ภูเก็ต, ?ท่องเที่ยวกระบี่? ยันไม่จ่ายค่าเข้าอุทยานฯ - นัดรวมพลยื่นหนังสือ ?ยงยุทธ? ทบทวนอีกครั้ง 11 ส.ค.นี้ ( ข่าวภูเก็ต )
สมาคมท่องเที่ยว กระบี่ นัดรวมตัวไม่จ่ายค่าเข้าอุทยานฯ เตรียมยื่นหนังสือคัดค้านต่อรักษาการ รมว.ทรัพย์ ?ยุทธ ตู้เย็น? อีกครั้ง 11 ส.ค.นี้ ยันหากเกิดการจับกุมพร้อมต่อสู้ทางกฎหมาย
นายอิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ตามที่ทางกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้มีประกาศลงวันที่ 18 พฤษภาคม 2549 เรื่องกำหนดอัตราค่าบริการสำหรับบุคคลที่เข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติ เพื่อเก็บค่าบริการจากบุคคลชาวไทย และชาวต่างประเทศ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2549 นี้ จากเดิมที่เคยเก็บชาวไทย 20 บาท เพิ่มเป็น 40 บาท และชาวต่างประเทศ จากเดิม 200 บาท เพิ่มเป็น 400 บาท ซึ่งจะมีผลกระทบกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวโดยตรง ทั้งจากกระบี่ พังงา และภูเก็ต
นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว กล่าวอีกว่า สำหรับการเรียกเก็บค่าเข้าอุทยานของกรมอุทยานฯได้มีการเรียกเก็บเฉพาะฝั่งอันดามันเท่านั้น ซึ่งเหมือนกับว่า พยายามตอกย้ำให้ธุรกิจท่องเที่ยวของฝั่งอันดามันที่ประสบภัยสึนามิ เมื่อ 1 ปีที่ผ่านมา และเพิ่งจะฟื้นตัวให้ย่ำแย่ลงไปอีก เนื่องจากคงจะไม่มีใครยอมจ่ายค่าเข้าชมอุทยานที่แพงสูงลิ่ว
แต่ในขณะเดียวกัน ทางอุทยานเองก็ไม่ได้มีให้อะไรให้กับนักท่องเที่ยวเลยนอกจากความเป็นธรรมชาติของสถานที่เท่านั้น บางแห่งแม้แต่ห้องน้ำเพื่อเป็นสถานที่ให้นักท่องเที่ยวปลดทุกข์ก็ยังไม่มี
นายอิทธิฤทธิ์ กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 9 ส.ค.2549 ที่ผ่านมา ทางสมาคมพร้อมผู้ประกอบการท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ ประมาณ 20 คน ได้เดินทางไปยังจังหวัดภูเก็ตสมทบกับสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต และพังงา ตลอดทั้งผู้ประกอบการรวม 3 จังหวัด ประมาณพันกว่าคน ที่ได้รวมตัวกันที่บริเวณศูนย์ ททท.ภูเก็ต และได้ยื่นหนังสือการคัดค้านการขึ้นค่าเข้าชมอุทยานผ่านหัวหน้าศูนย์ เพื่อส่งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป ซึ่งจะมีการพิจารณาการเปลี่ยนแปลงราคาค่าเข้าชมอุทยานหรือไม่ตนไม่แน่ใจ แต่หากว่าทางกรมอุทยานฯยังดื้อดึงขึ้นราคา ผู้ประกอบการท่องเที่ยวทั้ง 3 จังหวัดก็จะใช้กฎอารยะขัดขืนไม่ยอมจ่ายเพิ่มเช่นเดียวกันและพร้อมที่จะต่อสู้ทางกฎหมายหากมีการจับกุม
?ที่ผ่านมา ภาคธุรกิจด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดฝั่งอันดามัน ทำรายได้ให้กับประเทศปีละหลายหมื่นล้านบาท และในส่วนของอุทยานเองก็มีรายได้จากการเก็บค่าเข้าชมอุทยานจากนักท่องเที่ยวปีละหลายล้านบาท แต่สิ่งที่เจ้าของพื้นได้รับ ก็คือ ไม่มีการพัฒนา และในบางครั้งงบประมาณที่เก็บจากพื้นที่ขอกลับมาเพื่อพัฒนาก็ได้บ้างไม่ได้บ้าง ซึ่งผมมองว่ามันไม่มีความเป็นธรรม อุทยานเองเอาแต่ได้ และทราบว่าวันที่ 11 สิงหาคมนี้ รักษาการ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายยงยุทธ ติยะไพรัช จะเดินทางมาที่กระบี่ ผมก็เตรียมที่จะยื่นหนังสือคัดค้านด้วยและกระแสเรื่องของการคัดค้านนั้น ทราบว่าไม่เฉพาะแต่จังหวัดทางฝั่งอันดามันเท่านั้น แต่ยังมีจังหวัดทางภาคเหนือเริ่มไม่เอานโยบายดังกล่าวนี้ด้วยแล้ว?
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์