กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม พัฒนาศักยภาพบุคลากรองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น 14 จังหวัดภาคใต้ ในด้านการจัดการขยะมูลฝอย เพื่อลดการเพิ่มประมาณขยะตามชุมชนและเมืองใหญ่
วันนี้ (18 ก.ย.) กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม จัดฝึกอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากรขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม (ภาคใต้) ประจำปีงบประมาณ 2549 ในหลักสูตรที่ 2 รุ่น 1 เรื่อง การจัดการขยะมูลฝอย และหลักสูตร วิทยากรด้านสิ่งแวดล้อม โดยมี นายประดิษฐ์ บุญตันตราภิวัฒน์ รองอธิบดีกรมส่ง เสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม เป็นประธานเปิดการสัมมนา ที่โรงแรมเมโทรโพลภูเก็ต ระหว่างวันที่ 18-21 กันยายน 2549 มีบุคลากรจากส่วนสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใน 14 จังหวัดภาคใต้เข้าร่วม กว่า 100 คน
นายจุมพล ศิริสวัสดิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 14 ได้บรรยายเรื่อง สถานการณ์และวิกฤตการณ์ปัญหาขยะในปัจจุบัน โดยกล่าวว่า ข้อมูลปริมาณขยะในเขตเทศบาลและชุมชนต่างๆ ใน 14 จังหวัดภาคใต้ ปี 2547 มีขยะเกิดขึ้นปริมาณ 2,060 ตันต่อวัน ซึ่งมีอัตราการเกิดขยะ 1.03% โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ จังหวัดสงขลา ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี โดยมีสถานที่กำจัดขยะแบบเตาเผา 2 แห่ง คือ ที่จังหวัดภูเก็ต รองรับได้ 250 ตันต่อวัน และเกาะสมุย 75 ตันต่อวันเท่านั้น ส่วนที่เหลือมีการฝังกลบและกำจัดแบบอื่น โดยขยะมูลฝอยที่เกิดขึ้น 100% สามารถนำไปรีไซเคิลได้ 30% เป็นขยะอินทรีย์ 60% สามารถนำเข้าเตาเผาได้ 36% และเป็นเศษเหลือทิ้ง 28% ส่วนประเภทอื่นอีก 3% นำไปแปรเป็นพลังงานทด
แทนเช่นไฟฟ้าได้ร้อยละ 36
นอกจากนี้ พบว่า ขยะตามชุมชนต่างๆ เกิดขึ้นร้อยละ 64 มีการจัดการที่ไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการ ส่งผลให้มีขยะรีไซเคิล และขยะอื่นๆ ถูกนำไปกำจัดอย่างไม่ถูกวิธี ทำให้สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายและการทำงานของบุคลากร
นายจุมพล กล่าวว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในพื้นที่มีชุมชนหนาแน่นจะมีบทบาทมากในการจัดการและควบคุมการเพิ่มของปริมาณขยะ โดยส่งเสริมให้ทุกครัวเรือนคัดแยกขยะรีไซเคิล และมีระบบรองรับขยะที่ผ่านการคัดแยก ส่งเสริมการมีส่วนร่วมคัดแยกขยะ เช่น จัดโครงการธนาคารขยะ และสร้างระบบการแปรขยะเศษพลาสติก เป็นพลังงานไฟฟ้า ซึ่งแนวทางการจัดการขยะและระบบที่มารองรับจะช่วยชะลอการเพิ่มขึ้นของขยะในพื้นที่ได้
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์