ภูเก็ต, ตังเกโวยรัฐไม่จริงใจแก้น้ำมันแพง - ขอซื้อน้ำมันมาเลย์ - สิงคโปร์ ( ข่าวภูเก็ต )
เรือประมงบางส่วน ที่ทนแบกต้นทุนเรื่องน้ำมันไม่ไหว หยุดออกเรือจับปลาแล้ว
ผู้ประกอบการเรือประมงฝั่งอันดามัน โวย รัฐไม่จริงใจแก้ปัญหาน้ำมันแพง ต้องทนแบกรับภาระขาดทุนต่อเนื่อง ขณะที่บางรายสุดทนจอดเรืองดจับปลาแล้ว วอนรัฐนำเข้าน้ำจากมาเลย์-สิงคโปร์ ช่วยเรือประมง เชื่อลดต้นทุนได้
นายสมยศ วงศ์บุญกุล นายกสมาคมประมงจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงสถานการณ์ของราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ว่า การปรับตัวของราคาน้ำมันนั้น ได้ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการประมงเป็นอย่างมาก ไม่ใช่เฉพาะในส่วนของจังหวัดภูเก็ตเท่านั้น แต่รวมไปถึงผู้ประกอบการทั้งฝั่งอันดามัน
ในส่วนของผู้ประกอบการชาวประมงในฝั่งอันดามัน แม้จะได้ใช้น้ำมันเขียว แต่ก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการขนส่งให้แก่ ปตท.เพิ่มอีกลิตรละ 1 บาท ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าผู้ประกอบการชาวประมง ในฝั่งทะเลอ่าวไทย หรือภาคตะวันออก
ทำให้ขณะนี้เรือประมงโดยเฉพาะเรือประมงขนาดเล็ก ได้หยุดหาปลาแล้ว เนื่องจากไม่คุ้มกับการลงทุน แต่ในส่วนของเรือประมงพาณิชย์ หรือเรือประมงขนาดใหญ่ ในส่วนของจังหวัดภูเก็ต บางส่วนยังต้องทนแบกรับภาระ และออกจับปลาอยู่เพราะเป็นอาชีพที่จะต้องทำ ถ้าเรือประมงหยุด ลูกเรือก็จะต้องตกงาน เพราะฉะนั้นผู้ประกอบการส่วนใหญ่ในจังหวัดภูเก็ต ยังคงออกทำการประมงอยู่ แม้ว่าที่ผ่านมาหลังจากมีการปรับราคาน้ำมันอย่างต่อเนื่อง ผู้ประกอบการจะขาดทุนประมาณ 50% แต่ก็ไม่สามารถระบุออกมาเป็นจำนวนเงินที่ชัดเจนได้
สำหรับการแก้ไขปัญหาของชาวประมง แม้ว่าผู้ประกอบการจะเรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐ รวมทั้งรัฐบาลเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหา และหาทางช่วยเหลือชาวประมงอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่ได้รับความจริงใจในการแก้ไขปัญหาจากภาครัฐแต่อย่างใด เพราะผู้ประกอบการประมงส่วนใหญ่เป็นคนในภาคใต้ โดยเฉพาะฝั่งทะเลอันดมัน ซึ่งรู้อยู่แล้วว่าไม่มี ส.ส.ที่อยู่ในซีกรัฐบาล และที่สำคัญ รัฐมนตรีที่มาดูแลกระทรวงเกษตรฯ ไม่มีความรู้ในเรื่องของการทำประมง ทำให้ปัญหาของชาวประมงไม่ได้รับการแก้ไข
นายสมยศ กล่าวต่อไปว่า ทุกวันนี้ผู้ประกอบการประมงต้องแบกรับภาระอย่างหนึ่ง ซึ่งภาระหนักสุดในการทำประมง คือ เรื่องของค่าน้ำมัน การออกทำการประมงแต่ละครั้ง ผู้ประกอบการจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นค่าน้ำมันสูงถึง 70% แต่รายได้ที่ได้กลับมาไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับปริมาณปลาที่จับได้ บางครั้งจับปลาได้มากก็ถือว่าพออยู่ได้ แต่บางครั้งจับปลาได้น้อย ก็ต้องแบกรักภาระขาดทุนกันไป
สำหรับสิ่งที่ทางผู้ประกอบการในฝั่งทะเลอันดามัน อยากเรียกร้องจากรัฐบาล คือ เรื่องของการซื้อน้ำมันโดยตรงจากประเทศมาเลเซีย หรือประเทศสิงคโปร์ ผ่านทางผู้ประกอบการที่จำหน่ายน้ำมันเขียวอยู่แล้ว ถ้าหากซื้อน้ำมันจากประเทศดังกล่าวได้ จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบการลงไปได้จำนวนมาก เนื่องจากราคาน้ำมันจะถูกกว่าประเทศไทย และผู้ประกอบการประมงไม่ต้องเสียค่าขนส่งให้ ปตท.จำนวน 1 บาท
อย่างไรก็ตาม ถ้ารัฐบาลจริงใจในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ก็น่าจะเปิดโอกาสให้ซื้อน้ำมันจากประเทศดังกล่าวได้ เพราะจะทำให้เกิดการค้าเสรี และมีการแข่งขันกันลดราคาน้ำมัน เมื่อมีการแข่งขันกันลดน้ำมัน สิ่งที่ตามมาคือ ประชาชนชาวประมงจะได้รับประโยชน์ และการนำเข้าน้ำมันก็จะเป็นไปตามความต้องการของผู้ประกอบการทั้งหมด ซึ่งเรื่องนี้ก็ได้มีการร้องไปแต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับ แต่อย่างใด
นายสมยศ กล่าวต่อไปว่า ถ้าราคาน้ำมันยังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่แน่ใจว่าผู้ประกอบการจะทนแบกรับภาระไปได้อีกนานแค่ไหน อย่างไรก็ตาม คงจะต้องแบกรับภาระต่อไป เพราะหันไปพึ่งภาครัฐก็ไม่ได้
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์