ภูเก็ต, ชงโครงการอ่าวภูเก็ตเสนอ ครม.อีก จ้างผู้เชี่ยวชาญศึกษาข้อมูลเชิงลึก ( ข่าวภูเก็ต )
เตรียมเสนอโครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ตเข้า ครม.อีกครั้ง เพื่อว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาที่มีความเชี่ยวชาญศึกษาความเป็นไปได้ในเชิงลึก โดยยึดผลการศึกษาของกรมโยธาฯเป็นแม่แบบ รอง ผวจ.ภูเก็ต เผย ล่าสุด มีนักลงทุนเข้ามาติดต่อเสนอตัวพัฒนาแล้วหลายราย ส่วนการลงทุนคาด จะเป็นการร่วมทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน
นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า วันนี้ (1 ส.ค.)นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รักษาการรองนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานประชุม เพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ต ที่ จ.ภูเก็ต โดยการดำเนินโครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ต ล่าสุด ได้มีการประชุมร่วมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ ทำเนียบรัฐบาล โดยมี นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ เป็นประธาน
การประชุมดังกล่าวได้มีการพิจารณาทบทวนรายละเอียดของโครงการอีกครั้ง ทั้งเรื่องของกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นในโครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของมารีนา ไอซีที ศูนย์ประชุม ซึ่งในการพิจารณาจะต้องดูว่ากิจกรรมต่างๆ ที่กำหนดไว้ มีความครอบคลุมมากน้อยแค่ไหน และยังจะต้องเพิ่มเติมในเรื่องอะไรเข้าไปอีกบ้าง
สำหรับประเด็นในเรื่องของกิจกรรม ที่กำหนดไว้ในโครงการ ทุกฝ่ายเห็นด้วย แต่อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการศึกษาลงไปในเชิงลึกอีกครั้ง โดยให้ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ รวมทั้งเรื่องของจุดคุ้มทุน เรื่องของการทำตลาด และรูปแบบการดำเนินการ โดยใช้ผลการศึกษาของกรมโยธาธิการและผังเมือง เป็นแม่แบบ เพราะผลการศึกษาของกรมโยธาธิการและผังเมือง ได้ศึกษาไว้อย่างละเอียดแล้วพอสมควร
ส่วนเรื่องที่ 2 ที่มีการพิจารณาในการประชุมในครั้งนี้ คือ เรื่องของข้อกฎหมาย ซึ่งก็ได้มีการพิจารณากันทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายที่ดิน โดยมีการพิจารณาเกี่ยวกับสถานที่ที่ตั้งตัวโครงการ ว่า เป็นที่ดินตามประมวลกฎหมายที่ดินหรือไม่ ซึ่งโครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ต เป็นโครงการที่จะสร้างขึ้นในทะเล บริเวณอ่าวภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต นอกจากนั้น ยังได้มีการพิจารณาถึงเรื่องของพื้นที่โครงการถ้าหากเป็นที่สาธารณะ ผู้ที่จะเข้ามาดูแลจะเป็นหน่วยงานใด นอกจากนั้น ยังมีเรื่องของการเพิกถอนที่ดินสาธารณะ
นายนิรันดร์ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนั้น สิ่งที่ได้มีการพูดคุยกันในที่ประชุมครั้งล่าสุด คือ เรื่องของรูปแบบการลงทุน โดยมีการพิจารณากันในหลายรูปแบบ ทั้งการให้เอกชนเป็นผู้ลงทุนฝ่ายเดียว หรือเป็นการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน รวมทั้งรูปแบบการลงทุนระหว่างภาครัฐ ท้องถิ่นและเอกชน ซึ่งในการประชุมได้ข้อยุติและเห็นด้วยในหลักการในเรื่องของการลงทุน โดยแนวโน้มคาดว่า น่าจะเป็นการลงทุนร่วมระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ส่วนภาครัฐจะให้ทางท้องถิ่น หรือจังหวัดเข้าไปร่วมด้วยมากน้อยแค่ไหนคงจะต้องคุยรายละเอียดครั้ง
อย่างไรก็ตาม หลังจากการประชุม ที่ประชุมได้มอบหมายให้ฝ่ายเลขาฯ คือ สภาพัฒน์ ไปรวบรวมความคืบหน้าของการประชุมในครั้งนี้ เพื่อเสนอ ครม.พิจารณาอีกครั้งในเร็วๆนี้ เพื่อให้โครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ตมีความคืบหน้าต่อไป เพราะโครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ตจะต้องไปเกี่ยวเนื่องกับ พ.ร.บ.ร่วมทุน เนื่องจากโครงการที่จะใช้งบประมาณในการดำเนินการตั้งแต่1,000 ล้านบาทขึ้นไปจะต้องมีคณะกรรมการพิจารณา
นอกจากนั้น ยังไปเกี่ยวเนื่องกับเรื่องของการประชาสัมพันธ์ การทำประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็นของประชาชน เกี่ยวกับโครงการที่จะเกิดขึ้น ซึ่งจะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนได้เข้าใจในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น จะได้ไม่มีปัญหาเหมือนโครงการพัฒนาอื่นๆ
นายนิรันดร์ กล่าวถึงความสนใจของภาคเอกชน ที่จะเข้ามาลงทุนในโครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ต ว่า ขณะนี้มีบริษัทเอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ได้นำรูปแบบโครงการมาหารือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต หลายบริษัทด้วย เช่น บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ทุ่งคาฮาเบอร์ จำกัด (มหาชน) บริษัทจากประเทศจีน ญี่ปุ่น และเร็วๆ นี้ ก็มีบริษัทจากประเทศสิงคโปร์ ซึ่งโครงการที่แต่ละบริษัทนำมาเสนอ ส่วนใหญ่เป็นไปตามแบบที่กรมโยธาธิการกำหนดไว้ แต่อาจมีการเพิ่มเติมบางสิ่งเข้าไป เช่น เรื่องของเอ็นเตอร์เทนเมนต์ สนามกอล์ฟ รีสอร์ต และอื่นๆ
?เชื่อว่า เรื่องนี้จะมีการนำเข้าพิจารณาในการประชุม ครม.อีกครั้งในเร็วๆ นี้ เพื่อแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาอีกชุดในการดำเนินโครงการต่อไป?
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์