ภูเก็ต, นักเที่ยวแดนโสมโวยแหลก ตม.ภูเก็ตไล่กลับประเทศหลังก่อความวุ่นวาย ( ข่าวภูเก็ต )

?นักท่องเที่ยวแดนโสม? โวยแหลกเจ้าหน้าที่ ตม.ท่าอากาศยานภูเก็ตทำเกินเหตุ ไม่ยอมให้นักท่องเที่ยวเกาหลีเข้าเมืองหลังก่อเหตุวุ่นวาย ซีอีโอภูเก็ตยัวะสั่งทำรายงานเสนอย้ายออกนอกพื้นที่ ขณะที่ ผกก.ยืนยันลูกน้องทำตามกรอบที่กฎหมายกำหนดสกรีนคนก่อนอนุญาตให้เข้าประเทศ

วันนี้ (8 ส.ค.) พ.ต.อ.สุรศักดิ์ อรรถปัณยวณิช ผู้กำกับการด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) สตูล รักษาการผู้กำกับการด่านตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานภูเก็ต พร้อมด้วยนางสุวลัย ปิ่นประดับ ผู้อำนวยการ สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภาคใต้เขต 4 เข้าพบนายอุดมศักดิ์ อัศวรางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อชี้แจงกรณีที่นักท่องเที่ยวชาวเกาหลีร้องเรียนไปยังสถานทูตเกาหลีว่า เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานภูเก็ตทำเกินกว่าเหตุ ไม่ยอมให้นักท่องเที่ยวชาวเกาหลีเข้าประเทศ

โดยปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 01.00 น.คืนวันที่ 11 ก.ค.2549 ที่ผ่านมา เมื่อ ร.ต.อ.ชูชาติ เพชรงาม หัวหน้าชุดตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศภูเก็ต ปฏิเสธที่จะให้นักท่องเที่ยวชาวเกาหลีรายหนึ่งเข้าภูเก็ต เนื่องจากนักท่องเที่ยวรายดังกล่าวแสดงกิริยาไม่สุภาพก่อความวุ่นวายในช่วงที่ลงจากเครื่องบินเพื่อรอตรวจสอบหนังสือเดินทางและลงตราหนังสือเดินทาง ส่งผลให้นักท่องเที่ยวคนดังกล่าวและภรรยาต้องเดินทางกลับเกาหลีทันที

ทำให้นักท่องเที่ยวดังกล่าวเกิดความไม่พอใจ เมื่อเดินทางกลับประเทศเกาหลีแล้วได้ร้องเรียนไปยังสถานทูตเกาหลี ทางสถานทูตเกาหลี จึงได้ร้องเรียนเข้ามายัง ททท.ให้ดำเนินการดังกล่าว เพราะนักท่องเที่ยวเกาหลีอ้างว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติไม่ดีต่อเขา

นายอุมศักดิ์ อัศวรางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การกระทำของเจ้าหน้าที่ ตม.นั้นถือว่าเป็นการกระทำที่รุนแรงเกินไป สำหรับ จ.ภูเก็ต ที่เป็นเมืองท่องเที่ยว ผู้ที่ทำงานในลักษณะแบบนี้ไม่เหมาะที่จะปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญ และ ตม.ก็เป็นด่านแรกที่ต้องเจอกับนักท่องเที่ยวน่าที่จะบริการด้วยความประทับใจ หากปฏิบัติงานในลักษณะดังกล่าวน่าที่จะย้ายไปทำงานตามชายแดนไทย-ลาว ที่มีนักท่องเที่ยวเข้าไปน้อย

ดังนั้น จึงให้ทาง ผกก.ตม.ท่าอากาศยานภูเก็ต ทำหนังสือรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อตนจะได้ส่งเรื่องดังกล่าวไปให้ผู้บังคับบัญชาในระดับสูงพิจารณาโยกย้ายออกจากพื้นที่ เพราะถือว่าทำรุนแรงเกินไปกับกรณีที่เกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าภูเก็ตต้องต้อนรับนักท่องเที่ยวในลักษณะนี้ทั้งหมด นักท่องเที่ยวคุณภาพต่ำแบบนี้ภูเก็ตไม่ต้องการ เมื่อเข้ามาแล้วมาโวยวายสร้างความเดือดร้อนไม่ยากจะต้อนรับ อยากให้ ททท.แจ้งไปยังผู้ประกอบการทัวร์เกาหลีอย่าได้นำนักท่องเที่ยวในลักษณะดังกล่าวเข้ามาใน จ.ภูเก็ต

ด้านนางสุวลัย ปิ่นประดับ ผอ.ททท.ภาคใต้เขต 4 กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นน่าจะสืบเนื่องมาจากนักท่องเที่ยวต้องใช้เวลาในการรอการตรวจลงตราหนังสือเดินทางที่นาน เพราะลงในเที่ยวบินกลางคืนที่ค่อนข้างดึกเมื่อต้องมารอนานทำให้เกิดการโวยวาย ซึ่งเรื่องนี้น่าที่จะแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ด้วยการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ ตม.ให้เพียงพอกับความต้องการ

ขณะที่ พ.ต.อ.สุรศักดิ์ อรรถปัณยวณิช ผู้กำกับการด่านตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานภูเก็ต ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ ตม.ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่เกิดเหตุ ปฏบัติหน้าที่ตามกรอบที่กฎหมายกำหนด ซึ่งตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมืองมาตรา 12 (7) กำหนดไว้ชัดเจนว่า เจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธการเข้าเมืองหากเป็นว่าบุคคลดังกล่าวมีพฤติกรรมที่ไม่ดี และการให้บริการของเจ้าหน้าที่กระทำด้วยความรวดเร็วและยิ้มแย้มแจ่มใสแม้ว่าการทำงานจะมีเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอก็ตาม

?ครั้งนี้ไม่ใช้ครั้งแรกที่นักท่องเที่ยวเกาหลีแสดงกิริยาดังกล่าวที่ผ่านมามีการโวยวายบนเครื่องบิน และลงมาโวยวายต่อที่ตรวจคนเข้าเมือง เมื่อวันก่อนไม่พอใจก็รวมตัวกันประท้วงปิดทางขึ้นเครื่องบินของผู้โดยสารอื่นๆ ก็ทำมาแล้ว ซึ่งถือเป็นเรื่องที่แย่มาก และทาง ตม.ไม่ได้ทำหนังสือชี้แจงไปยังสถานทูตเกาหลี เพราะถือว่าเจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติไปตามกรอบของกฎหมายในการสกรีนคนที่จะเข้าเมือง ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของคนที่เข้ามาก่อความวุ่นวาย เข้ามาค้ายาเสพติด ตลอดจนเข้ามาค้าผู้หญิงและเด็ก เป็นต้น? ผกก.ตม.ท่าอากาศยานภูเก็ต กล่าวและว่า

ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต คำนึงแต่เรื่องของการท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว โดยไม่ได้คำนึงถึงเรื่องความมั่นคงและการสกรีนบุคคล และต้องยอมรับว่าตอนนี้เจ้าหน้าที่ ตม.ที่ปฏิบัติงานอยู่ที่สนามบินไม่เพียงพอ มีแค่ 5 คน ในขณะที่ตามกรอบกำลังแล้วจะต้องมีถึง 12 ช่อง ต้องทำงานทั้งกลางวันและกลางคืนและยืนยันได้ว่าทำงานบริการด้วยความรวดเร็วและเต็มใจบริการนักท่องเที่ยว และหลังจากนี้จะทำหนังสือรายงานผู้ว่าฯเพื่อส่งต่อให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาต่อไป

ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์