ภูเก็ต, ภูเก็ตติดกล้อง CCTV 48 จุด รักษาความปลอดภัยแหล่งท่องเที่ยว ( ข่าวภูเก็ต )

ตำรวจภูธรภูเก็ตลงนามความร่วมมือกับ ?CAT TELECOM? จัดตั้งศูนย์ควบคุมสั่งการและกล้องโทรทัศน์วงจรปิด 48 ตัว ใน 3 โซนหลัก ทั้งป่าตอง กะรน และเมืองภูเก็ต ด้วยงบผู้ว่าฯซีอีโอ 16 ล้านบาท อีก 180 วัน ใช้งานได้เลย หวังสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัย ให้ประชาชน และนักท่องเที่ยว เตรียมขยายให้ทั่วเกาะ พร้อมดึงเอกชนร่วมโครงการในอนาคต

วันนี้ (7 ส.ค.) พล.ต.ต.เดชา บุตรน้ำเพชร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และ นายมารุต บูรณะเศรษฐกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานตลาดและการขาย บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ร่วมลงนามให้บริการ CAT IT Security เพื่อรองรับ ?โครงการจัดตั้งศูนย์ควบคุมสั่งการ และติดตั้งกล้องโทรทัศน์ผ่านอินเทอร์เน็ต สำหรับเฝ้าระวัง ป้องกัน และรักษาความปลอดภัย ในพื้นที่หาดป่าตอง หาดกะรน และเมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต? โดยมี นายอุดมศักดิ์ อัศวรางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และนางสุวลัย ปิ่นประดับ ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภาคใต้เขต 4 ร่วมเป็นสักขีพยาน

การติดตั้งศูนย์ควบคุม และกล้องโทรทัศน์ในพื้นที่ภูเก็ตครั้งนี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลความปลอดภัย ในชีวิตและทรัพย์สิน ของประชาชนและนักท่องเที่ยว ที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในภูเก็ตมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ บริษัท CAT Telecom ได้รับความไว้วางใจจากจังหวัดภูเก็ต โดยตำรวจ จ.ภูเก็ต ได้ดำเนินโครงการดังกล่าว เนื่องจากมีขีดความสามารถเป็นที่ยอมรับด้านการวางระบบติดต่อสื่อสารผ่านโครงข่ายสัญญาณใยแก้วนำแสง โดยการนำ IT Technology และการจัดทำระบบรักษาความปลอดภัย ให้แก่เครื่อข่ายสารสนเทศ ที่มีอยู่ในบริการ CAT IT Security รวมถึงการเชื่อมโยงเข้ากับเทคโนโลยีมัลติมีเดีย สื่อสารไร้สายความเร็วสูง ภายใต้ระบบ CDMA 20001XEV-DO ที่สามารถตอบสนองการใช้งานได้ทุกรูปแบบ อาทิ PDA, Notbook หรือ ?Wireless Terminal?

สำหรับการติดตั้งระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด CCTV ในโครงการนี้ มีความแตกต่างจากกล้องวงจรปิดทั่วไป ตรงที่เป็นการเชื่อมต่อกับเครื่อข่ายอินเทอร์เน็ต และเทคโนโลยีมัลติมีเดียสื่อสารไร้สายความเร็วสูง CDMA ซึ่งเป็นการเพิ่มศักยภาพให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเตรียมรับเหตุการณ์ต่างๆ หรือภัยคุกคามที่ไม่คาดคิด และติดตามผู้ก่อการร้ายได้อย่างทันท่วงที ไม่ว่าเจ้าหน้าที่จะอยู่ในจุดที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ก็สามารถตรวจสอบข้อมูลผ่าน Browser ได้ และนอกจากจะเป็นผู้วางระบบแล้ว ยังเป็นผู้พิทักษ์ความปลอดภัย ให้กับเครือข่ายเชื่อมโยงโครงการดังกล่าว

สำหรับรูปแบบการทำงานของระบบ จะเป็นการส่งสัญญาณภาพผ่านโครงข่ายสื่อสารแบบดิจิตอล TCP/IP สามารถตรวจดูภาพระยะไกล-ใกล้ และควบคุมทิศทางกล้องได้ตามต้องการอย่างมีประสิทธิภาพ

