ภูเก็ต, ภูเก็ตเร่งให้ความรู้ผู้ดูแลเด็กป้องกันถูกทารุณกรรม ( ข่าวภูเก็ต )
ภูเก็ตเร่งลดปัญหาทารุณกรรมเด็ก รวมทั้งนำเด็กไปเป็นเครื่องมือ ในการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ ด้วยการจัดอบรมเพิ่มความรู้ผู้ดูแลเด็ก
วันนี้ (22 ส.ค.) สำนักงานพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดภูเก็ต จัดความรู้แก่ผู้ที่ทำหน้าที่คุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 โดยมี นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธาน การอบรมในครั้งนี้มีบุคคลและตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม 170 คน ณ โรงแรมถาวรแกรนด์พลาซ่า จังหวัดภูเก็ต
จากสถานการณ์และปัญหาเด็กไทยบางส่วนถูกทารุณกรรมและตกเป็นเครื่องมือ ในการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบนั้น เพื่อเป็นการป้องกัน และให้การสงเคราะห์และคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน บนพื้นฐานของพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546
นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จากกระแสการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจและสังคมไทยในปัจจุบัน แม้ว่าการพัฒนาจะประสบความสำเร็จ ในระดับหนึ่งก็ตามแต่ปัญหาทางสังคม ความยากจนตลอดจนปัญหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทยในทุกภูมิภาค
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งมีบทบาทภารกิจในการเสริมสร้างสมรรถนะของประเทศ ควบคู่กับการสร้างความอยู่ดีมีสุขของคนไทยทุกคน ทุกสังคมอย่างต่อเนื่องมาตลอด โดยเฉพาะการดำเนินงาน เพื่อการคุ้มครองสิทธิมนุษย์ชนเพื่อให้เกิดผลประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน
จากพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ได้กำหนดขั้นตอน วิธีการปฏิบัติต่อเด็ก และให้การอุปการะเลี้ยงดู อบรมสั่งสอน ควบคู่กับการพัฒนาการที่เหมาะสมตามวัย รวมทั้งการป้องกันไม่ให้เด็กถูกทารุณกรรม ตกเป็นเครื่องมือในการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ รวมทั้งปรับปรุงวิธีการส่งเสริมความร่วมมือ ในการคุ้มครองเด็กในทุกภาคส่วน ทั้งนี้ ก็เพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญและอนุสนธิว่าด้วยสิทธิเด็ก
จากเหตุผลดังกล่าว สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดภูเก็ต จึงได้จัดทำโครงการอบรมให้ความรู้ แนวทางการดำเนินงาน ในการคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับแนวคิด แนวทาง ด้านการส่งเคราะห์และคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก ตลอดจนสร้างความเข้าใจ และความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อการประสานและดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพและคุณภาพยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม การจัดโครงการครั้งนี้ นับเป็นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่ดี เพราะการที่จะแก้ปัญหา หรือพัฒนาการช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นด้านเด็กหรือเยาวชน ที่จะเติบโตเป็นพลังสำคัญของชาติในอนาคตนั้น ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน จึงจะนำไปสู่เป้าหมายความสำเร็จได้ และยังได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความรู้ร่วมกัน เพื่อเสริมสร้างและให้การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์