรื่องของวิทยุชุมชนในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้นั้น ทหารจะยังไม่เข้าไปเกี่ยวข้องปล่อยให้เป็นไปตามปกติก่อน เพราะจากการตรวจสอบพบว่าผู้จัดรายการวิทยุชุมชนส่วนใหญ่ยังทำตามหน้าที่ตัวเอง และยังไม่มีการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นเหมือนกับพื้นที่อื่นที่มีการสั่งปิด
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์