ภูเก็ต, ?บ.อินเทนซีฟ? ขนเงิน 170 ล.ปั้น ?ที่ราชพัสดุท่าเรือภูเก็ต? เป็นมารีนา ( ข่าวภูเก็ต )
ธำรงค์ ทองตัน ธนารักษ์พื้นที่ภูเก็ต
?บริษัท อินเทนซีฟ เมคคานิคส์ จำกัด? จากกรุงเทพฯ ทุ่มเงินลงทุนกว่า 170 ล้านบาท พัฒนาที่ราชพัสดุแปลงท่าเรือน้ำลึกภูเก็ตเป็นมารีนาหรู รับเรือยอชต์ต่างชาติ เสร็จภายใน 3 ปี พร้อมจ่ายผลตอบแทนให้รัฐสูงถึง 10.5 ล้านบาท ขณะที่ธนารักษ์พื้นที่ภูเก็ตเตรียมนำที่ราชพัสดุแปลงใจกลางเมืองที่เป็นส่วนราชการใช้อยู่ 4 แปลง มาให้เอกชนลงทุน โดยย้ายส่วนราชการไปอยู่ในแปลง 155 ให้เอกชนลงทุนสร้างออฟฟิศจ่ายเป็นผลตอบแทน เผยปี 49 เก็บรายได้กว่า 200 ล้านบาท ทั้งค่าเช่าและนำที่ดินหาประโยชน์
นายธำรงค์ ทองตัน ธนารักษ์พื้นที่ภูเก็ต เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเปิดให้เอกชนเข้ามาลงทุนในที่ราชพัสดุแปลงที่ ภก.308 ว่า ตามที่กรมธนารักษ์ได้เปิดให้เอกชนเข้ามาประมูล ที่ราชพัสดุแปลงที่ ภก.308 เนื้อที่ 25 ไร่ 3 งาน ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆกับท่าเทียบเรือน้ำลึกภูเก็ต บ้านอ่าวมะขาว ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต ซึ่งเปิดประมูลมาตั้งแต่ปี 2547 และล่าสุดที่เปิดประมูล ปรากฏว่ามีบริษัทจากส่วนกลางยื่นเสนอขอลงทุน 2 ราย รายแรกลงทุนโฮมสเตย์ และอีกราย คือ บริษัท อินเทนซีฟ เมคคานิคส์ จำกัด เสนอลงทุนเป็นที่จอดเรือและซ่อมเรือยอชต์ (มารีนา)
จังหวัดภูเก็ต ได้พิจารณาให้ ?บริษัท อินเทนซีฟ เมคคานิคส์ จำกัด? ซึ่งเป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจด้านท่าเรือจากส่วนกลาง ชนะการประมูลได้ที่ดินแปลงดังกล่าวไปพัฒนา เนื่องจากได้เสนอที่จะลงทุนในส่วนของมารีนา สำหรับเป็นที่จอดเรือยอชต์และซ่อมแซมเรือ ด้วยเงินลงทุน 170 กว่าล้านบาท พร้อมจ่ายผลตอบแทนให้รัฐ 10.5 ล้านบาท
ที่สำคัญ การลงทุนมารีนาสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดภูเก็ต ที่ส่งเสริมให้มีมารีนาสำหรับดึงเรือยอชต์จากต่างชาติให้เดินทางเข้ามาที่ภูเก็ตมากขึ้น และสอดคล้องกับผังเมืองที่กำหนดให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่สีม่วงในการลงทุนด้านอุตสาหกรรม และคลังสินค้า จึงให้บริษัทดังกล่าวชนะการประมูล
นายธำรงค์ กล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้บริษัทได้จ่ายค่าตอบแทนจำนวน 10.5 ล้านบาทให้แก่รัฐแล้ว หลังจากนั้นก็เป็นหน้าที่ของบริษัทที่จะต้องเข้ามาลงทุน โดยการจัดทำรายละเอียดการลงทุนและรูปแบบทั้งหมดของโครงการ เพราะที่ได้ยื่นเสนอประมูลเข้ามานั้น เป็นเพียงรายละเอียดเบื้องต้น พร้อมทั้งจะต้องทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) การขออนุญาตจากกรมเจ้าท่าและท้องถิ่น ซึ่งทั้งหมดจะต้องดำเนินการให้เสร็จภายใน 3 ปีนับจากนี้
นายธำธงค์ ยังกล่าวถึง การนำที่ราชพัสดุแปลงอื่นๆ มาเปิดประมูลให้เอกชนเข้ามาลงทุนว่า ขณะนี้จังหวัดได้ทำแผนการศึกษาการใช้ประโยชน์ที่ดินราชพัสดุในภูเก็ตแปลงที่ 155 เนื้อที่ 125 ไร่ ซึ่งสำนักงานทรัพยากรธรณีเขต 2 ขอใช้อยู่ เพราะมองว่าการใช้ประโยชน์ของสำนักงานทรัพยากรธรณีเขต 2 ไม่คุ้มค่า และเทศบาลนครภูเก็ต มีโครงการที่จะตัดถนนผ่านเข้าไปด้วย
จังหวัดจึงมีแผนที่จะย้ายส่วนราชการที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองและเป็นย่านธุรกิจ 4 แห่ง ซึ่งประกอบด้วย สำนักงานพาณิชย์จังหวัดภูเก็ต สำนักงานประมงจังหวัดภูเก็ต อำเภอเมืองภูเก็ต และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาภูเก็ต ไปอยู่ในราชพัสดุแปลงที่ ภก.เพื่อนำที่ราชพัสดุทั้ง 4 แปลง มาเปิดประมูลให้เอกชนลงทุน โดยให้เอกชนจ่ายผลตอบแทนให้รัฐ ด้วยการสร้างสำนักงานให้แก่ส่วนราชการทั้ง 4 แห่ง รวมทั้งส่วนราชการอื่นๆ ที่เช่าที่เอกชนอยู่ด้วย
?จากที่ได้หารือร่วมกับหน่วยงานราชการทั้ง 4 หน่วย และหน่วยงานราชการที่เช่าที่เอกชน ทุกหน่วยงานเห็นด้วยต่อแนวคิดดังกล่าว แต่ทั้งนี้จังหวัดจะต้องขอความเห็นชอบ จากคณะกรรมการ ที่กระทรวงการคลังแต่งตั้งขึ้นมาพิจารณาว่า จะเห็นด้วยหรือไม่ หากคณะกรรมการเห็นด้วย จังหวัดภูเก็ตจะได้นำมาปฏิบัติต่อไป? นายธำรงค์ กล่าว และเผยอีกว่า
ในปี 2549 ธนารักษ์พื้นที่ภูเก็ต ได้ตั้งเป้าที่จะจัดเก็บราย ได้จากการนำที่ราชพัสดุมาหาประโยชน์ให้ได้ 41 ล้านบาท แต่คาดตลอดทั้งปีจะอยู่ที่ 43 ล้านบาท และรายได้จากทรัพย์สินของราชพัสดุที่ให้เช่าทั้งหมดอยู่ที่ 170 ล้านบาท
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์