ภูเก็ต, ?ระเบียบรัตน์? เผยวัยรุ่นไทยติดเอดส์มากขึ้น ( ข่าวภูเก็ต )
?ระเบียบรัตน์? ติดตามผลการดำเนินงานศูนย์เฉลิมพระเกียรติเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยติดเชื้อเอดส์ เผย วัยรุ่นไทยปัจจุบันติดเชื้อเอดส์เพิ่มมากขึ้น เหตุจากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน
วันนี้ (25 ก.ค.) นางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช นายกสมาคมเสริมสร้างครอบครัว ให้อบอุ่นและเป็นสุข เป็นประธานการประชุม ติดตามผลการดำเนินงาน ของคณะอนุกรรมการของศูนย์เฉลิมพระเกียรติเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยเอดส์และผู้ติดเชื้อ H.I.V.ในจังหวัดภูเก็ต โดยมี นายวรพจน์ รัฐสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นางมณีพันธ์ อัศวรางกูร ประธานชมรมแม่บ้านมหาดไทย จังหวัดภูเก็ต ร่วมให้ข้อมูลการดำเนินงานศูนย์เฉลิมพระเกียรติเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยเอดส์ ในภาพรวม และเปิดตัวผู้บริจาคเงินสมทบกองทุนโรคเอดส์ทั้ง 3 อำเภอ ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต
นางระเบียบรัตน์ กล่าวแสดงความคิดเห็นกรณีเด็กวัยรุ่นฆ่าตัวตายมากเป็นอันดับ 1 จากปัญหารักร่วมเพศเดียวกัน ว่า เรื่องเพศที่ 3 ในสังคมไทย ยังเข้าใจไขว้เขวกันอยู่ และเมื่อมีเพศที่ 3 ขึ้นมากลายเป็นว่า เป็นพวกที่วิปริต หรือไม่เป็นธรรมชาติ ไม่เป็นธรรมดา จึงกลายเป็นแรงกดดัน สังคมต้องเปิดใจกว้าง ตั้งแต่ครอบครัวมาจนถึงสาธารณะ เพราะว่าการดูคนน่าจะดูที่ความรู้ ความสามารถ มากกว่า เพราะฉะนั้นการที่หญิงรักหญิง ชายรักชาย จึงไม่ใช่เรื่องแปลก
การที่มีการฆ่าตัวตาย เป็นเหตุผลระหว่างคนสองคน ซึ่งก็เหมือนหญิงรักชาย ชายรักหญิง เหตุผลของการฆ่าตัวตายส่วนหนึ่งมาจากแรงกดดันจากการที่สังคมไม่ยอมรับ กรณีที่มีเพศเกินกว่า 2 เพศ เพราะฉะนั้นสังคมต้องคิดใหม่ว่า วัยรุ่นและเยาวชนมีอารมณ์ที่อ่อนไหวมาก เมื่อถูกกดดันก็อาจจะคิดว่าสังคมไม่ให้โอกาส และเกิดความน้อยเนื้อต่ำใจเกิดขึ้น
นางระเบียบรัตน์ กล่าวอีกว่า ความรักของวัยรุ่นเป็นรักที่อาจจะไม่กลั่นกรองเท่าที่ควร อยากให้วัยรุ่นได้รู้ว่า รักที่ควรจะรักขณะเรียนนั้น คือ รักเกียรติของตัวเอง รักพ่อแม่ รักในชื่อเสียง สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเอง สังคมและวงศ์ตระกูล ซึ่งก็จะทำให้วัยรุ่นกลายเป็นผลพวง ที่สะท้อนที่ดีที่สุดของสังคม ในเรื่องเซ็กซ์ เพราะว่าสิ่งกระตุ้น หรือสิ่งเร้าจากสื่อที่ปรากฏมาตลอด ด้วยพฤติกรรมของผู้ใหญ่ที่ทำให้เด็กเอาเป็นเยี่ยงอย่าง ทั้งนักร้อง นักแสดง บุคคลที่อยู่ในสังคม เราสอนให้เด็กเป็นคนดีมีคุณธรรม
ในขณะเดียวกัน สังคมยังมีค่านิยมในการมีเมียหลายคน สังคมยังติดในเรื่องการเลี้ยงดูเด็ก อุปการะเด็ก เพื่อเป็นเครื่องสนองทางเพศ หรือสังคมสอนให้เด็กเป็นคนดี แต่ยังกินเหล้ายังสูบบุหรี่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำให้เด็กสับสน มองว่า เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่ถูก เพราะฉะนั้นจึงอยากให้สถาบันครอบครัวช่วยกันดูแลให้ใกล้ชิด และสถาบันที่ 2 คือ สถาบันสื่อมวลชน ให้ผลิตและนำเสนอสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่วัยรุ่นและเยาวชน ไม่อยากให้คิดว่าถ้าได้ประโยชน์ ได้สร้างหนัง สร้างละคร หรือทำหนังสือประเภทโป๊ ถูกใจวัยรุ่น ส่งผลให้เด็กถลำ เข้าสู่เรื่องของการเปลืองเนื้อเปลืองตัวแล้วส่งผลให้มีเพศสัมพันธ์ที่เร็วขึ้น ทำให้เป็นปัญหาในสังคมปัจจุบัน
