ดีเอสไอสอบปากคำพยานคดีออกเอกสารสิทธิที่ดินมิชอบในเกาะยาวแล้วกว่า 30 ราย เดินหน้าสอบต่อ ขณะที่แหล่งข่าวจากสำนักงานที่ดินจังหวัดพังงา เผย ที่ดิน 52 แปลง ออกเอกสารสิทธิไม่ชอบ น.ส.3 บวม คนเซ็นออกเอกสารถูกออกจากราชการแล้ว
สำหรับความคืบหน้าการลงพื้นที่สอบปากคำพยานการออกเอกสารสิทธิที่ดินในพื้นที่อำเภอเกาะยาว จังหวัดพังงา ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ?ดีเอสไอ? หลังมีการแจ้งความร้องทุกข์และมีการร้องเรียนจากชาวบ้าน ว่า ที่ดิน 52 แปลงเนื้อที่กว่า 1,000 ไร่ บนเกาะยาวอาจจะออกเอกสารสิทธิที่ดินโดยมิชอบนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่จากดีเอสไอได้แบ่งชุดการทำงานออกสอบสวนดำเนินคดี 9 ชุดด้วยกัน เพื่อร่วมกันสอบปากคำพยานบุคคลที่มีอยู่ประมาณ 70 คน
โดยสอบปากคำไปแล้วในขณะนี้จำนวนประมาณ 30 กว่าคน ซึ่งจะต้องเร่งดำเนินการสอบปากคำต่อไป สำหรับการสอบปากคำนั้นได้เชิญพยานที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำ ณ ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลพรุใน อ.เกาะยาว จ.พังงา
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จากกรมสอบสวนคดีพิเศษได้กล่าวถึงการสอบปากคำในครั้งนี้ ว่า เป็นไปด้วยความลำบาก เนื่องจากพยานมีจำนวนมาก และพยานบางปากเป็นทั้งอดีตเจ้าของที่ดิน เป็นผู้เซ็นที่ดินข้างเคียงและเป็นทั้งผู้ชี้แนวเขต ฉะนั้น พยานบางปากต้องให้พนักงานสอบสวน สอบตั้ง 3 ชุด
แต่อย่างไรก็ตาม การลงพื้นที่ในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร สภ.อ.เกาะยาว นายก อบต.พรุใน และเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ คาดว่า หากได้รับความร่วมมืออย่างนี้ทุกวัน คาดว่า จะสามารถสอบพยานเกือบทั้งหมดที่อยู่บนเกาะยาวได้เสร็จก่อนเวลากำหนด และอาจจะเหลือพยานที่เดินทางไปประกอบอาชีพที่อื่น อย่างเช่น จ.ภูเก็ต จ.กระบี่ หรือที่อื่นๆ ซึ่งต้องใช้เวลาในการติดตาม
ขณะแหล่งข่าวจากสำนักงานที่ดินจังหวัดพังงา กล่าวว่า สำหรับที่ดิน 52 แปลงที่ทางดีเอสไอลงมาสอบปากคำพยานนั้น เชื่อว่า เป็นการออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ และมีการออกเอกสารสิทธิที่ดินมาตั้งแต่ปี 2537 ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ที่ดินที่เกี่ยวข้องกับการออกเอกสารสิทธิที่ดินดังกล่าวนั้นถูกออกจากราชการไปแล้ว และตอนนี้ไม่ทราบว่าหลบหนีไปอยู่ที่ไหน ส่วนปัญหาการออกเอกสารสิทธิที่ดินดังกล่าวเป็นการออกเอกสารสิทธิในลักษณะของ น.ส.3 ก.บวม เนื่องจากเนื้อที่ที่ขอออกเอกสารสิทธินั้น มีจำนวนมากกว่าเนื้อที่ของ น.ส.3 ที่มีอยู่เดิม
ส่วนเรื่องของการการเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดินบนเกาะยาวนั้น ไม่ได้เกี่ยวกับที่ดินของนายทุนใน 52 แปลงนี้ แต่เป็นที่ดินรายบุคคลที่มีการออกเอกสารสิทธิโดยไม่ถูกต้อง ซึ่งตั้งแต่ปี 2545 จนถึงปัจจุบันมีการเพิกถอนเอกสารสิทธิไปแล้วประมาณ 4-5 แปลง
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์