ภูเก็ต, รมว.ศึกษาฯมั่นใจพร้อมรับประชุมรัฐมนตรีศึกษาอาเซียนภูเก็ต ( ข่าวภูเก็ต )

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - รมว.ศึกษาฯลงพื้นที่ประชุมเตรียมพร้อม รับมือประชุมสภารัฐมนตรีศึกษาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครั้งที่ 44 และการประชุมรัฐมนตรีศึกษาอาเซียน ครั้งที่ 4 มั่นใจมีความพร้อมเต็มที่ ขณะที่เรื่องของการศึกษาของไทย รมว.มั่นใจมีการพัฒนาคืบหน้าไปมาก
วันนี้ (2 มี.ค.) ที่ห้องประชุมอันดามัน โรงแรมเชอราตัน แกรนด์ลากูน่า อ.ถลาง จ.ภูเก็ต นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่ายภายหลังเป็นประธานประชุมคณะกรรมการอำนวยการเตรียมความพร้อม จัดการประชุมสภารัฐมนตรีศึกษาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครั้งที่ 44 และการประชุมรัฐมนตรีศึกษาอาเซียน ครั้งที่ 4 ซึ่งจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 5-8 เมษายน 2552 ที่โรงแรมเชอราตัน แกรนด์ลากูน่าภูเก็ต ว่า
       
การประชุมครั้งนี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นการประชุมสภารัฐมนตรีศึกษาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครั้งที่ 44 ซึ่งจะประเทศเข้าร่วม 11 ประเทศ กับการประชุมรัฐมนตรีศึกษาอาเซียน ครั้งที่ 4 ซึ่งมีประเทศสมาชิกเข้าร่วม 10 ประเทศ ยกเว้น ติมอร์ เลสเต้ เนื่องจากยังไม่ได้เป็นสมาชิกอาเซียน โดยจะมีพิธีเปิดการประชุมอย่างเป็นทางการในเวลาประมาณ 11.00 น.วันที่ 6 เมษายน 2552
       
นอกจากนี้ ในส่วนของไทยจะมีการหารือทวิภาคีกับรัฐมนตรีศึกษาประเทศต่างๆ อย่างน้อย 2 ประเทศที่มีการเตรียมการกันไว้แล้ว คือ ประชุมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาของประเทศอินโดนีเซียกับประเทศบรูไน
       
สำหรับสาระสำคัญของการประชุมในครั้งนี้ เน้นร่วมมือในการที่จะเดินหน้าไปสู่เป้าหมายที่ยูเนสโกกำหนดไว้ว่า ในปี 2015 คือ จะต้องจัดการศึกษาเพื่อประชากรโลก หรือจัดการศึกษาเพื่อคนทุกคน ซึ่งต้องเตรียมการในการที่จะเปิดโอกาสให้ประชาชนในกลุ่มประเทศอาเซียนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 11 ประเทศ สามารถเข้าถึงการศึกษา ทั้งโอกาสที่จะเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ
       
ทั้งนี้ มีโครงการที่จะนำเสนอสู่ที่ประชุมพิจารณาจำนวน 10 โครงการ เช่น โครงการเกี่ยวข้องกับการศึกษาเด็กปฐมวัย การแก้ปัญหาเด็กเรียนหนังสือออกกลางคัน การศึกษาของผู้ด้อยโอกาส ผู้พิการ เด็กเร่ร่อน เด็กชายขอบ เด็กอพยพจากแนวชายแดนที่มีปัญหา การพัฒนาครู เป็นต้น
       
ในส่วนของความพร้อมของสถานที่ในจัดการประชุม คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา เพราะจังหวัดภูเก็ตมีการจัดประชุมต่างๆ ระดับนานาชาติมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งในการตัดสินใจเลือกจัดที่ภูเก็ต เนื่องจากมีความมั่นใจในศักยภาพ ซึ่งนอกจากจะเป็นประโยชน์ด้านการท่องเที่ยวของภูเก็ตซึ่งเป็นสถานที่จัดการประชุมแล้ว ยังเป็นประโยชน์กับจังหวัดใกล้เคียงในฝั่งอันดามัน เช่น พังงา กระบี่ เป็นต้น ด้วย
       
นอกจากนั้น นายจุรินทร์ ยังได้กล่าวถึงภาพรวมการศึกษาของไทย ว่ามีความคืบหน้าไปค่อนข้างมากโดยเฉพาะรัฐบาลชุดนี้ ได้มีนโยบายด้านการศึกษาที่ชัดเจนในการเพิ่มโอกาสและคุณภาพทางการศึกษา ที่เห็นชัดเจน คือ นโยบายเรียนฟรี 15 ปี อย่างมีคุณภาพ ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้เด็กไทยทุกคน ตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลจนถึงกระทั่งชั้นมัธยมปลาย รวมทั้งอาชีวศึกษาด้วย ได้มีโอกาสที่จะเข้าถึงการศึกษาโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายและจะต้องเป็นการเข้าถึงการศึกษาอย่างมีคุณภาพ
       
จากนโยบายดังกล่าวคิดว่าประเทศไทย มีความก้าวหน้ามากกว่าหลายประเทศแม้แต่ในกลุ่มประเทศอาเซียนด้วยกันเอง รวมทั้งการพัฒนาครู ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้การศึกษามีคุณภาพหรือไม่ เพราะหากครูมีคุณภาพเด็กก็จะมีคุณภาพตามไปด้วย

ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์