ศูนย์ข่าว ภูเก็ต –โครงการศูนย์ประชุมฯ ภูเก็ต รุดหน้า กรมธนารักษ์ตั้งคณะทำงานศึกษาข้อมูล ตามที่พ.ร.บ.ร่วมลงทุนกำหนดแล้ว คาดเสนอขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีได้ภายใน 2 เดือนจากนี้ เบื้องต้น คาดจะเป็นศูนย์ประชุมขนาดกลางจุได้ไม่เกิน 6 ,000 คน พร้อมเน้นการประชุมมากกว่าการแสดงสินค้า พร้อมเตรียมพัฒนาท่าเรือน้ำลึก ภูเก็ต ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
นายพิทักษ์ ดิเรกสุนทร ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารที่ราชพัสดุ 2 กรมธนารักษ์ เปิดถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ ภูเก็ต ว่า กรมธนารักษ์ได้รับมอบหมายให้เป็นเจ้าภาพในการดำเนินการโครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติจังหวัด ภูเก็ต ภายหลังจากที่คณะกรรมการจัดหาพื้นที่ก่อสร้างศูนย์ประชุมและนิทรรศการนานาชาติ ภูเก็ต ได้มีมติเลือกที่ราชพัสดุแปลงที่ภก.153 เป็นสถานที่ก่อสร้างศูนย์ประชุมฯ บนเนื้อที่ 150 ไร่ และมอบให้กรมธนารักษ์เป็นเจ้าภาพ
ขณะนี้ กรมธนารักษ์ได้แต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาศึกษาข้อมูลต่างๆ ตามพ.ร.บ.ร่วมลงทุนพ.ศ. 2535 มาตรา 6 โดยมีตนเป็นหัวหน้าคณะทำงาน เพื่อศึกษาข้อมูลตามที่สำนักงานคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติกำหนด 6 ด้านด้วยกัน เช่น ความสอดคล้องของโครงการต่อแผนพัฒนาเศรษฐกิจ ความเหมาะสมของโครงการ ความเป็นไปได้ของโครงการ รูปแบบโครงการและการลงทุน เป็นต้น ซึ่งคณะทำงานได้ลงมาพื้นที่ ภูเก็ต เพื่อศึกษาข้อมูลที่ดินแปลงดังกล่าว รวมไปถึงการรับทราบนโยบายของจังหวัด ภูเก็ต และหาข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำข้อมูลทั้งหมดเสนอกระทรวงการคลัง ในการเสนอขอความเห็นชอบโครงการจากคณะรัฐมนตรี
ในเบื้องต้น โครงการศูนย์ประชุมฯ ภูเก็ต จะเป็นโครงการขนาดกลางบรรจุผู้เข้าร่วมประชุมได้ประมาณ 5,000-6,000 คน และจะเน้นกิจกรรมด้านการประชุมมากกว่าการจัดแสดงสินค้า ส่วนรูปแบบการลงทุน มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นการลงทุนโดยรัฐบาล หรือให้เอกชนลงทุนหรือเป็นการร่วมลงทุนระหว่างรัฐบาลกับเอกชน โดยจะใช้เวลาในการศึกษาประมาณ 2 เดือน หลังจากนั้นก็จะเสนอคณะรัฐมนตรี เพราะอธิบดีกรมธนารักษ์ ได้เร่งรัดโครงการนี้เสนอคณะรัฐมนตรีให้ทันภายในเดือนตุลาคมนี้
ผู้ว่าฯเสนอแผนการลงทุนพัฒนาท่าเรือน้ำลึกที่นักลงทุนเสนอผ่านเข้ามา
สำหรับที่ราชพัสดุที่จะกันไว้ก่อสร้างศูนย์ประชุมฯ อยู่ในแปลงที่ ภก.153 กันเนื้อที่ไว้ 150 ไร่ อยู่ระหว่างโรงเรียนบ้านท่าฉัตรไชยกับอุทยานแห่งชาติสิรินาถ ขณะนี้กรมธนารักษ์ได้ทำหนังสือถึงกรมอุทยานแห่งชาติในการที่จะกันเนื้อไว้แล้ว เนื่องจากคณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ขยายเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติ
นายพิทักษ์ ยังกล่าวถึงการพัฒนาท่าเรือน้ำลึก ภูเก็ต ว่า อธิบดีกรมธนารักษ์เห็นด้วยแนวคิดที่ผู้ว่าราชการจังหวัด ภูเก็ต เสนอไปยังกรมธนารักษ์ ที่จะพัฒนาท่าเรือน้ำลึก ภูเก็ต เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ ฟรีเทรดโซน ตามที่นักลงทุนจากตะวันออกกลาง เสนอจะมาพัฒนาท่าเรือน้ำลึก ภูเก็ต เพราะนักท่องเที่ยวที่มากับเรือท่องเที่ยวไม่ได้ลงมาพักบนเกาะ ภูเก็ต ขึ้นมาเพื่อท่องเที่ยวเท่านั้น หลังจากนั้นก็จะลงกลับไปนอนในเรือ ทำให้ ภูเก็ต ได้ประโยชน์จากนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้น้อยมาก อธิบดีกรมธนารักษ์ต้องการที่จะให้ ภูเก็ต ได้รับประโยชน์จากนักท่องเที่ยวที่มาทางเรือให้มากขึ้น ซึ่งหลังจากที่หมดสัญญากับบริษัทที่บริหารท่าเรือในเดือนตุลาคมนี้ กรมธนารักษ์จะมีการพิจารณาการพัฒนาท่าเรือน้ำลึก ภูเก็ต ใหม่
ด้านนายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัด ภูเก็ต กล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็นโครงการศูนย์ประชุมฯหรือโครงการพัฒนาท่าเรือน้ำลึก หากรัฐมีความชัดเจนในการที่จะให้เอกชนเข้ามาลงทุน เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างแน่นอน เพราะขณะนี้มีเอชนสนทั้งไทยและต่างชาติ สนใจที่จะเข้ามาลงทุนอยู่แล้ว รอแต่เพียงความชัดเจนจากภาครัฐเท่านั้นเอง
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์