ปัจจุบันค่านิยมของการมีเพศสัมพันธ์ของวัยรุ่น ไม่นิยมสวมถุงยางอนามัย ทำให้เกิดปัญหาการตั้งครรภ์ในหมู่วัยรุ่นมากขึ้น แล้วตามมาซึ่งปัญหาของการทำแท้ง ปัญหาอาชญากรเด็ก ทั้งเรื่องของเอดส์ ซึ่งแพร่ระบาดในกลุ่มวัยรุ่นค่อนข้างมาก
การดำเนินการ กรณีที่พบว่า มีเด็กในสังคมปัจจุบันติดเชื้อเอดส์เพิ่มขึ้น เป็นเพราะว่าเด็กอยู่ในวัยคะนอง จากประสบการณ์ที่ทำงานเกี่ยวกับปัญหาเอดส์มาร่วม 8 -9 ปี เด็กไม่เชื่อว่าในวัยเดียวกัน กลุ่มเดียวกันจะเป็นเอดส์ ตรวจเลือดเจอแล้วก็ไม่ได้ทุกข์ร้อน เพราะไม่เห็นว่ามีอะไรผิดปกติ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องที่อันตรายที่สุด
การมีเพศสัมพันธ์ขณะที่ติดเชื้อเอดส์นั้น เพียงครั้งเดียวก็สามารถแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งตรงนี้เป็นเรื่องที่เราจะต้องสร้างความเข้าใจให้เด็กได้ตระหนักแล้วก็ป้องกัน เพราะถ้าติดแล้ว ทำได้อย่างเดียว คือ ทำอย่างไรไม่ให้มีการแพร่เชื้อ ทำอย่างไรให้สุขภาพแข็งแรง ซึ่งอันนี้เป็นเรื่องของการเป็นแล้วแก้ไม่ได้ แต่สามารถป้องกันได้ คือ ให้ความรู้กับเด็กโดยขอความร่วมมือจากกระทรวงศึกษาธิการ ครู ผู้ปกครอง หรือครูแนะแนวต้องย้ำตนเอง
ภารกิจเร่งด่วนของศูนย์เฉลิมพระเกียรติฯ คือ การสร้างเครือข่ายให้เป็นองค์ความรู้ที่จะช่วยกันดูแลเยาวชนที่ดีที่สุด คือ สถาบันการศึกษา อาจจะพูดหน้าเสาธง พูดย้ำ แล้วที่ทำมาตอนนี้ คือ เรื่องการตั้งชมรมรักนวลสงวนตัว ในแต่ละโรงเรียน ซึ่งที่กรุงเทพมหานครมีโรงเรียนเข้าโครงการรักนวลสงวนตัว ประมาณ 100 โรงเรียน มีเด็กเข้ารับการอบรมกว่า 800 คน
เด็กพวกนี้คือเครือข่ายที่จะขยายผลออกไป ซึ่งต้องทำทุกรูปแบบ คือ 1.ให้ความรู้ 2.ให้ทำกลุ่มที่สร้างประโยชน์ให้สังคม ให้เขาตระหนักรู้ว่าหน้าตาสวย ๆ ไม่มีใครรู้ว่าติดเอดส์หรือไม่ นอกจากไปตรวจเลือด สิ่งที่น่ากลัวที่สุดของโรคเอดส์ คือ ไม่มีบาดแผล ไม่สามารถมองเห็นว่าบุคคลนั้นเป็นเอดส์ ตรงนี้น่ากลัวที่สุด ถ้าเป็นโรคอื่นยังสามารถมองเห็นได้
สำหรับ ในสังคมไทย 60 คน มีโอกาสเป็นเอดส์ 1 คน มีประชากรกว่าล้านคน ที่ป่วยเป็นเอดส์ ตรงนี้เป็นสิ่งที่ต้องสร้างความรู้ความเข้าใจ และในขณะเดียวกัน ก็สามารถป้องกันไม่ให้มีการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ออกไปอีก โดยให้หยุดแค่ตัวเขา ไม่ให้ไปมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใส่ถุงยางอนามัย คนที่เป็นเอดส์จะใช้วิถีชีวิตที่ปกติ แม้ว่าจะมีภรรยาเป็นเอดส์ด้วยหรือไม่ ก็สามารถใช้ชีวิตเป็นปกติได้ การมีเพศสัมพันธ์ให้ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง จะเป็นการป้องกันที่ดีที่สุด
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์