ภูเก็ต, ยื้อเวลาอีก 2 วัน รื้อ-ไม่รื้อซอยพระบารมี 8 ชาวบ้านรุกที่สาธารณะ ( ข่าวภูเก็ต )

เทศบาลป่าตองขนกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ อส.ลงพื้นที่รื้อสิ่งปลูกสร้างรุกที่สาธารณะ ซอยพระบารมี 8 เขตเทศบาลตำบลป่าตอง ชาวบ้านขอเวลาอีก 2 วันให้คำตอบรื้อหรือไม่รื้อ

เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (22 มิ.ย.) นายเปี่ยน กี่สิ้น นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองป่าตอง นายขันตี ศิลปะ นายอำเภอกะทู้ พร้อมด้วยรอง ผกก.สภ.อ.กะทู้ เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 425 ตะกั่วป่า อส.ประมาณ 100 คน เดินทางไปยังซอยพระบารมี 8 เขตเทศบาลตำบลป่าตอง เพื่อทำการรื้อสิ่งปลูกสร้างของชาวบ้านที่สร้างอยู่บนถนนสาธารณะ และที่ดินสาธารณะ 61 ราย ตามที่จังหวัดได้สั่งการให้รื้อถอนบ้านเรือนของประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวให้เสร็จตั้งแต่วันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากบุกรุกสร้างบ้านอยู่บนถนนสาธารณะ และที่ดินสาธารณะ

อย่างไรก็ตาม เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงพื้นที่ ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวจำนวนหนึ่งรวมทั้งเด็กๆ ได้ออกมาตะโกนขอร้องให้เจ้าหน้าที่อย่ารื้อถอนบ้านเรือนของประชาชน พร้อมกับชูธงชาติและพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อยู่ตลอดเวลา พร้อมกับห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าในพื้นที่

นอกจากนั้น ยังมีประชาชนจากชุมชนปลากะตัก จากพื้นที่ อ.เมืองภูเก็ต ซึ่งเคยรวมตัวประท้วงเรียกร้องเรื่องที่อยู่อาศัยหน้าศาลากลางจังหวัดภูเก็ตกว่า 10 คนได้เดินทางไปให้กำลังใจกลุ่มชาวบ้านในซอยพระบารมี 8 ด้วย

ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่เข้าไปถึงพื้นที่ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองป่าตอง พร้อมด้วยนายอำเภอกะทู้ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ประชุมร่วมกับตัวแทนของชาวบ้านที่ได้รับการแต่งตั้งขึ้นมาจำนวนหนึ่งเพื่อหาข้อยุติ โดยในเบื้องทางเจ้าหน้าที่จะทำการกันเขตถนนกว้าง 6 เมตร โดยวัดจากกำแพงที่ดินของเอกชนซึ่งบริจาคที่ดินให้กับทางราชการใช้เป็นทางสาธารณะทางด้านซ้ายมือเข้ามา และจะขอรื้อถอนบ้านเรือนของประชาชนที่อยู่ในแนวเขต 6 เมตร ออกไป

แต่ชาวบ้านไม่ยินยอม เพราะบ้านเรือนของประชาชนที่อยู่ด้านซ้ายมือทั้งหมดจะต้องถูกรื้อออก รวมทั้งไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่วัดแนวเขตต่อหลังจากวัดไปได้ประมาณ 3 จุด ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องกลับมานั่งเจรจากับชาวบ้านใหม่โดยใช้เวลาในการเจรจานานพอสมควร

สำหรับการเริ่มต้นเจรจาใหม่นั้น มีการพูดกันเรื่องของการรื้อบ้านเรือนของประชาชนออกจากแนวเขตถนน 6 เมตร แต่ชาวบ้านไม่ยินยอม โดยอ้างว่าถ้ารื้อออกไปแล้วทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องแก้ไขปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัยให้กับชาวบ้านก่อน ถ้าไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้กับใช้บ้านได้ก็จะไม่ยอมรื้อถอน ถ้าทางหน่วยงานราชการจะรื้อถอนก็จะยอมตาย

โดยชาวบ้านอ้างว่าที่ดินที่ทางบริษัทเอกชนบริจาคเป็นทางสาธารณะนั้น มีความกว้างแค่ 1.50 เมตรเท่านั้น ไม่ใช่กว้าง 6 เมตร อย่างทางที่หน่วยงานราชการอ้าง และเรื่องของการรื้อถอนนั้นตัวแทนชาวบ้านจะต้องประชุมร่วมกับชาวบ้านทั้งหมดก่อน และขอเวลาจากทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีก 2 วัน เพื่อจะให้คำตอบว่าจะรื้อถอนหรือไม่

นอกจากนั้น ยังเรียกร้องขอให้มีการปล่อยไฟฟ้ากลับมาให้กับชาวบ้านด้วยหลัง เนื่องจากขณะนี้ชาวบ้านไม่มีไฟฟ้าใช้ เพราะถูกตัดไฟมาแล้วหลายวัน หลังจากที่ชาวบ้านขอเวลา 2 วันทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมทั้งเจ้าหน้าที่ได้เดินทางกลับออกจากพื้นที่ดังกล่าว เพื่อรอฟังคำตอบจากชาวบ้านว่าจะยินยอมรื้อหรือไม่

อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามชาวบ้าน พบว่า ชาวบ้านยอมรับว่าที่ดินที่ชาวบ้านอาศัยอยู่เป็นที่ดินสาธารณะและชาวบ้านจะยอมรื้อสิ่งรุกล้ำเข้ามาบนทางสาธารณะที่จะมีการตัดเป็นถนนกว้าง 6 เมตร แต่ถนนจะต้องเป็นถนนที่ตัดผ่านกลางหมู่บ้านที่มีอยู่ในปัจจุบันนี้ แต่ถ้าเจ้าหน้าที่ทำตามใจชาวบ้านจะไม่ยอมรื้ออย่างเด็ดขาด และสิ่งสำคัญที่ชาวบ้านต้องการขณะนี้ คือ เรื่องของกระแสไฟ เพราะชาวบ้านโดยเฉพาะเด็กนักเรียนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก

สำหรับที่ดินและถนน ซึ่งทางบริษัทเอกบริจาคให้กับทางราชการเพื่อใช้เป็นที่ดินสาธารณะจาก 2 บริษัทมีความกว้างประมาณ 20 เมตร โดยขณะนี้มีชาวบ้านอาศัยอยู่ประมาณ 61 หลัง มีชาวบ้านอยู่ประมาณ 250 คน และจากการตรวจสอบระวางแผ่นที่ของทางที่ดินจังหวัด และ ส.ป.ก.พบว่า ที่ดินดังกล่าวมีการกันเป็นถนนสาธารณะไว้ 6 เมตร

ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์