ซีอีโอภูเก็ตลงนามประกาศควบคุมธุรกิจดำน้ำในภูเก็ตแล้ว บริษัทดำน้ำกว่า 100 แห่ง ต้องรายงานตัวภายใน 30 วัน ฝ่าฝืนมีความผิดตามกฎหมายดูแลสิ่งแวดล้อมใต้ท้องทะเล
นายอุดมศักดิ์ อัศวรางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยถึงความคืบหน้าการการออกประกาศจังหวัดภูเก็ต เพื่อควบคุมธุรกิจดำน้ำในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ว่า ภายหลังจากที่จังหวัดภูเก็ตมีนโยบายที่จะเข้าไปควบคุมดูแลธุรกิจดำน้ำในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตให้สามารถตรวจสอบได้ และได้เชิญผู้ประกอบการดำน้ำมารับฟังความคิดเห็นถึงร่างประกาศดังกล่าว ปรากฏว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ประกอบการดำน้ำทั้งที่เป็นคนไทยและชาวต่างชาติ
ดังนั้น เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ที่ผ่านมา ตนได้ลงนามในประกาศดังกล่าว เพื่อให้ผู้ประกอบการดำน้ำมารายงานต่อกับทางจังหวัดภูเก็ตภายใน 30 วันหลังวันประกาศ โดยได้มอบหมายให้ทางฝ่ายปกครองเป็นผู้ดำเนินการ และมีจุดบริการการรราตัวแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว ที่ห้องปกครอง ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต และที่อำเภอต่างๆ เพื่อให้ผู้ประกอบการมีความสะดวกในการรายงานตัวมากขึ้น
?การออกประกาศควบคุมดังกล่าว ทางจังหวัดได้กำหนดแนวทางในการประกอบการธุรกิจดำน้ำที่หน่วยงานราชการสามารถตรวจสอบได้ แต่จะไม่เป็นการเข้าไปเป็นอุปสรรคต่อการประกอบการ? นายอุดมศักดิ์ กล่าวและว่า
หลักสำคัญของประกาศควบคุมธุรกิจดำน้ำฉบับนี้ ต้องการที่จะให้ผู้ประกอบการธุรกิจดำน้ำที่มีมากกว่า 100 แห่งในภูเก็ต เข้าสู่ระบบของหน่วยงานราชการ โดยการมารายงานตัว เพื่อแจ้งให้หน่วยงานราชการทราบถึงการประกอบการ ว่า ประกอบการในลักษณะแบบไหน เป็นบริษัทขายทัวร์ดำน้ำเพียงอย่างเดียว หรือมีเรือให้บริการ รวมทั้งนำนักท่องเที่ยวไปให้บริการที่จุดใดบ้าง นักท่องเที่ยวที่ใช้บริการในแต่ละเดือนแต่ละปีมีมากน้อยแค่ไหน รวมทั้งรายละเอียดอื่นๆ ที่กำหนดในประกาศ
เพราะที่ผ่านมา การประกอบการธุรกิจดำน้ำทางหน่วยงานราชการไม่สามารถที่จะตรวจสอบได้เลย เพียงผู้ประกอบการจดทะเบียนนำเที่ยวกับทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยก็สามารถดำเนินการได้แล้ว ซึ่งการออกประกาศของจังหวัดภูเก็ตฉบับนี้ ได้อาศัยอำนาจตามกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมใต้ท้องทะเลที่มีอยู่ทั้งหมด เพราะนอกจากจะเป็นการควบคุมการประกอบการแล้ว ประกาศดังกล่าวยังต้องการที่จะดูแลรักษาสภาพทรัพยากรธรรมชาติใต้ท้องทะเลให้สวยงามแบบยั่งยืนอีกด้วย
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์