ภูเก็ต, ผวจ.ภูเก็ตถกแผนค้นหาผู้สูญหายเหตุเรือล่ม - ทร.เผยพบแล้ว 1 ศพเป็นผู้หญิง ( ข่าวภูเก็ต )

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้ว่าฯ ภูเก็ตเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามค้นหาผู้สูญหายจากเหตุการณ์เรือล่ม กำหนดระยะเวลาค้นหาผู้รอดชีวิตเป็นเวลา 3 วัน และหลังจากนั้นจะเป็นการค้นหาผู้เสียชีวิตเป็นระยะเวลา 10 วัน พร้อมสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมรับมือหากพบผู้รอดชีวิตเพิ่ม เผยพบแล้ว 1 ศพเป็นผู้หญิง

เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (10 มี.ค.) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะทำงานศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจเพื่อแก้ไขปัญหาจากเรือล่ม จ.ภูเก็ต โดยมีนายสมิทธิ์ ปาลวัฒน์วิไชย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต, พล.ร.อ.อมรโชติ สุจิรัตน์ ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพเรือ ในฐานะรองผู้อำนวยการฝ่ายความมั่นคงจังหวัดภูเก็ต,นายโชตินรินทร์ เกิดสม ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต, พล.ต.ต.อภิรักษ์ หงษ์ทอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต, พ.ต.อ.อนันต์ ห่วงสายทอง ผกก.8 กองบังคับการตำรวจน้ำ, พ.ต.อ.วันไชย เอกพรพิชญ์ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต, พ.ต.อ.กฤษศักดิ์ สงมูลนาค ผกก.สภ.กะทู้, พ.ต.อ.ชินรัตน์ ฤทธาคณานนท์ ผกก.ฉลอง นางสาวอโนมา วงษ์ใหญ่ ผช.ผอ.ททท.สำนักงานภูเก็ต ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามสถานการณ์การช่วยเหลือผู้ประสบภัยกรณีเรือโชคสมบูรณ์ 19 ของบริษัทไดว์ เอเชีย จำกัด ซึ่งนำนักท่องเที่ยวไปดำน้ำชมปะการังที่หมู่เกาะสิมิลัน จ.พังงา จำนวน 30 คน และเกิดอับปางบริเวณห่างจากแหลมพรหมเทพ จ.ภูเก็ต ประมาณ 30 กิโลเมตร

ทั้งนี้ ได้มีการรายงานความคืบหน้าของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ทัพเรือภาคที่ 3 กองบังคับการตำรวจน้ำ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เป็นต้น ได้ทำการช่วยเหลือผู้โดยสารได้แล้วจำนวน 23 คน เป็นชาวญี่ปุ่น 3 ราย ชาวเยอรมัน 8 ราย สวิตเซอร์แลนด์ 3 ราย ออสเตรีย 1 รายและไทย 8 ราย ในขณะที่มีผู้สูญหายอีก 7 คน เป็นคนไทย 1 คน ญี่ปุ่น 1 คน เยอรมัน 1 ราย ออสเตรีย 2 คน และสวิตเซอร์แลนด์ 2 คน อนึ่งสำหรับบริษัทนำเที่ยวเจ้าของเรือได้ทำประกันภัยไว้กับ บริษัท New Hamshire วงเงินประกันภัยกรณีผู้เสียชีวิต รายละ 20,000 บาท และค่ารักษาพยาบาลแก่ผู้บาดเจ็บ รายละ 200,000 บาท

พล.ร.ต.อมรโชติ กล่าวรายงานต่อที่ประชุม ว่า จากการที่ทัพเรือภาคที่ 3 ได้จัดส่งเครื่องบินดอร์เนีย และเรือ ต.221 และยังได้ประสานกับตำรวจน้ำ ส่งเรือ ต.814 ออกไปทำการค้นหาผู้สูญหายในพิกัดที่ได้รับแจ้ง ปรากฎว่าจนถึงช่วงเช้าวันนี้ (10 มีค.) พบศพของผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นผู้หญิง ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่าเป็นสัญชาติใด ซึ่งคงต้องรอการตรวจพิสูจน์อีกครั้ง


