ทรัพยากรธรรมชาติและ สวล.จ.ภูเก็ตเผยผลตรวจสอบโครงการก่อสร้างถนนและทางเดินทางเลียบพรุจิก อ.ถลาง พบมีการทำลายพรุบางส่วน พร้อมสั่ง อบต.หยุดดำเนินการก่อสร้างทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม พร้อมระบุพรุจิกได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำห้ามมีการทำลายเปลี่ยนแปลง
นายองอาจ ชนะชาญมงคล ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.ภูเก็ต กล่าวถึงการตรวจสอบโครงการก่อสร้างถนนลาดยางแอสฟัลต์คอนกรีต พร้อมทางเท้าและระบบไฟฟ้าเลียบ รวมทั้งระบบระบายน้ำออกจากพื้นที่พรุจิก หมู่ที่ 3, 4 ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ขององค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ไม้ขาว หลังจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ เนื่องจากชาวบ้านเกรงว่าโครงการดังกล่าวจะทำลายระบบนิเวศของพรุว่า หลังจากที่ได้มีการร้องเรียนของชาวบ้านถึงการจัดทำโครงการดังกล่าว ซึ่งเกรงว่าจะเป็นการทำลายระบบนิเวศป่าพรุ ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้เข้าไปตรวจสอบพบว่ามีการก่อสร้างต่างๆ ตามที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ทางสำหนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.ภูเก็ต จึงได้ได้มีหนังสือจากทางจังหวัดแจ้งไปยัง อบต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ให้หยุดดำเนินการโครงสร้างถนน พร้อมทางเดินทางรอบพรุจิก และขอให้จัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมให้ถูกต้อง
นายองอาจ กล่าวต่อไปว่า เนื่องจากจังหวัดภูเก็ตถูกควบคุมด้วยประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหนึ่งในมาตรการที่กำหนด คือ การสร้างถนนห่างจากชายฝั่งประมาณ 50 เมตร จะต้องมีการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม แต่ที่ผ่านมาโครงการดังกล่าวยังไม่มีการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม โดยได้มีการก่อสร้างไปก่อนแล้ว ซึ่งทางเจ้าของเรื่องแจ้งว่าไม่ได้มีการจัดตั้งงบประมาณสำหรับการทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมไว้ และยังยืนว่าการก่อสร้างไม่ได้ทำลายตัวพรุแต่อย่างใด เพราะทำบริเวณขอบ แต่อย่างไรก็ตามจากการเข้าไปตรวจสอบของเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพบว่ามีการทำลายตัวพรุไปบางส่วนแล้ว
นายองอาจยังกล่าวด้วยว่า พื้นที่ที่ทางอบต.ไม้ขาวดำเนินโครงการนั้นอยู่ในพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อมและเป็นพื้นที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระดับชาติ ตามมติ ครม.1 ส.ค.2543 ห้ามมีการเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่พรุ และจากนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมซึ่งได้สั่งการมให้ทุกจังหวัด จัดทำโครงการหนึ่งจังหวัดหนึ่งแรมซาร์ไซต์ หรือหนึ่งพื้นที่ชุ่มน้ำ เพื่อเป็นการอนุรักษ์ไว้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งในส่วนของภูเก็ตนั้นได้วางแผนไว้ว่าจะใช้พื้นที่พรุจิกในการดำเนินการ เพราะเป็นพื้นที่ที่ได้มีการประกาศไว้แล้ว โดยการดึงชุมชนให้เข้ามาร่วมด้วยในการดูแลรักษา
สำหรับเป็นพรุจิก เป็นส่วนหนึ่งของพรุไม้ขาว และมีสภาพความสมบูรณ์ตามธรรมชาติค่อนข้างดี มีเนื้อที่ตามหนังสือสำคัญที่หลวง (นสล.) ใน พ.ศ.2529 จำนวน 77 ไร่ 2 งาน 72 ตารางวา มีหนองน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งมีน้ำท่วมขัง มีหญ้าสูงและพืชน้ำหลายชนิด มีความหลากหลายของพรรณพืชและพันธุ์สัตว์
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์