ภูเก็ต, อังกฤษไม่ให้กู้ซากเรือรบที่ภูเก็ต-หวังเป็นแหล่งดำน้ำในอันดามัน ( ข่าวภูเก็ต )
บริษัท อีส มารีน เอสบีเอส หมดหวังกู้ซากเรือดำน้ำอังกฤษสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้ว เมื่อรัฐบาลอังกฤษโดยกองบัญชาการทหารเรือ ไม่ยิมยอมให้กู้ซากเรือ หวั่นได้รับความเสียหายระหว่างกู้และขนส่ง และปัญหาดูแลรักษาหลังขึ้นจากทะเล ให้อยู่ในทะเลเป็นแหล่งดำน้ำต่อไป
นายอุดมศักดิ์ อัศวรางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวภายหลังทูตทหาร จากสถานทูตอังกฤษเข้าพบ เพื่อแจ้งเรื่องการระงับไม่ให้กู้ซากเรือดำน้ำขนาดเล็ก (Chariot) ที่จมอยู่ที่บริเวณเกาะดอกไม้ จ.ภูเก็ต ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 วันนี้ (21 มิ.ย.) ที่ห้องทำงาน ว่า นายเดวิด ฟอลล์ เอกอัครราชทูตอังกฤษ ประจำประเทศไทย ได้ส่งทูตทหารมาแจ้งให้ทราบว่า
รัฐบาลอังกฤษและทหารเรืออังกฤษ ไม่ยินยอมให้บริษัท อีส มารีน เอสบีเอส จำกัด ทำการกู้ซากเรือดำน้ำขนาดเล็ก ที่เกาะดอกไม้ของจังหวัดภูเก็ต ภายหลังจากที่ทางสถานทูตได้ทำหนังสือแจ้งมายังผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตแล้วก่อนหน้านี้
รัฐบาลอังกฤษโดยกองบัญชาการเรือ ได้สั่งห้ามไม่ให้บริษัทดังกล่าวดำเนินการใดๆ กับซากเรืออย่างเด็ดขาด เพื่อต้องการให้ซากเรือดังกล่าวอยู่ในทะเล เพราะเป็นห่วงว่าหากมีการกู้ซากเรือขึ้นมาอาจจะทำให้เกิดความเสียหาย จากกระบวนการกู้เรือ การขนส่ง และการตั้งแสดงนอกน่านน้ำ
นอกจากนี้ อยากให้นักดำน้ำได้เห็นซากเรือดังกล่าวที่พื้นทะเล เพราะตามธรรมเนียมแล้วเรือรบ เครื่องบิน หรือวัตถุระเบิดต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงสงคราม รัฐบาลอังกฤษจะไม่ทำการขนย้ายจะยังคงให้อยู่ในจุดที่เกิดเหตุทั้งสิ้น ซึ่งทูตทหารได้ยกตัวอย่างการรบที่เมืองออกซฟอร์ด ก็ไม่มีการย้ายอะไรทั้งสิ้น และที่สำคัญ การดูแลหลังจากที่กู้ขึ้นมาแล้วจะมีความลำบากมาก จึงอยากให้ซากเรือดังกล่าวอยู่ในที่เดิม
นายอุดมศักดิ์ กล่าวว่า เมื่อทางรัฐบาลอังกฤษมีความชัดเจนว่า จะไม่ยินยอมให้บริษัทดังกล่าวกู้ซากเรือ มีความเป็นไปได้ที่จะทำให้บริเวณที่เรือดำน้ำจม เป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ของภูเก็ต ซึ่งจะต้องมีการสำรวจจุดที่ชัดเจนว่าเรือจมอยู่ในบริเวณใด และสภาพของเรือที่จมอยู่ในขณะนี้มีสภาพเป็นอย่างไร มีทรายทับถมจนไม่เห็นตัวเรือแล้วก็เป็นไปได้ เพราะเวลาผ่านมาถึง 62 ปีแล้ว ซึ่งในเรื่องนี้คงจะต้องมีการหารือกันอีกครั้งหนึ่ง
สำหรับเรือดำน้ำขนาดเล็กทั้งสองลำของอังกฤษ ที่จมอยู่บริเวณเกาะดอกไม้ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้น เป็นเรือสอดแนมที่ต้องการเข้าไปวางระเบิด ทำลายเรือขนเสบียงอาหารของทหารญี่ปุ่น แต่เมื่อเรือรบได้ปล่อยเรือดำน้ำทั้งสองลำ ออกจากเรือรบ และได้เคลื่อนเรือรบออกมา ปรากฏว่า ทหารที่อยู่ในเรือดำน้ำคิดว่าเป็นใบพัดเรือของญี่ปุ่น จึงได้สละเรือเพื่อความปลอดภัย ทำให้เรือดังกล่าวจมอยู่ที่บริเวณ ใกล้ๆ กับเกาะดอกไม้ของอังกฤษ
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์
English
