ภูเก็ต, กฟภ.เร่งติดตั้งไฟฟ้าแสงอาทิตย์เสร็จ 2 แสนกว่าครัวเรือน ก.ย.ปีนี้ ( ข่าวภูเก็ต )

การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเร่งติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ในพื้นที่ที่สายไฟฟ้าพาดไม่ถึงทั่วประเทศกว่า 200,000 ครัวเรือนให้เสร็จภายในสิ้น ก.ย.นี้ ขณะที่ภูเก็ตติดตั้งแล้วเสร็จ 351 ครัวเรือน พร้อมวางแผนวางเคเบิลใต้น้ำไปเกาะมะพร้าว และเกาะนาคา อีกจุดละ 30-40 ล้านบาทหลังปี 2550

เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (4 ก.ย.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จัดอบรม ?โครงการติดตั้งระบบผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์? ให้กับผู้แทนจากองค์กรปกครองส่วนตำบล และเทศบาลในพื้นที่ จ.ภูเก็ต เพื่อเป็นการให้ความรู้กับเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการดูแลบำรุงรักษาระบบการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งหมดในพื้นที่ภูเก็ต ภายหลังจากที่การไฟฟ้าผ่ายผลิตได้ทำการติดตั้ง โดยมีนายนิวิทย์ อรุณรัตน์ ปลัดจังหวัดภูเก็ต เป็นประธาน ณ โรงแรมถาวรแกรนด์ พลาซ่า จ.ภูเก็ต

นายประวัติ สิริภัทรโรดม รองผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กล่าวว่า การติดตั้งระบบผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์นั้น การไฟฟ้าฯ ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลในการแก้ปัญหาความยากจน หรือที่เรียกว่า โครงการ ?Solar Home System? เพื่อให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ที่ระบบไฟฟ้าพาดเสาเข้าไปไม่ถึง ซึ่งอาจจะอยู่ในพื้นที่ป่าไม้ ป่าชายเลน ป่าสงวนแห่งชาติ รวมทั้งตามเกาะแก่งต่างๆ ได้มีไฟฟ้าใช้ในชีวิตประจำวันด้วยระบบผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ที่ 220 วัตต์ สามารถใช้กับหลอดไฟฟ้าได้ 2 หลอดและปลั๊กสำหรับดูโทรทัศน์เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ข้อมูลข่าวสาร

โดยทั่วทั้งประเทศนั้นมีเป้าหมายที่จะดำเนินการทั้งสิ้น 203,000 ครัวเรือน ขณะนี้ดำเนินการแล้วเสร็จไป 180,000 ครัวเรือน เหลืออีก 20,000 กว่าครัวเรือนที่จะดำเนินการให้เสร็จภายในสิ้นเดือนกันยายน 2549 นี้

สำหรับ จ.ภูเก็ตนั้นได้มีการติดตั้งแล้วเสร็จ 100% 351 ครัวเรือน แต่อย่างไรก็ตามก็ยังมีครัวเรือนที่ระบบไฟฟ้าพาดสายไม่สามารถเข้าไปถึงได้ และเป็นบ้านที่ไม่มีเลขที่บ้านทั้งแบบถาวรและชั่วคราวประมาณ 100 ครัวเรือนที่ไม่สามารถดำเนินการให้ได้

นายประวัติ กล่าวอีกว่า นอกจากการติดตั้งระบบไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์แล้วในพื้นที่ภูเก็ตที่เป็นเกาะแก่ง ทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมีโครงการที่จะวางเคเบิลใต้น้ำไปยังเกาะมะพร้าว และเกาะนาคา ซึ่งตามแผนงานที่วางไว้จะดำเนินการหลังปี 2550 ไปแล้ว และต้องใช้งบประมาณ 30-40 ล้านบาทต่อเกาะ ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ที่อาศัยอยู่ที่เกาะทั้งสองแห่งได้มีระบบไฟฟ้าใช้อย่างทั่วถึง

ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์