ภูเก็ต, ผู้เชี่ยวชาญเยอรมนีแนะนครภูเก็ตนำน้ำเสียที่ผ่านการบำบัดผลิตประปา ( ข่าวภูเก็ต )
ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมจากประเทศเยอรมนี เสนอแนะเทศบาลนครภูเก็ตแก้ปัญหาน้ำประปาทั้งระบบ ให้นำน้ำเสียที่ผ่านการบำบัดจากบ่อบำบัดน้ำเสียแล้ว มาผลิตเป็นน้ำประปาใหม่ ส่วนปัญหาขยะที่ส่งเข้าเตาเผา แนะให้แยกขยะเปียกออกจากขยะแห้ง และเพิ่มอุณหภูมิการเผาให้สูงกว่า 850 องศาเพื่อลดปริมาณสารไฮออกซินที่เกิดจากขยะเปียก
เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (12ก.ค.) ดร.อีเบอร์ฮาร์ด บูมห์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมจากประเทศเยอรมนี ได้นำเสนอผลการศึกษาการแก้ปัญหาเรื่องน้ำของเทศบาลนครภูเก็ต ทั้งระบบบำบัดน้ำเสีย ระบบน้ำประปา และการจัดการขยะมูลฝอยของเทศบาลนครภูเก็ต เนื่องจากทางเทศบาลนครภูเก็ต ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ ในการส่งผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ มีการศึกษาปัญหาต่างๆ ซึ่งในส่วนของเทศบาลนครภูเก็ตได้เสนอให้ผู้เชี่ยวชาญจากเยอรมนีเข้ามาศึกษาเรื่องการพัฒนาการท่องเที่ยวในเขตเมืองภูเก็ต และการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม
โดยในส่วนของปัญหาสิ่งแวดล้อมนั้น ทางผู้เชี่ยวชาญได้เข้ามาศึกษาเป็นเวลา 3 สัปดาห์ และจะสิ้นสุดการศึกษาในวันที่ 14 ก.ค.2549 นี้ พร้อมทั้งจะนำผลการศึกษามอบให้กับทางเทศบาลนครภูเก็ตในการแก้ปัญหาเรื่องน้ำต่อไป
ดร.เบอร์ฮาร์ด บูมห์ กล่าวว่า จากการสำรวจแหล่งน้ำของเทศบาลนครภูเก็ต ที่หลังสวนเฉลิมพระเกียรติและแหล่งน้ำอื่นๆ ของเทศบาลที่จะนำมาทำเป็นน้ำประปานั้น เป็นแหล่งน้ำที่สมบูรณ์ แต่มีข้อแม้ว่าแหล่งน้ำดิบของเทศบาลที่มีอยู่ในขณะนี้ รวมทั้งแหล่งน้ำประปาที่เป็นขุมเหมืองของเอกชน 8 แห่ง ไม่เพียงพอในการผลิตเป็นน้ำประปารองรับในเขตเทศบาลนครภูเก็ต และในช่วงหน้าแล้งปิรมาณน้ำลดลงจำนวนมาก ทำให้ไม่เพียงพอกับความต้องการ เทศบาลนครภูเก็ต ต้องซื้อน้ำจากการประปาส่วนภูมิภาค และขุมเหมืองของเอกชนเพิ่มเติมทำให้ต้นทุนในการผลิตน้ำประสูงตามไปด้วย
เมื่อประกอบกับบ่อบำบัดน้ำเสียของเทศบาลนครภูเก็ต ที่มีอยู่ในขณะนี้เป็นบ่อบำบัดน้ำเสียที่ได้มาตรฐานระดับสากล น้ำที่ออกสู่จากระบบบำบัดนำเสียเป็นน้ำที่คุณภาพ เทศบาลนครภูเก็ตน่าที่จะนำน้ำที่ผ่านการบำบัดจากบ่อบำบัดน้ำเสียแล้วมาผลิตเป็นน้ำประปา โดยการลงทุนเพิ่มในส่วนของท่อและปั๊มน้ำ รวมทั้งจะต้องมีการกักเก็บน้ำฝน เมื่อนำน้ำจากทุกแหล่งมารวมกันจะทำให้ต้นทุนในการผลิตน้ำประปาของเทศบาลนครภูเก็ตอยู่ในอัตราที่ต่ำลง และปริมาณน้ำประปาจะเพียงพอกับความต้องการด้วย
ส่วนการจำกัดขยะมูลฝอยนั้น ดร.อีเบอร์ฮาร์ด บูมห์ กล่าวว่า โรงงานเตาเผาขยะของภูเก็ต เป็นเตาเผาขยะที่ดีที่สุดและทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และเป็นเตาเผาที่ได้มาตรฐานระดับสากล แต่การเผาขยะมีปัญหาสารอินทรียวัตถุที่เกิดจากขยะเปียกที่มีปริมาณสูงเกินไป เมื่อนำเข้าสู่เตาเผาจะทำให้เกิดสารไฮออกซินมาเป็นจำนวนมาก
ดังนั้น ทางแก้ปัญหาดังกล่าวจะต้องมีการคัดแยกขยะเปียกออกจากขยะแห้ง เพื่อลดปริมาณสารอินทรียวัตถุ และในส่วนของสารอินทรียวัตถุสามารถที่จะนำมาทำเป็นปุ๋ยหมัก ดังนั้น ทางเทศบาลนครภูเก็ตจะต้องคัดแยกขยะและใช้อุณหภูมิในการเผาสูงที่เกิน 850 องศา จะทำให้ลดปริมาณของสารไฮออกซินได้ และเมื่อสามารถทำได้ดังกล่าวแล้วทางเทศบาลนครภูเก็ตจะสามารถยืดอายุการใช้งานของเตาเผาได้อีกนานไม่จำเป็นต้องเพิ่มเตาเผาอีก 1 เตา
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์