นายปรีชา กล่าวภายหลังการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อวางแผนการติดตามค้นหาผู้สูญหายจากเหตุการณ์ว่า จากกรณีที่เรือโชคสมบูรณ์ 19 ได้อับปางลงในเขตอันดามันเมื่อคืนวันที่ 8 มี.ค.52 ที่ผ่านมา ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการค้นหามาแล้ว 1 วัน ในเบื้องต้นได้มีการช่วยเหลือผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวมาได้แล้ว 23 คน ส่วนการค้นหาผู้สูญหายตอนนี้ได้มีการประชุมวางแผนค้นหาผู้สูญหายแล้วและมีการตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจเพื่อแก้ไขปัญหาจากเหตุเรือล่มจังหวัดภูเก็ตขึ้นที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ตโดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประจำศูนย์ ซึ่งหวังว่าจะยังมีผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวอยู่ โดยในส่วนของการค้นหาผู้รอดชีวิตนั้นจะใช้เวลา 3 วัน หลังจากนั้นก็จะใช้แผนค้นหาผู้เสียชีวิตซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 10 วัน

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการค้นหานั้นจะต้องเร่งดำเนินการให้เสร็จโดยเร็วที่สุด เนื่องจากมีข้อจำกัดเพราะสามารถค้นหาได้เฉพาะในช่วงกลางวันเท่านั้น ประกอบกับในช่วงนี้พื้นที่จังหวัดภูเก็ตมีพายุคลื่นลมแรงทำให้การค้นหาเป็นไปด้วยความลำบาก แต่ก็จะต้องเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตให้เร็วที่สุด

โดยการค้นหาในวันนี้ (10 มี.ค) ได้รับรายงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่ามีการพบศพแล้วหนึ่งรายในเบื้องต้นเป็นผู้หญิงชาวต่างชาติ

นายปรีชากล่าวต่อไปว่า ในส่วนของการเตรียมความพร้อมของสถานพยาบาลกรณีพบผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวก็ได้มีการประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วพร้อมที่จะดำเนินการทันทีไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ส่วนเรื่องข้อมูลของผู้สูญหายและผู้รอดชีวิตนั้นมอบให้ททท.สำนักงานภูเก็ตคอยบริการข้อมูลและช่วยเหลือนักท่องเที่ยวและสถานทูต ส่วนนักท่องเที่ยวที่จะต้องเดินทางกลับในวันนี้ (10 มี.ค) ซึ่งชาวเยอรมัน 4 คน ก็ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอำนวยความสะดวกเรื่องของหนังสือเดินทางและส่งที่สนามบินภูเก็ต

นายปรีชากล่าวต่อว่า สำหรับการช่วยเหลือผู้ประสบภัยและสูญหายจากเหตุการณ์เรือลมในครั้งนี้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและจังหวัดได้ดำเนินการอย่างละเอียดและช่วยเหลืออย่างเต็มที่ แต่ก้อยากเตือนในส่วนของผู้ประกอบการเรือท่องเที่ยวให้เพิ่มความระมัดระวังเพื่อไม่ให้มีเหตุการณ์เกิดซ้ำรอย ก่อนที่จะออกเดินเรือทุกครั้งจะต้องสอบถามสภาพอากาศจากหน่วยงานที่เกี่ยว

ขณะที่เรื่องของคราบน้ำมันที่อาจจะไหลออกมาจากเรือลำที่เกิดเหตุนั้น นายปรีชา กล่าวว่า เรื่องนี้ก็คงจะต้องเข้าไปดูแลว่าจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมหรือไม่ แต่คิดว่าเรือลำที่เกิดเหตุไม่น่าจะมีปริมาณน้ำมันมากนัก

ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์