ภูเก็ตจัดประชุมคัดเลือกคณะกรรมการสภาเด็กและเยาวชน เนื่องในวันเยาวชนแห่งชาติ เพื่อทำหน้าที่เป็นตัวแทนของเด็กและเยาวชน ในการประสานกับกลุ่มต่างๆ ในจังหวัด
วันนี้ (14 ก.ย.) สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดภูเก็ต จัดประชุมเชิงปฏิบัติการแกนนำเครือข่าย เพื่อการพัฒนาเด็กและเยาวชนจังหวัดภูเก็ต เนื่องในวันเยาวชนแห่งชาติ จังหวัดภูเก็ต ประจำปี 2549 โดยมี นางสาวพรรณี สิทธิการ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดภูเก็ต ให้การตอนรับคณะวิทยากรจากฐานทัพเรือพังงา เด็กและเยาวชนแกนนำ ณ โรงแรมภูเก็ตเมอร์ลิน จังหวัดภูเก็ต
นางสาวพรรณี สิทธิการ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า เนื่องจากคณะกรรมการส่งเสริมและประสานงานเยาวชนแห่งชาติ (กยช.) ได้มีมติเห็นชอบให้มีการจัดตั้งสภาเด็กและเยาวชนภายใต้หลักการ ?เด็กนำ ผู้ใหญ่หนุน? และผลักดันให้หน่วยงานต่างๆ ร่วมกันจัดตั้งสภาเด็กและเยาวชน ให้ครบทุกจังหวัดภูเก็ต รวมทั้งสนับสนุนให้เกิดสภาเด็กและเยาวชนแห่งชาติในโอกาสต่อไป
ในการนี้ กยช.ได้มอบหมายให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยสำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส คนพิการ และผู้สูงอายุ เป็นผู้รับผิดชอบในโครงการ และให้สำนักงานพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเป็นหน่วยประสานในระดับภูมิภาค เพื่อให้มีองค์กรกลางของเด็กและเยาวชนในระดับจังหวัด ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของเด็กและเยาวชน ประสานกลุ่มต่างๆ ภายในจังหวัด โดยได้ดำเนินการในลักษณะพื้นที่นำร่องในปี 2548 จำนวน 4 จังหวัด คือ เชียงราย สตูล ปราจีนบุรี และสุรินทร์ และมีเป้าหมายจะขยายให้ครบ 76 จังหวัดในปี 2550
การประชุมในครั้งนี้ก็เพื่อคัดเลือกประธานสภา รองประธานสภา และคณะกรรมการ ที่ต้องปฏิบัติภารกิจต่อไปในปีงบประมาณ 2550 สภาเด็กและเยาวชนเป็นองค์กรเครือข่ายเชื่อมโยงกลุ่มเด็กและเยาวชน ที่มีการดำเนินงานในด้านต่างๆ เข้าด้วยกันอย่างเป็นระบบ เพื่อแสวงหาแนวทางในการส่งเสริมและพัฒนา เด็กและเยาวชนการเชื่อมโยงนี้จะอยู่ในรูปของการจัดองค์กร ที่มีโครงสร้างของความสัมพันธ์กันอย่างชัดเจน
ในส่วนของความสำคัญของการจัดตั้งสภาเด็กและเยาวชนจังหวัด เพื่อเป็นการเฝ้าระวัง ป้องกัน และแก้ไขปัญหาของเด็กและเยาวชน โดยมีการประสานเชื่อมโยงองค์กรภาคีต่างๆ
อย่างไรก็ตาม สภาเด็กและเยาวชนจังหวัด มีหน้าที่เป็นศูนย์กลางประสานงาน เพื่อดำเนินกิจกรรมการพัฒนาเด็กและเยาวชนในพื้นที่ และให้ความร่วมมือในการดำเนินงานของรัฐและองค์กรเอกชน รวมทั้งเพื่อเสนอข้อคิดเห็นในการจัดกิจกรรม และกำหนดนโยบาย แผนงานในการจัดกิจกรรม เพื่อเด็กและเยาวชน จะได้มีการพัฒนาความรู้ความสามารถเพิ่มขึ้น ได้เพิ่มประสบการณ์ใหม่ร่วมกัน และได้รับโอกาส ในการทำงานร่วมกับผู้ใหญ่ ในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาท้องถิ่น
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์