ภูเก็ต, ชง ครม.ให้ ?ธนารักษ์พัฒนา? ดูแลโครงการอ่าวภูเก็ตแสนล้าน ( ข่าวภูเก็ต )
เตรียมเสนอ ครม.ให้บริษัท ธนารักษ์พัฒนา จำกัด เป็นเจ้าภาพโครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ตกว่าแสนล้านบาท ที่ปลายแหลมสะพานหินภูเก็ต ขณะที่นักลงทุนยังไม่ถอย พร้อมลงทุนกว่าแสนล้าน ล่าสุด กลุ่ม ?ลากูน่าภูเก็ต? ซึ่งเป็นกลุ่มทุนจากสิงคโปร์ ก็สนใจเข้ามาลงทุนในโครงการด้วย
นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยถึงความคืบหน้า การผลักดันโครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ต ที่บริเวณปลายแหลมสะพานหิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ว่า เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมคณะกรรมการโครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ต ที่กรุงเทพฯ โดยมี นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รักษาการรองนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการโครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ต เป็นประธานในที่ประชุม
ที่ประชุมมีความชัดเจน เรื่องเจ้าภาพที่จะเข้ามาดำเนินการผลักดันโครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ต โดยในเบื้องต้นได้มีการนำเสนอข้อดีข้อเสียขององค์การพัฒนาพื้นที่พิเศษ เพื่อการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน (อพท.) และ บริษัท ธนารักษ์พัฒนา จำกัด ที่จะให้เป็นเจ้าภาพหลักในการดำเนินการโครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ต
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมได้ข้อสรุปว่า จะให้บริษัท ธนารักษ์พัฒนา จำกัด เป็นเจ้าภาพในการดำเนินการโครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ต เพราะมีความเหมาะสมและมีประสบการณ์ ในการดำเนินการโครงการขนาดใหญ่ และโครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ตเป็นเมกะโปรเจกต์ที่ต้องใช้เงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท จากเดิมที่กรมโยธาธิการและผังเมือง ได้ศึกษาไว้เมื่อปี 2533-2534 ที่ต้องใช้เงินลงทุน 63,000 ล้านบาท โดยสภาพัฒน์จะนำเสนอคณะรัฐมนตรีในเร็วๆ นี้ ซึ่งหลังจากที่ ครม.เห็นชอบ ให้บริษัท ธนารักษ์พัฒนา จำกัด เข้ามาเป็นเจ้าภาพในการบริหารจัดการโครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ตแล้ว จะต้องมีการจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดำเนินการโครงการนี้อีก
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้หารือในเรื่องกฎหมายที่ดิน ภายหลังจากที่มีการถมที่ดินเพิ่ม หรือที่ดินที่อยู่ใต้โครงการจะเป็นสิทธิของหน่วยงานใด จะเป็นที่ราชพัสดุ หรือที่ดินสาธารณประโยชน์ ซึ่งในเรื่องนี้ยังไม่มีความชัดเจน จะต้องให้ทางคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย ศึกษาในรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง
สำหรับกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นในโครงการ ที่ประชุมได้ข้อสรุปว่า จะยึดหลักตามที่กรมโยธาธิการและผังเมืองได้ศึกษาไว้เมื่อปี 2533-2534 ที่ผ่านมา ที่จะประกอบด้วยไปด้วย มารีนา โรงแรม ศูนย์ประชุมแสดงสินค้า ชอปปิ้ง เป็นต้น แต่ให้มีการศึกษาในรายละเอียดเพิ่มเติมลึกลงไปอีก
สำหรับการเข้ามาลงทุนของเอกชน จะเป็นการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน ซึ่งเมื่อครม.เห็นชอบให้บริษัท ธนารักษ์พัฒนา เข้ามาบริหารโครงการแล้ว ธนารักษ์ฯจะต้องมีการแต่งตั้งคณะกรรมการโครงการขึ้นมา และมีการตั้งศูนย์เฉพาะกิจ เพื่อดำเนินโครงการที่จังหวัดภูเก็ตด้วย
นายนิรันดร์ กล่าวอีกว่า การลงทุน โครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ต ได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติมาก ซึ่งในขณะนี้ที่ได้มีการติดต่อผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตหลายราย ทั้งนักลงทุนไทยและต่างชาติ เช่น บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเว๊ลอปเมนต์ จำกัด(มหาชน) บริษัท ทุ่งคาฮาเบอร์ จำกัด (มหาชน) นักลงทุนจากญี่ปุ่น แคนาดา และเมื่อเร็วๆ นี้ กลุ่มลากูน่า ภูเก็ต ซึ่งเป็นกลุ่มทุนของสิงคโปร์ ก็สนใจที่จะเข้ามาลงทุนโครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ต และโครงการสปอร์ตคอมเพล็กซ์ของภูเก็ตด้วย ซึ่งตอนนี้มีนักลงทุนสนใจมาก แต่จะต้องรอให้รายละเอียดการเข้ามาลงทุนในโครงการ และขั้นตอนต่างๆ เสร็จก่อน ถึงจะเปิดกว้างให้เอกชนเข้ามาลงทุนได้
?โครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ต รัฐบาลเดินหน้าอย่างแน่นอน เพราะ ครม.ได้เห็นชอบในหลักการตั้งแต่การเดินทางมาประชุม ครม.สัญจร ที่จังหวัดพังงา พร้อมทั้งได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการชุดนี้ ขึ้นมาผลักดันโครงการต่อมาจนถึงทุกวันนี้ และเมื่อ ครม.อนุมัติเห็นชอบให้บริษัท ธนารักษ์พัฒนา เป็นเจ้าภาพโครงการแล้ว ก็จะเดินหน้าโครงการต่อไปได้? นายนิรันดร์ กล่าวและว่า
อย่างไรก็ตาม การให้บริษัท ธนารักษ์พัฒนา จำกัด เข้ามาดำเนินโครงการแล้วท้องถิ่นจะได้อะไรกับโครงการนี้ เป็นคำถามที่เกิดขึ้นเช่นกัน ซึ่งสิ่งที่ท้องถิ่นจะได้รับอย่างแน่นอน คือ ภาษี และผลประโยชน์ทางอ้อมอีกมากมาย
สำหรับโครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ต จะมีการถมทะเลที่บริเวณปลายแหลมสะพานหิน เพื่อพัฒนาเป็นเมืองที่ทันสมัยขึ้นมา 1 เมือง เพื่อให้เป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก ที่พรั่งพร้อมไปด้วยโรงแรม ศูนย์ประชุม มารีนา ฯลฯ ซึ่งที่ผ่านมากรมโยธาธิการและผังเมือง ได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาทำการศึกษาความเป็นไปได้ และออกแบบโครงการเสร็จแล้ว โดยกำหนดพัฒนาเป็นเกาะ 2 เกาะ คือ เกาะ MICE ที่เป็นเกาะด้านการประชุมสัมมนาและแสดงสินค้า กับเกาะ MARINA เป็นเกาะด้านเรือยอชต์ ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนประมาณ 63,000 ล้านบาท
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์