เฟสแรกกำหนดที่จะติดตั้งกล้องโทรทัศน์ ในพื้นที่บริเวณ อ.เมืองภูเก็ต 16 ตัว บริเวณหาดป่าตอง 16 ตัว และบริเวณหาดกะรน 16 ตัว เพื่อให้สามารถนำไปสู่การเชื่อมโยงระบบกล้องวงจรปิดที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารระบบ Interractive รวมทั้งจะมีการจัดตั้งศูนย์ควบคุมกลางขึ้น 3 จุด คือ ที่บริเวณกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ในการเชื่อมเครื่อข่ายไปยังศูนย์ควบคุมย่อยที่สถานีตำรวจ อ.กะทู้ หาดป่าตอง และศูนย์ควบคุมย่อย สถานีตำรวจฉลอง หาดกะรน อย่างสมบูรณ์แบบ โดยมีมูลค่าการลงทุนจากงบผู้ว่าฯซีอีโอ 16 ล้านบาท โดยหลังจากนี้ อีก 180 วัน การติดตั้งระบบดังกล่าวจะแล้วเสร็จทั้งหมด

นายอุดมศักดิ์ อัศวรางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การติดตั้ง CCTV เป็นความพยายามในการดูแลความปลอดภัย ให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว ซึ่งที่ผ่านมาจังหวัดภูเก็ตได้พยายามผลักดัน ซึ่งที่ผ่านมาภูเก็ต มีการติดตั้ง CCTV มาแล้วที่หาดป่าตอง แต่เมื่อชำรุดได้ยกเลิกไป เมื่อเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ จังหวัดภูเก็ตจึงได้คิดที่จะดำเนินการโครงการติดตั้งกล้อง CCTV ขึ้นมาอีก โดยใช้งบประมาณผู้ว่าฯซีอีโอจำนวน 16 ล้านบาท ติดตั้งกล้อง CCTV ในพื้นที่ล่อแหลมและพื้นที่สำคัญๆ

ในปี 2550 จะมีการตั้งงบประมาณเพิ่มอีก 16 ล้านบาท เพื่อติดตั้งในจุดอื่นๆ อีก และระยะต่อไปหากเป็นไปได้ต้องการที่จะให้เอกชน โรงแรมและผู้ประกอบการติดตั้งกล้อง CCTV โดยการเชื่อมต่อกับศูนย์ควบคุมของตำรวจ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด

พล.ต.ต.เดชา บุตรน้ำเพชร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การติดตั้งกล้องดังกล่าวจะเป็นการช่วยดูแลรักษาความปลอดภัย ให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะภูเก็ตมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพียง 1,015 นาย ต้องเข้าเวรตลอด 24 ชั่วโมง ผลัดละไม่เกิน 100 คน ซึ่งไม่เพียงพอ การเอาระบบไอทีเข้ามาช่วยดูแลความปลอดภัย ถือเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก เพราะจะขอเพิ่มในส่วนของกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ คงจะดำเนินการไม่ได้อย่างแน่นอน

สำหรับในเฟสแรกจะติดตั้งใน 3 โซนที่สำคัญก่อน คือ หาดป่าตอง หาดกะรน และเมืองภูเก็ต หลังจากนั้นเฟส 2 ก็จะขยายไปยังพื้นที่อื่นๆ เพราะภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวมีธรรมชาติสวยขนาดไหน แต่ไม่ปลอดภัยนักท่องเที่ยวก็ไม่กล้าเข้ามาท่องเที่ยว

ด้านนางสุวลัย ปิ่นประดับ ผอ.ททท.ภาคใต้ เขต 4 กล่าวว่า ความปลอดภัยถือเป็นสิ่งสำคัญสูงสุดด้านการท่องเที่ยว เพราะหากไม่ปลอดภัย นักท่องเที่ยวไม่เข้ามาอย่างแน่นอน การติดตั้งกล้องวงจรปิดเป็นหลักประกันให้นักท่องเที่ยว ว่า เมื่อเข้ามาภูเก็ตแล้วจะได้รู้สึกปลอดภัย ซึ่งในอนาคต เมื่อภูเก็ตติดตั้งกล้องวงจรปิดทั่วทั้งเกาะแล้ว สามารถที่ใช้เป็นจุดขายในเรื่องของความปลอดภัยให้ภูเก็ต เป็นจุดหมายปลายทางที่ปลอดภัยที่สุด

ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์